จุฬาฯออกแนวปฏิบัติ จนท.ช่วงรอมฎอน "ผ่อนปรนเวลางาน-กวดขันอบายมุข"
นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ออกเอกสาร "ข้อเสนอแนะของจุฬาราชมนตรี พ.ศ.2556 ว่าด้วยแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเดือนรอมฎอน" เพื่อให้ทุกส่วนราชการถือปฏิบัติในห้วงเดือนแห่งการถือศีลอด ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ก.ค.2556 ที่ห้องโถงอาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ บินล่าเต๊ะ ผู้แทนสำนักจุฬาราชมนตรี ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัดจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้นำศาสนา เจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานข้าราชการ และกลุ่มสตรี เข้าร่วมประชุมชี้แจงแนวปฏิบัติของส่วนราชการในเดือนรอมฎน ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้ออกข้อเสนอแนะมา
ทั้งนี้ "เดือนรอมฎอน" เป็นเดือนที่อัลลอฮ์ทรงประทานอัลกุรอานและบัญญัติให้มุสลิมถือศีลอด จึงเป็นเดือนแห่งการเพิ่มพูนคุณงามความดี การขัดเกลาจิตใจ การอภัยโทษ และการลบล้างความผิดพลาด ตลอดจนการหยิบยื่นความเอื้ออาทรต่อเพื่อนมนุษย์
สำหรับแนวทางปฏิบัติของส่วนราชการต่างๆ มีรายละเอียดดังนี้
- ช่วงเตรียมการเข้าสู่เดือนรอมฎอน
1.จัดให้มีบริการด้านสุขภาพแก่มุสลิมเพื่อเตรียมความพร้อมทางร่างกายในการถือศีลอดและปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ เช่น การตรวจสุขภาพ การชี้แจงแนวปฏิบัติของผู้ป่วยในการถือศีลอด การชี้แจงแนวปฏิบัติด้านการดูแลสุขภาพในเดือนรอมฎอน เป็นต้น
2.ให้ความรู้ด้านคุณค่าของการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอน เช่น บรรยายปฏิทินกิจกรรมรอมฎอน เอกสารประกอบการถือศีลอด ฯลฯ
3.อำนวยความสะดวกและการจัดสรรปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการถือศีลอดและการปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมฎอนแก่ผู้ด้อยโอกาส เด็กกำพร้า และผู้ต้องขังมุสลิมพร้อมกับครอบครัว
4.การสนับสนุนอาหารในการละศีลอดและปัจจัยสำหรับการปฏิบัติศาสนกิจ เช่น อินทผลัม น้ำตาลทราย หรือชุดละหมาด แก่องค์กรศาสนาอิสลาม มัสยิด และผู้ด้อยโอกาสในชุมชนอย่างทั่วถึง
- ช่วงเดือนรอมฎอน
1.ควรผ่อนปรนเวลาปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มุสลิม โดยมีช่วงเวลาปฏิบัติงานตั้งแต่ 08.30 - 15.00 น. เพื่อให้มีเวลาเตรียมความพร้อมสำหรับการละศีลอดและปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างมีคุณค่า
2.สนับสนุนให้ละศีลอดร่วมกัน ณ มัสยิดของแต่ละชุมชน โดยหน่วยงานราชการไม่ควรจัดกิจกรรมละศีลอดตามสถานที่ราชการ เพราะอาจจะกระทบกับความปลอดภัยและการปฏิบัติศาสนกิจของบุคคลในเดือนรอมฎอน
3.ควรงดเว้นการจัดกิจกรรมอบรม ประชุมสัมมนา สำหรับเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชนมุสลิมในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
4.ส่งเสริมและสนับสนุนการละหมาดตะรอเวียะห์และการเอี๊ยะติกัฟในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน โดยเฉพาะเยาวชนในทุกชุมชน และอาจให้มีรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับผู้ที่ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
5.ควรใช้สื่อของรัฐทุกประเภทเพื่อส่งเสริมการปฏิบัติศาสนกิจ เช่น การอ่านและศึกษาอัลกุรอานตลอดเดือนรอมฎอน ถ่ายทอดการละหมาดตะรอเวียะห์จากมัสยิดหะรอม ณ นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย และให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม เป็นต้น
- ช่วงหลังเดือนรอมฎอน (ประมาณ 8 วันหลังจากวันอิฎิ้ลฟิตรี หรือวันฮารีรายอ)
ขอความร่วมมือหน่วยงานราชการ องค์กรภาคเอกชน ร่วมกับองค์กรศาสนาอิสลาม จัดงานเฉลิมฉลองการสิ้นสุดเดือนรอมฎอนเพื่อสร้างความสันพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
- แนวทางปฏิบัติสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายและอำนวยความเป็นธรรม
1.กำชับและชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจทุกจุดให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้เป็นปัญหา อุปสรรค และควรดำเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติกิจทางศาสนา หากมีเหตุต้องตรวจค้นสตรี ต้องใช้เจ้าหน้าที่สตรีในการตรวจค้นเท่านั้น
2.สนับสนุนให้แจกจ่ายอาหารละศีลอดแก่ผู้สัญจรผ่านจุดตรวจ เช่น อินทผลัม และน้ำ ตั้งแต่ช่วงเวลา 17.00 น.เป็นต้นไป
3.ให้จัดระเบียบและกวดขันแหล่งอบายมุขอย่างเข้มงวด เพื่อดำรงไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของเดือนรอมฎอน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม จึงต้องยอมรับว่าการทำความเข้าใจร่วมกันถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ซึ่งมีความใกล้ชิดกับประชาชน การร่วมรับฟังข้อเสนอแนะของสำนักจุฬาราชมนตรีซึ่งเป็นสถาบันที่พี่น้องมุสลิมให้ความเคารพนับถือ จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทำความเข้าใจว่าส่วนราชการควรมีแนวปฏิบัติอย่างไรให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ และในช่วงเดือนรอมฎอนนี้ อยากให้ทุกคน ทุกฝ่ายลดความรุนแรงและควรให้อภัย ให้ความเมตตา มุ่งทำความดี เพื่อให้สันติสุขบังเกิดในพื้นที่ต่อไป
ประกาศดูดวงจันทร์ 8 ก.ค.
ขณะเดียวกันยังมีความเคลื่อนไหวจากสำนักจุฬาราชมนตรี เรื่องการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอนด้วย โดย นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง ดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ระบุว่า เพื่อให้การกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จุฬาราชมนตรีจึงประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.2556 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
หากมีผู้เห็นดวงจันทร์ในวันและเวลาดังกล่าวขอได้โปรดแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจักได้ตรวจสอบและรายงานผลการดูดวงจันทร์ดังกล่าวไปยังสำนักจุฬาราชมนตรี เพื่อดำเนินการต่อไป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : การละหมาดตะรอเวียะห์ในคืนรอมฎอน ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี
หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มภาพอิศรา