‘วราเทพ’ ยันขาดทุนจำนำข้าว 1.36 แสนล.บ. เผยครม.ตั้งคกก.ตรวจสอบสต็อกข้าวคงเหลือ
ครม.รับทราบตัวเลขขาดทุนจำนำข้าว 1.36 แสนล.บ. ยึดหลักคณะอนุฯ ปิดบัญชี คำนวณสต็อกข้าว ตั้ง 'ธวัช บุญเฟื่อง' เป็นปธ.เซอเวย์เยอร์ตรวจโกดังหาข้อสรุปข้าวคงค้าง ชง กขช.หาข้อสรุปปรับราคา-แนวทางรับจำนำรอบใหม่
วันที่ 18 มิถุนายน นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้รวบรวมข้อมูล ข้อเสนอแนะของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายของรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.ได้รับทราบ ข้อเสนอแนะของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ทั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ความเห็นของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
โดยยึดตัวเลขผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามนโยบายรัฐบาล ของคณะอนุกรรมการปิดบัญชี กระทรวงการคลัง ณ วันที่ 31 มกราคม 2556 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะนำไปประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางดำเนินโครงการรับจำนำข้าวของ กขช.ต่อไป
ข้อมูลของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ระบุถึง ข้าวนาปี ปีการผลิต 2554 /2555 และข้าวนาปรัง ปี 2555 ขาดทุนทั้งสิ้น 136,917 ล้านบาท (เป็นตัวเลขที่ยังไม่นับรวมข้าวสารที่อยู่ระหว่างการส่งมอบ) เป็นข้าวเปลือก 21.78 ล้านตัน ข้าวสาร 13.42 ล้านตัน
ทั้งนี้ จำนวนเงินที่จ่ายให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 337,321.98 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการ 14,785.66 ล้านบาท รวมค่าใช้จ่ายที่ใช้ในโครงการจำนำข้าวปีแรก 352,107.64 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังมีมูลค่าข้าวคงเหลือในสต็อก 155,968.92 ล้านบาท (อยู่ระหว่างตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง) มูลค่าข้าวที่ระบาย 59,141.31 ล้านบาท
นายวราเทพ ยืนยันด้วยว่า ไม่มีการตกแต่งตัวเลขใดๆ โทษในการกระทำผิดกรณีนี้หนัก หากมีข้าวหายไปจะต้องมีผู้รับผิดชอบ และจากนี้จะใช้วิธีการคิดคำนวณสต็อกข้าวคงเหลือตามหลักการของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ โดยจะปิดบัญชีทุกสิ้นเดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีการถกเถียงถึงสต็อกข้าวยอดคงค้าง ที่หน่วยงานต่างๆ ยังมีตัวเลขไม่ตรงกัน อันเป็นที่มาที่ส่งผลต่อการคำนวณตัวเลขการทุนในโครงการ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ด้วยว่าได้กำชับไปยัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และคณะกรรมการ กขช. ให้จัดตั้งคณะทำงานกลางขึ้นมาตรวจสอบโกดังเก็บข้าว (Surveyor) ทุกโกดังทั้งของ อคส. และ อ.ต.ก. ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ที่มีคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย คือ
1.คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง 2.บริษัทตรวจสอบที่เป็นคนกลาง ไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในปัจจุบัน และ3.เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทนของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ และผู้แทนกรมการค้าภายใน และต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 เดือน แล้วส่งให้อนุกรรมการปิดบัญชีฯ เพื่อสรุปตัวเลขการขาดทุน
โดยได้ที่ประชุม ครม.มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบประสานในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงได้แต่งตั้ง พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลสต็อกข้าวคงเหลือ ที่มีข้อมูลว่า มีข้าวหายไปกว่า 3 แสนตัน
ในส่วนการปรับลดราคารับจำนำข้าว ที่คาดว่าจะมีการปรับจากเดิมตันละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 - 13,500 บาทนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังไม่ได้มีการพิจารณาว่าจะเลือกแนวทางใด ทั้งนี้ ได้ให้ กระทรวงพาณิชย์ไปหามาตรการรองรับ และให้คณะกรรมการ กขช.นำข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และรายงานของนายวราเทพ รัตนากร ไปพิจารณาและหาแนวทางในการรับจำนำในฤดูกาลต่อไป แล้วนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง