“ระพี” ชี้ผู้บริหาร ม.เกษตร มัวแต่ลงทุนวัตถุ ทำคุณภาพบัณฑิตตกต่ำ
“ระพี สาคริก” โพสต์เฟซบุ๊ก ผิดหวังผู้บริหาร ม.เกษตรฯ ไม่ร่วมพิจารณา กม.ออกนอกระบบ ชี้เข้าข่ายทิ้งประชาชน อัดกู้สหกรณ์ออมทรัพย์มหาลัย 4 พันล้านไปสร้างตึก อาจทำคุณภาพบัณฑิตตกต่ำ 
(ระพี สาคริก - ภาพจากเฟซบุ๊กส่วนตัว)
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2556 ศาสตราจารย์ระพี สาคริก ราษฎรอาวุโส ในฐานะอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการเดินทางไปร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรณี มก.กู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ มก.กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.สหกรณ์ พ.ศ.2542 ที่ห้ามนิติบุคคลกู้เงินจากสหกรณ์
มีใจความว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2556 ตนได้รับเชิญจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ไปเข้าร่วมประชุมด้วย ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ชี้แจงว่าการออกนอกระบบไม่ได้หมายความว่าจะต้องออกนอกระบบบนพื้นฐานวัตถุ แต่ควรหมายถึงออกนอกระบบจากสิ่งที่อยู่ในรากฐานจิตใจของมนุษย์ทุกคน ทั้งนี้เพื่อหวังอิสรภาพในการคิดอ่านและนำพิจารณาทุกสิ่งทุกอย่าง อย่างสอดคล้องกันกับเหตุผล
“แต่ก่อนการจัดการศึกษาของไทย รัฐเคยออกค่าใช้จ่ายให้ประชาชนให้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนทั้งหมด ยกเว้นค่าหนังสือเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัว แต่ในปัจจุบันเราเดินตามก้นฝรั่งเพื่อใช้เป็นโอกาสหาเงินเข้ารัฐ นั่นก็คือเงินบำรุงหน่วยกิต ซึ่งตามก้นอเมริกันทำให้ประชาชนเดือดร้อนถึงระดับหนึ่ง” ศาสตราจารย์ระพีระบุ
ศาสตราจารย์ระพี ยังกล่าวว่า ในการประชุมวันนั้น ไม่มีผู้บริหาร มก.มาร่วมประชุมและชี้แจงเหตุผลด้วยตัวเอง ทำให้ตนรู้สึกผิดหวังมาก เพราะเหตุว่าขาดผู้ใหญ่ที่เข้ามารับฟังความเดือดร้อนของราษฎรตาดำๆ เหตุการณ์ดังกล่าวย่อมมีผลทำให้การจัดการศึกษาของไทย โดยเฉพาะสายเกษตรศาสตร์ขาดจิตวิญญาณที่มีความอุดมสมบูรณ์ครบถ้วน สมกับที่เราเรียกกันว่า “การอุดมศึกษา” ตนผิดหวังที่ว่าผู้บริหาร มก.ทอดทิ้งประชาชนตั้งแต่ยกแรก ถัดจากนั้นมาเราจะหาใครเป็นที่พึ่งก็ทั้งยาก
ราษฎรอาวุโสรายนี้ ยังกล่าวถึงกรณีที่ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข่าวกรณี มก.กู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ มก.เอง เป็นเงินกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างอาคารสถานที่ ว่า มีสื่อหลายแห่งมาถามตนว่า เรื่องนี้จะส่งผลเสียต่อชาติบ้านเมืองอย่างไร ตนก็ตอบไปว่าสมัยตนเป็นอธิการบดี มก.ไม่คิดจะกู้เงินจากที่ไหนมาสร้างสิ่งก่อสร้าง เพราะรู้เท่าทันว่าถ้าเราสร้างสิ่งก่อสร้าง คุณภาพบัณฑิตย่อมตกต่ำเพิ่มมากยิ่งขึ้น เพราะเมื่อเอาเงินและวัตถุใส่เข้าไปมาก คุณภาพบัณฑิตก็ย่อมตกต่ำ
“ในช่วงที่ฉันเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บัณฑิตจบใหม่แทบไม่ต้องไปหางานทำเพราะมีงานมาหาถึงมหาวิทยาลัย บางคนพูดว่าถ้าขืนมาช้าประเดี๋ยวไม่ได้ของดี งานได้เข้ามาแย่งตัวบัณฑิตกันถึงในบ้าน” ศาสตรจารย์ระพีกล่าว
ศาสตราจารย์ระพี ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ในอดีตที่ผ่านมาฉันมักได้ยินคนพูดกันว่า “อธิการบดีมีหน้าที่หาเงิน” ประเด็นนี้คนส่วนใหญ่มักอ้างผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยฝรั่ง แต่สำหรับมหาวิทยาลัยไทยนั้นเราควรมีรากฐานจิตใจเข้มแข็งและเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด เวลานี้คนเป็นมะเร็งกันมากมาย แต่ฉันมักพูดว่า “โรคมะเร็งยังไม่ร้ายเท่ากับโรคชอบเอาอย่างคนอื่น” เหตุผลก็คือ โรคมะเร็งนั้นตายเป็นรายตัว แต่โรคเอาอย่างวัฒนธรรมคนชาติอื่น ถ้าตายก็ตายทั้งขาติ
