วิสามัญฯผู้ต้องหาสลับบึ้ม จนท.รายวัน "ภราดร"แจงยังไม่ถึงรอมฎอน
ใต้ระอุ กำลังผสมตำรวจทหารปิดล้อมพื้นที่ ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา วิสามัญฯ "มะดารี ตาเยะ" ที่ถูกระบุเป็นแกนนำผู้ก่อความไม่สงบระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ พร้อมยึดปืนอาก้า-11 มม. เผยพัวพันคดีคาร์บอมบ์สายบุรีจุดกระแสห้ามทำงานวันศุกร์เมื่อปีที่แล้ว ด้านทหารชุดลาดตระเวนที่มายอ ปัตตานี โดนบึ้มครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วัน บาดเจ็บอีก 2 นาย กราดยิงรถน้ำ ยิงถล่มฐานเพียบ "ภราดร" แจงเหตุป่วนหนักเพราะยังไม่ถึงรอมฎอน ตำรวจจับเพิ่มผู้ต้องสงสัยบึ้มหน้ารามฯ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและมีเหตุรุนแรงรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย.2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (บก.ภ.จว.ยะลา) นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านต้องสงสัยในท้องที่หมู่ 5 บ้านแอแกง ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา หลังจากสืบทราบว่า นายมะดารี ตาเยะ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงหลายหมายได้หลบเข้าไปกบดานกับพวก
ทั้งนี้ เมื่อไปถึงบ้านเป้าหมาย ปรากฏว่ากลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยภายในบ้านมองเห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงเปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่ และวิ่งหลบหนีไปทางสวนยางพารารบทึบ ทำให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิงโต้ตอบ จนเกิดการยิงปะทะกันครู่ใหญ่ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.ต.ท.ปรีชา ถิ่นชนะ อายุ 36 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) กองกำกับการสืบสวน บก.ภ.จว.ยะลา เพื่อนตำรวจช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลรามัน แต่อาการสาหัส แพทย์ให้ส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ต่อมาในช่วงสาย พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองผบช.ศชต.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) สนธิกำลังกับทหารจากหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เข้าปิดล้อมพื้นที่โดยรอบเพื่อสกัดเส้นทางที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายจะใช้หลบหนี ซึ่งระหว่างนั้นมีการยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ ทำให้ทหารถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย คือ ส.ต.วราพล ธรฤทธิ์ อายุ 30 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12
วิสามัญฯ "มะดารี ตาเยะ"
หลังจากปิดล้อมนานกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงสามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ และพบศพ นายมะดารี ตาเยะ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 บ้านคอลอกาปะ หมู่ 6 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี โดยมีอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีนปืนตกอยู่ใกล้ๆ นอกจากนั้นห่างออกไปราว 50 เมตรยังพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.อีก 1 กระบอก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยที่เหลือใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้
จากแฟ้มประวัติของฝ่ายความมั่นคงระบุข้อมูลว่า นายมะดารี ตาเยะ เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับหัวหน้าชุดปฏิบัติการ (อาร์เคเค) อยู่ในกลุ่มของ นายมะซาวี กามะ ถูกออกหมายจับ ป.วิอาญา (ออกตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) จำนวน 4 หมาย ทั้ง สภ.กะพ้อ และ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี
นายมะดารี เคยเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ซุ่มโจมตีทหารพรานเสียชีวิต 4 นายและจุดไฟเผาเมื่อปี 2548 หลังจากนั้นในช่วงปี 2550 นายมะดารี มีหน้าที่รวบรวมกลุ่มเปอร์มูดอ (วัยรุ่น เยาวชน) ในพื้นที่เพื่อฝึกเข้าร่วมขบวนการ โดยรับผิดชอบพื้นที่ อ.กะพ้อ กับ ต.จะกว๊ะ อ.รามัน ซึ่งเป็นพื้นที่ติดต่อกัน
นอกจากนั้น ยังมีข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงบางหน่วย ระบุว่า นายมะดารีเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี เมื่อ 21 ก.ย.2555 ทำให้เกิดกระแสหยุดทำงานวันศุกร์เมื่อปีที่แล้วด้วย
บึ้มทหารที่มายอเจ็บ2 - แฉ3วันโดน2รอบ
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดทหาร สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15333 (ร้อย ร.15333) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเดินเท้าเพื่อตรวจตราเส้นทางและรักษาความปลอดภัยครู เหตุเกิดบริเวณสี่แยกถนนในหมู่บ้าน บ้านแขนท้าว หมู่ 1 ต.เกาะจัน อ.มายอ แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ ส.อ.แวเล๊าะ หาเล็ง อายุ 35 ปี หัวหน้าชุด อาการสาหัส และ พลทหารสิทธิศักดิ์ ศิริสุข อายุ 23 ปี
ทั้งนี้ ระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม ประกอบใส่ในถังดับเพลิง จุดชนวนด้วยการช็อตไฟฟ้า โดยลากสายไฟฟ้ายาวเข้าในป่าละเมาะประมาณ 200 เมตร ทั้งนี้ ทหารกองร้อย 15333 ชุดลาดตระเวนเส้นทาง เพิ่งถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 1 นาย ในท้องที่ อ.มายอ เช่นกัน
รัวกระสุนดับ ผญบ.เนินงามใกล้ป้อม ชรบ.
เวลา 13.45 น. ขณะที่ นายมาหามะ โดมาดา อายุ 45 ปี ผู้ใหญ่บ้านตาโงง หมู่ 5 ต.เนินงาม อ.รามัน จ.ยะลา กำลังเดินออกจากบ้านไปที่ศาลาจุดตรวจของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไปจอดริมถนนฝั่งตรงข้ามกับจุดตรวจ จากนั้นคนร้าย 2 คนที่อยู่ในกระบะท้ายใช้อาวุธสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มใส่ ทำให้ นายมาหามะ เสียชีวิตคาที่ ก่อนเร่งเครื่องรถกระบะขับหลบหนีไปทางบ้านคอลี ต.เนินงาม เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ดักระเบิด อส.ธารโต เจ็บอีก
เวลา 16.30 น. ขณะที่ อาสารักษาดินแดน (อส.) อานนนท์ ส่องแสงรัตน์ อายุ 32 ปี อส.ประจำ อ.ธารโต จ.ยะลา นำกำลังจำนวน 5 นาย ใช้รถจักรยานยนต์ 3 คันเป็นพาหนะ ออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยคณะครูและนักเรียนในพื้นที่ ต.คีรีเขต อ.ธารโต จนเสร็จภารกิจ กำลังเดินทางกลับฐานนั้น ระหว่างทางผ่านบ้านผ่านศึก หมู่ 2 ต.คีรีเขต ได้มีคนร้ายใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่บรรจุอยู่ในกล่องเหล็ก น้ำหนักราว 5 กิโลกรัม วางซุกไว้ริมถนน จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้ อส.อานนท์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก
ต่อมา พ.ต.อ.จรัส ชิณนะวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.ธารโต และ จ.อ.ปรเมศร์ จันทร์แสง ปลัดป้องกันอำเภอธารโต ได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบเพื่อตอบโต้เหตุวิสามัญฆาตกรรมนายมะดารีที่ อ.รามัน
ปาบึ้มจุดตรวจที่จะแนะ-เอ็ม 79 ถล่มฐานบันนังสตาซ้ำ
ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงค่ำของวันพุธที่ 19 มิ.ย. คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขี่รถโฉบเข้าไปใกล้ป้อมจุดตรวจของชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนบ้านน้ำวน หมู่ 1 บ้านน้ำวน ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส จากนั้นคนที่นั่งซ้อนท้ายได้ปาระเบิดเข้าใส่ 1 ลูก แล้วจึงเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โชคดีที่ระเบิดตกบนหลังคาป้อม แต่ไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธสงครามยิงก่อกวน โดยมีเป้าหมายคือบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 5 บ้านกาโสด ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา คาดว่าเพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่ทหารออกจากฐานปฏิบัติการ โดยคนร้ายอีกชุดหนึ่งอาศัยความชำนาญพื้นที่ดอดเข้าไปใกล้ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารราบที่ 11734 (ร้อย ร.11734) หน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 อ.บันนังสตา ซึ่งตั้งฐานอยู่บริเวณสามแยกปากทางเข้าเขื่อนบางลาง ท้องที่บ้านกาโสด หมู่ 5 ต.บันนังสตา จากนั้นคนร้ายได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มเข้าไปบริเวณฐาน 4 ลูกซ้อน เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นต่อเนื่องกัน แต่โชคดีไม่มีกำลังพลได้รับอันตราย และได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป
อนึ่ง เมื่อเย็นวันอังคารที่ 18 มิ.ย. คนร้ายซึ่งคาดว่าเป็นชุดเดียวกันได้ใช้เอ็ม 79 ยิงถล่มฐานทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 3306 (ร้อย ทพ.3306) ที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตามาแล้ว โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายเช่นกัน
กราดยิงรถบรรทุกน้ำหน่วยทหารพัฒนา
เวลา 10.30 น.วันพุธที่ 19 มิ.ย. ขณะที่ทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ที่ 44 จ.ปัตตานี จำนวน 4 นาย กำลังขับรถบรรทุกน้ำเพื่อนำน้ำไปแจกจ่ายชาวบ้านในหมู่บ้าน เมื่อขับถึงท้องที่หมู่ 2 บ้านละหาร ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งดักซุ่มอยู่ข้างทางใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิดกราดยิงใส่รถ ทำให้รถบรรทุกน้ำได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนกำลังพลปลอดภัย
ที่ จ.ปัตตานี ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านกาฮง หมู่ 5 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้ผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ได้ 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน ซึ่้งผู้ต้องหานำไปฝังดินไว้
"ภราดร"อ้างใต้ป่วนเพราะยังไม่ถึงรอมฎอน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพดับไฟใต้ฝ่ายไทย ตอบข้อถามของผู้สื่อข่าวถึงการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ตกลงกันจะหยุดก่อเหตุรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน แต่หลังการพูดคุยกลับมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ต้องรอให้ถึงช่วงเดือนรอมฎอนก่อน เพราะยังไม่ถึงช่วงนั้น ซึ่งข้อมูลทั้งสองฝ่ายรวมทั้งหลักเกณฑ์ต่างๆ ต้องรอให้มีการส่งมาก่อน
"เขาเป็นตัวแทนของคนกลุ่มใหญ่ คงต้องรับฟังกันมา แล้วค่อยดูเรื่องที่เป็นรูปธรรมต่อไป สำหรับผู้ที่ก่อเหตุอยู่ในขณะนี้ต้องดูต่อชัดๆ ว่ามาจากกลุ่มไหน ส่วนกลุ่มที่คุยด้วยกับเรา จากที่มีการพูดคุยกันมาถึง 3 ครั้งแล้ว เขาเปิดหน้ามาคุย ก็ถือว่าจริงใจแล้ว" พล.ท.ภราดร ระบุ
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และไปตรวจเยี่ยมหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ที่ค่ายลูกเสือเดชานุชิต ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยมีรายงานว่า ผบ.ทบ.ได้มอบนโยบายและแนวปฏิบัติในห้วงเดือนรอมฎอนเพื่อให้สอดคล้องกับการพูดคุยสันติภาพของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี เมื่อถูกถามถึงการลดเหตุรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน หากลดไม่ได้จริงจะทำอย่างไร ผบ.ทบ.ตอบทีเล่นทีจริงว่า "ก็ต้องหาเดือนใหม่ เอาเดือนอะไรดีล่ะ"
จับเพิ่มอีก 1 ผู้ต้องสงสัยบึ้มหน้ารามฯ
ด้านความคืบหน้ากรณีตำรวจควบคุมตัว นายอิดริส สะปาตอ ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นราธิวาส ในฐานะผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีลอบวางระเบิดย่านการค้าหน้ารามฯ ปากซอยรามคำแหง 43/1 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เหตุเกิดวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ผลการสอบปากคำนายอิดริส สามารถเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดได้ และน่าเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาล และควบคุมตัวเข้ากรุงเทพฯเพื่อสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 ราย คือ นายอัฟฟาฮัม สะอะ อยู่บ้านเลขที่ 16 ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำที่ค่ายวังพญา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 อาวุธสงครามที่ยึดได้หลังเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยและวิสามัญฆาตกรรม นายมะดารี ตาเยะ ที่ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อ 20 มิ.ย.
2 ทหารตรึงกำลังเข้มหลังคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงถล่มฐานทหารที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา (ภาพทั้งหมดโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)