กลุ่มการศึกษาทางเลือกค้านยุบ รร.เล็ก สพฐ.ยอม เล็งย้าย นร.เรียนรวมกัน
สมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย ร่วมเครือข่าย รร.ชุมชน ร้องชะลอยุบ รร.ขนาดเล็ก ชี้ควรเป็นทางเลือกสุดท้าย ด้าน เลขาฯ สพฐ.ยันยังไมยุบ แค่เร่งรัดคุณภาพ
(30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ปกครองและนักเรียนของโรงเรียนทางเลือก ประมาณ 150 คน ภายใต้การนำของสมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทยและชมรมเครือข่ายโรงเรียนชุมชน รวมตัวกันเคลื่อนขบวนมายังหน้าประตูกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อกล่าวแถลงการณ์เรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ชะลอการยุบรวม ยุบเลิกโรงเรียนขนาดเล็ก โดยให้ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะชุมชน มีส่วนร่วมจัดระบบการศึกษา
นายชัชวาล ทองดีเลิศ เลขาธิการสมาคมสภาการศึกษาทางเลือกไทย กล่าวว่า สถานการณ์ในชุมชนทุกภูมิภาค ยังพบปัญหาการขัดขวางการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กของข้าราชการในเขตพื้นที่ เช่น ไม่ยินยอมให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมรักษาและพัฒนาโรงเรียน ไม่ยอมส่งผู้อำนวยการที่มีความจริงใจและตั้งใจในการบริหารพัฒนาโรงเรียน ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในกรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ สั่งการให้ตั้งกรรมการร่วมภาคราชการและประชาสังคม มากำหนดนโยบายและแนวทางพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กร่วมกัน
ด้านนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ออกมารับคำแถลงการณ์พร้อมชี้แจงถึงปัญหาดังกล่าวว่า ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศ 182 เขต ยกเว้นกทม. ส่งข้อมูลพร้อมแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 60 คน ซึ่งทั่วประเทศมีประมาณ 3,500 โรง มายัง สพฐ.เพื่อสรุปเป็นแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กในภาพรวม เสนอ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาในวันที่ 31 พ.ค.นี้
เลขาธิการ สพฐ.ระบุว่า ในรายงานพบโรงเรียนขนาดเล็ก 2,200 โรง ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายของนักเรียนแปลว่าโรงเรียนเหล่านี้ต้องได้รับการส่งเสริมคุณภาพในที่ตั้งก่อน จากนั้นจึงค่อยติดตามสรุปผลต่อไป ซึ่งหมายความว่าโรงเรียน 2,200 โรงกลุ่มนี้ จะเดินหน้าเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ชัดเจน และไม่มีแผนอะไรที่จะเดินหน้ายุบ ดังนั้น ยืนยันว่าในรายงานที่เขตพื้นที่ฯเสนอมานั้น ในปีการศึกษา 2557 จะไม่มีการยุบรวม ยุบเลิก โรงเรียนขนาดเล็กสักแห่ง ยกเว้น โรงเรียนที่ไม่มีตัวป้อน คือ ไม่มีนักเรียนแล้ว ซึ่งจากรายงานพบว่ามี 3 สพป.ที่มีโรงเรียนขนาดเล็กที่ไม่มีตัวป้อนแล้ว
นายชินภัทร ระบุด้วยว่า มีโรงเรียนขนาดเล็ก 300 โรง ตั้งอยู่ในพื้นที่พิเศษที่ไม่สามารถรวมกับใครได้อย่างแน่นอน ต้องคงไว้ไม่สามารถยุบรวม ยุบเลิกได้ ได้แก่ โรงเรียนที่ตั้งบนภูเขา บนเกาะ ซึ่งกระจายตามภูมิภาคต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เหลืออีกกว่า 1,000 โรงนั้น เป็นโรงเรียนที่เหลือเด็กน้อย จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายนักเรียนมาเรียนรวมกัน โดยผ่านการจัดการ 4 วิธี ได้แก่ 1.เคลื่อนย้ายนักเรียนมาเรียนรวมกันทุกชั้น มีจำนวน 648 โรง 2.เคลื่อนย้ายนักเรียนมาเรียนรวมกันรวมบางช่วงชั้น คือ การนำนักเรียนแต่ละช่วงชั้นแบ่งเป็นชั้นประถมต้นและประถมปลาย แยกไปควบรวมเรียนกับโรงเรียนอื่น จำนวน 484 โรง
3.เคลื่อนย้ายนักเรียนมาเรียนรวมกันบางชั้น คือ การนำนักเรียนบางชั้นที่มีจำนวนน้อย เคลื่อนย้ายไปเรียนกับโรงเรียนอื่น มีจำนวน 781 โรง และ 4.เคลื่อนย้ายนักเรียนมาเรียนร่วมกันในบางวิชา จำนวน 377 โรง ซึ่งบางโรงเรียนอาจใช้วิธีเคลื่อนนักเรีนหลายรูปแบบร่วมกัน
วันเดียวกัน นายพงศ์เทพ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการเครือข่ายการศึกษาทางเลือกโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนของชุมชน โดยมี ดร.สิริกร มณีรินทร์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน และมีเลขาธิการ กพฐ.เป็นรองประธาน ส่วนกรรมการ อาทิ นายประแสง มงคลสิริ เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ศ.ธเนศวร์ เจริญเมือง ที่ปรึกษารมช.ศึกษาธิการ และนายสุนันท์ เทพศรี คณะกรรมการ กพฐ. เป็นต้น โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะทำหน้าที่จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย แนวทางการทำงาน และการแก้ไขปัญหา รวมถึงการจัดรับฟังความคิดเห็น และติดตามประเมินผล และรายงานผล นอกจากนี้แผนการบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็กที่เขตพื้นที่เสนอมายัง สพฐ. ก็จะต้องเสนอให้คณะกรรมการชุดนี้พิจารณาเห็นชอบด้วย