อัศวินขี่ม้าขาวตัวจริง กรมการข้าว ลั่นช่วยแก้ปัญหาข้าวได้แน่ ถ้าให้ทุกสิ่งที่ขอ
อธิบดีกรมข้าว’ คาดอนาคตประชากรโลกพุ่งอีก 1 พันล้านคน หวั่นกระทบความมั่นคงอาหาร ไทยเตรียมแผนเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวยกระดับเกรดเอแข่งเพื่อนบ้าน เน้นอินทรีย์-จีไอ
นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวถึงข้าวไทยต่อสถานการณ์ความมั่นคงทางอาหารว่า ข้าวเป็นพืชคู่บ้านคู่เมืองที่สื่อถึงประเพณีและวัฒนธรรมไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เคยมีพระราชดำรัสเมื่อเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการโคกกูแว จ.นราธิวาส ปี 2536 ว่า
“ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไม่พอ ถ้าลดการปลูกข้าวไปเรื่อย ๆ ข้าวจะไม่พอ เราก็ต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชาชนคนไทยไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทยจะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก”
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ดังนั้นในฐานะที่ไทยเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ จึงไม่สามารถจะลดพื้นที่ปลูกข้าวเพื่อปลูกพืชชนิดอื่นแทนได้ เพราะแม้กระทั่งชาติอื่น เช่น จีน ญี่ปุ่น หรืออาหรับ ต่างเสาะหาพื้นที่ต่างแดนเพื่อปลูกข้าวไว้บริโภคทั้งสิ้น โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ด้วยอนาคตประชากรโลกจะเพิ่มอีกหลายพันล้านคน รวมถึงประชากรไทยที่จะเพิ่มเป็น 100 ล้านคนด้วย ซึ่งการจัดทำพื้นที่เขตเกษตรเศรษฐกิจข้าว (โซนนิ่งข้าว) เป็นทางออกสำคัญในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวต่าง ๆ
สำหรับทิศทางข้าวไทยในเวทีประชาคมอาเซียนนั้น อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า มั่นใจข้าวไทยมีคุณภาพกว่าชาติอื่นในภูมิภาค แต่ต้องระวังไม่ให้สะดุดขาตัวเองเช่นกัน โดยสิ่งหนึ่งที่พยายามวางรากฐานพัฒนาไม่เฉพาะในอาเซียน แต่มองยาวไปถึงระดับโลกด้วยการยกระดับคุณภาพข้าวให้ดีที่สุด มุ่งเน้นที่ข้าวอินทรีย์ ข้าวที่ได้รับจดทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) อีกทั้งแปรรูปเป็นยาหรือเครื่องสำอาง และว่า “ต้องเลิกคิดไม่ลดคุณภาพข้าวไทยไปแข่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีข้าวคุณภาพต่ำกว่า เราต้องหนีให้ไกล”
นายชัยฤทธิ์ กล่าวถึงการรับรองมาตรฐานการผลิตข้าวตามระบบจีเอพีไทยเพื่อหวังยกระดับคุณภาพนั้นยังตื่นตัวช้า เพราะเมื่อชาวนามีผลผลิตที่ได้มาตรฐานกลับไม่สามารถเพิ่มรายได้เลย จึงพยายามต่อรองกับโรงสีต่าง ๆ ให้เพิ่มสัดส่วนราคาแก่ข้าวมาตรฐานจีเอพีอีกตันละ 500 บาท อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าปัจจุบันบุคลากรของกรมการข้าวมีจำนวนเพียง 700 คน แบ่งเป็นนักวิชาการ 500 คน มีภารกิจหลักพัฒนางานวิจัยและเมล็ดพันธุ์ข้าว หากต้องทำงานด้านการส่งเสริมด้วยยอมรับค่อนข้างหนักเพราะบุคลากรน้อย จึงต้องจ้างนักวิจัยจากสถาบันการศึกษาภายนอก
"ปัญหาข้าวกระทบกับคนส่วนใหญ่ ซึ่งหากมีอัศวินขี่ม้าขาวให้กรมการข้าวแก้ปัญหาชาติ แล้วอนุมัติให้ทุกสิ่งตามที่ขอ รับรองว่าไทยจะกลายเป็นมหาอำนาจด้านข้าวได้แน่นอน แต่ขณะนี้ขออะไรไม่เคยได้ ประกอบกับยังขาดนักวิจัยและเครื่องมือในการตรวจสอบมาตรฐานข้าวอีกเช่นกัน ซึ่งจะพยายามดิ้นรนต่อไปเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว"