จุฬาฯ ลงทุนหลักล้าน พัฒนาโปรแกรม ‘อักขราวิสุทธิ์’ กันนิสิตลอกวิทยานิพนธ์
จุฬาฯ ลงทุนหลักล้านบาท สั่งพัฒนาโปรแกรม ‘อักขราวิสุทธิ์’ เพื่อตรวจสอบการคัดลอกทำวิทยานิพนธ์-ดุษฎีนิพนธ์ ลั่นตรวจได้ทั้งภาษาไทยและเทศ ระบุยินดีให้มหาวิทยาลัยอื่นนำไปใช้ฟรี พร้อมเปิดใช้งานจริง 1 กรกฎาคมนี้ ยันจุฬาฯไม่มีการจ้างทำแน่

จากกรณี www.researchthailand.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์รับจ้างทำวิทยานิพนธ์-ดุษฎีนิพนธ์ โดยปรากฎชื่อของ อ.โยธี เป็นผู้ประสานงาน ได้มีการแอบอ้างชื่อของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และขณะนี้ได้ทำการปิดเว็บไซต์และช่องทางติดต่อลงไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2556 รศ.ดร.อมร เพชรสม คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ขอยืนยันว่าภายในจุฬาฯ ไม่มีเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุการอ้างชื่อบนเว็บไซต์ดังกล่าว ก็ได้มีการเตรียมมาตรการรองรับไว้อย่างเข้มงวดคือ 1) มาตรการสร้างจิตสำนึก 2) มาตรการป้องปราม และ 3) มาตรการติดตามและตรวจสอบ
รศ.ดร.อมร อธิบายว่า มาตรการทั้ง 3 จะเป็นส่วนช่วยให้การจ้างทำวิทยานิพนธ์-ดุษฎีนิพนธ์ลดลง โดยเฉพาะมาตรการที่ 2 ซึ่งจะกำหนดให้นิสิตเขียนวิทยานิพนธ์ด้วยโปรแกรม CU e-Thesis ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้นิสิตเขียนข้อมูลเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์-ดุษฎีนิพนธ์ และอาจารย์ที่ปรึกษาสามารถตรวจสอบได้ทันทีหากมีอะไรผิดปกติ
และมาตรการที่ 3 มีการใช้โปรแกรม Turnitin ซึ่งเป็นโปรแกรมตรวจสอบวิทยานิพนธ์-ดุษฎีนิพนธ์ ภาคภาษาอังกฤษ รวมไปถึงโปรแกรมที่จุฬาฯ พัฒนาขึ้นมาใหม่โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะอักษรศาสตร์คือโปรแกรม อักขราวิสุทธิ์ เป็นโปรแกรมที่สามารถตรวจสอบได้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษอีกด้วย
“โปรแกรม อักขราวิสุทธิ์ เริ่มพัฒนาเมื่อ 3 ปีก่อน โดยภาควิชาวิศกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศกรรมศาสตร์ ร่วมกับคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ใช้งบลงทุนหลักล้านบาท ได้ทดลองใช้ในวงจำกัดเมื่อภาคเรียนที่แล้ว ตอนนี้โปรแกรมสมบูรณ์เรียบร้อย พร้อมเปิดใช้งานในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ และจะเปิดให้บริการกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ มาใช้โปรแกรมนี้ฟรีอีกด้วย เพื่อจะได้เชื่อมฐานข้อมูลในการตรวจสอบให้กว้างมากยิ่งขึ้น” รศ.ดร.อมร กล่าว
เมื่อถามว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับ www.researchthailand.com หรือไม่ รศ.ดร.อมร กล่าวว่า ต้องหาต้นตอและผู้รับผิดชอบให้ชัดเจนเสียก่อน ทั้งนี้การสืบหาตัวการจริง ๆ เป็นไปได้ยาก เพราะส่วนใหญ่มักรู้กันอยู่ในวงในว่าต้องดำเนินการอย่างไรจึงจะปลอดภัย อย่างไรก็ตามตนไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก ดังนั้นมาตรการที่เข้มงวดของจุฬาฯ อาจช่วยลดกรณีดังกล่าวลงไปได้บ้าง
