มอง “หน้ากากขาว” ถอย ...ถอยเพื่อตั้งหลัก หรือถอยแล้วถอยลับ

สร้างความมึนงงให้กับบรรดาแฟนคลับ เมื่อจู่ๆ กลุ่ม “หน้ากากขาว” ก็ประกาศหยุดพักกิจกรรมการเคลื่อนไหว ในกรุงเทพฯ โดยแจ้งผ่านหน้าแฟนเพจ V For Thailand ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารหลักในการนัดกลุ่มคนหน้ากากขาวทำกิจกรรม เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค.2556 โดยให้เหตุผลสั้นๆ ว่าเป็นเพราะ “ถูกกล่าวการเมืองแทรกแซง”
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org จึงสอบถามจากผู้มีประสบการณ์ในการจัดตั้ง “มวลชน” ถึงเงื่อนไขในการจัดตั้ง “มวลชน” ของกลุ่ม “หน้ากากขาว” ต้องสะดุดลงไป
ทั้งที่เพิ่งเริ่มทำกิจกรรมได้แค่ 4 สัปดาห์ !
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด กล่าวว่า ตนคิดว่าภาพใหญ่กิจกรรมมันมีอายุ ผู้บริหารกิจกรรมจะสามารถลากกระแสได้ยาวแค่ไหน มันเป็นเรื่องศิลปะ หน้ากากวีมาได้ 4 สัปดาห์ ผมถือว่าไกลมาก มันไม่เอื้อให้อยู่ยาว มันทำได้แค่นี้ มันไม่ใช่สัญลักษณ์ของการต่อสู้ ความเป็นหน้ากากมันมีข้อจำกัดในเมืองไทย มันไม่สอดคล้องกับสังคมไทย
นายสมบัติเล่าว่า ตนคิดว่าให้เขาพักแล้วตรวจสอบตัวเองถูกต้องแล้ว คนที่นำขบวนการต่อสู้ไม่เข้าใจรูปแบบ คนที่เคยต่อสู้อดีตมันใช้แนวตั้ง เขาจึงไม่เข้าใจการเคลื่อนไหวแกนนอน ตนทำให้มันเป็นระบบสหาย คนจึงติด คนจึงมากันเยอะ แต่หน้ากากวีคนนำแบบเดิมจะเข้ามาในหน้ากากวีทำให้คนทำเขาหวั่นไหว หน้ากากวีเขาต้องการคล่อยๆขยาย แต่ถูกแทรกแซงจึงทำให้เกิดปัญหา
“ผมคิดว่าเขาประกาศลงครั้งนี้จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งไม่ง่ายแล้ว แล้วผมเชื่อว่าคงลงถาวรแล้ว เพราะมันจะลากต่อไม่ได้แล้ว ลากต่อไม่ได้ไหว ถ้าจะเคลื่อนไหวครั้งหน้าต้องหาคนใหม่มา คนหน้าเก่ามันจะจุดติดยาก เพราะหาคนใหม่มาไม่ได้ หน้ากากวีแตกต่างจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตอนนั้นเขาเป็นคนใหม่หมด แต่ครั้งนี้เขาไม่ใช่คนใหม่แล้ว มาเคลื่อนไหวแบบนี้จะได้อะไรอีก ที่สำคัญประเด็นมันไม่ก้าวหน้า มันไม่ใหม่” นายสมบัติ กล่าว
ด้าน นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่ม พธม. กล่าวว่า ที่เขาแถลงถูกแล้ว เขาเบรคไว้ก่อนก็ถูกต้องแล้ว เพราะเขาเริ่มถูกแทรกแซง ส่วนกลุ่มการเมืองที่เข้าแทรกแซงตนไม่รู้ เขามองว่าเขาอาจจะเสียแนวทางของเขา จึงต้องชิงจังหวะเบรกไว้ก่อน
“ผมคิดว่าเป็นความฉลาดของเขา พลังของหน้ากากขาวมันได้คนรุ่นใหม่ไม่มากพอก็จริง คนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองยังไม่มาก ซึ่งเท่าที่ผมรู้เขาหาคนมาเพิ่มได้แล้ว 20 เปอร์เซ็นต์ มันกำลังโต ดังนั้นต้องทำงานโซเชียลมีเดียมากขึ้น อย่าลืมว่าการเลือกตั้งมันบ่งบอกว่ายังมีคนอีก 15 ล้านคน ที่เขาอยู่ตรงกลาง เขาไม่นิยมพรรคไหน หน้ากากขาวจึงต้องดึงคนเหล่านี้ออกมาให้ได้ ด้วยการทำความเข้าใจกับคน 15 คน แต่อย่าไปดูถูกเขา อย่าไปก้าวร้าวกับเขา” นายพิภพกล่าว
นี่คือทรรศนะของ “ผู้นำมวลชน” ส่วนความเคลื่อนไหวของ “หน้ากากขาว” จะรีเซ็ตตัวเองเพื่อ “สู้” หรือรีเซ็ตตัวเองเพื่อ “ถอย”
สถานการณ์หลังจากนี้จึงน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง !!!
- อ่านประกอบ
