ผอ.สวทช.ออกแถลงป้อง รมว.วิทย์ เล็งหาทุนภายนอกอุดงบวิจัยที่ถูกตัด
“ทวีศักดิ์” ผอ.สวทช.ออกคำชี้แจง ยันนายกฯ ให้ความสำคัญงานวิจัย เผยคนต้าน รมว.วิทย์ เข้าใจผิด เตรียมหาทุนภายนอกมาอุดงบที่ถูกตัด
(ทวีศักดิ์ กออนันตกูล)
วานนี้ (24 พ.ค.2556) นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผอ.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจงหลังจัดเวทีพบพนักงาน สวทช.เป็นวาระพิเศษ ขึ้นเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2556 ที่หอประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ รังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อไขข้อข้องใจต่างๆ กรณีที่มีข่าวปรากฏตามสื่อถึงเรื่องราวภายใน สวทช.ซึ่งส่งผลทำให้พนักงาน สวทช.ส่วนหนึ่ง สูญเสียขวัญและกำลังใจ และเกิดความไม่มั่นใจต่อทิศทางและแนวทางการดำเนินงานขององค์กร
เอกสารดังกล่าว ระบุคำชี้แจงของนายทวีศักดิ์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความคลาดเคลื่อนในข้อมูลของบุคลากรบางส่วนซึ่งอาจเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ทั่วถึง โดยประเด็นที่พนักงาน สวทช.มีความกังวลมากคือแนวทางในการทำงานวิจัยและพัฒนาซึ่งเป็นหน้าที่หลักของ สวทช. เนื่องมาจากงบประมาณที่ลดลงในปี 2557 อย่างไรก็ตาม สวทช.พร้อมทำงานที่ตอบโจทย์นโยบาย value chain ของ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ที่ต้องการเห็น การบูรณาการการทำงานของหน่วยงานภายในกระทรวง ทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ รวมถึงตอบ country strategy ของรัฐบาล
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้นักวิจัยมองว่า การมีส่วนร่วมขับเคลื่อนงานวิจัยในแนวทางนี้ เป็นโอกาสที่จะแสดงความสามารถให้สังคมได้เห็นว่างานของ สวทช.สามารถตอบโจทย์ที่เป็นปัญหาแท้จริงของประเทศในภาค real sector โดยเฉพาะในภาคท้องถิ่น และชุมชน และสร้างผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในภาพรวมได้
“สำหรับนักวิจัยที่มีความรู้ความชำนาญในงานด้านอื่น ที่อาจได้รับงบประมาณลดลงหรือไม่ได้รับงบประมาณ จะใช้แนวทางการทำงานในรูปแบบการร่วมมือกับพันธมิตร หรือหาทุนจากแหล่งทุนภายนอก เช่น ภาคเอกชน หรือหน่วยงานสนับสนุนการวิจัยอื่น โดยจะทำงานเชิงรุกมากขึ้นแต่ยังมุ่งเน้นงานที่สามารถสร้างผลกระทบได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีนัยสำคัญ” ผอ.สวทช.กล่าว
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า จากที่ได้ไปประชุมกับนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานหลักด้านการวิจัยของประเทศ หรือ 6 ส และ วช. คือ ได้แก่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สำนักงาน คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สถาบันวิจัย ระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานคณะกรรมการการ อุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ยืนยันว่า นายกฯ ให้ความสำคัญต่องานวิจัยพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมาก และต้องการเห็นการจัดสรรงบประมาณในส่วนของการวิจัยเพิ่มขึ้นเป็น 1-2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยนายกฯได้ฝากการบ้านให้หน่วยงาน 6 ส.และ วช. ไปร่วมกันกำหนดโจทย์ที่เป็นวาระหลักด้านการวิจัยของประเทศ และนำไปประชุมหารือร่วมกับนายกฯ อีกครั้งหนึ่งในปลาย พ.ค.2556 นี้
“ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานวิจัยทั้งหลายจะได้มาร่วมกัน ขับเคลื่อนเรื่องการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเป็นวาระหลักด้านหนึ่งของ country strategy ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น” นายทวีศักดิ์กล่าว
ผอ.สวทช.กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา รมว.วิทยาศาสตร์ฯ ได้สนองตอบนโยบายรัฐบาลและนายกฯ ด้วยการเร่งจัดทำแผนบูรณาการในรูปของ value chain ที่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.วิทยาศาสตร์เพื่อการสร้างงาน 2.สร้างรายได้3.สร้างอนาคตและสร้างชีวิต และ 4.ส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้ เกิดการใช้ประโยชน์จากกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ฯ อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่วนประเด็นเรื่องการโอนย้ายบุคลากร สวทช. ไปปฏิบัติหน้าที่ยังหน่วยงานต่างๆในสังกัดนั้น เป็นเพียงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากลักษณะการทำงานในปัจจุบันจะเน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานอยู่ แล้วซึ่งจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่กระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ มาระดมความคิดจากมุมมองและประสบการณ์ที่หลากหลายและพร้อมที่จะปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ต่อประเทศโดยรวม
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในกรณีการเผยแพร่และนำเสนอข่าวที่ต้องการดึงหรือโยงเรื่องของการบริหารงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับผู้บริหารจากฝ่ายการเมืองนั้น สวทช. ใคร่ขอให้สื่อมวลชนโปรดใช้วิจารณญาณใน การนำเสนอข่าวเฉพาะที่มาจากแหล่งข่าวที่สามารถยืนยันได้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากพบว่าข่าวบางเรื่องที่นำเสนอสู่สาธารณชนเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
“ตัวอย่างเช่น กรณีมีข่าว รมว.วิทยาศาสตร์ฯ สั่งการให้ตรวจสอบคอมพิวเตอร์และอีเมล์ของ พนักงาน สวทช. รวมทั้งบอกว่า รมว.วิทยาศาสตร์ฯ เดินทางเข้ามาที่สวทช. ในวันที่ 18 ส.ค.2556 และได้เรียกประชุมผู้บริหารอย่างเร่งด่วนนั้นขอยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยในประเด็นเรื่องการตรวจสอบคอมพิวเตอร์และอีเมล์ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ และ สวทช.เคารพและปฏิบัติตามแนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของหน่วยงานของรัฐ (ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550) ที่กำหนดโดยกระทรวงไอซีทีอย่างเคร่งครัด รวมทั้งไม่สนับสนุนให้บุคลากรของสำนักงานละเมิดหรือมีการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกับแนวนโยบายและแนวปฏิบัติดังกล่าว” คือคำกล่าวทิ้งท้ายของนายทวีศักดิ์ในเอกสารข่าวดังกล่าว
อ่านประกอบ
กำปั้น "สู้เพื่อวิทยาศาสตร์" พรึ่บโลกออนไลน์-คน สวทช.ขู่ตบเท้าพบ "วรวัจน์"
“วรวัจน์” ชี้ปมโบนัส 158 ล. ต้นตอใบปลิวต้าน-รับไม่พอใจ ผอ.สวทช.
รมว.วิทย์ ประชุมด่วนผู้บริหารกระทรวง หวังสยบคลื่นใต้น้ำ-ขรก.เตรียมทำเว็บแฉ
“วรวัจน์” กำราบ สวทช.อยู่หมัด ม็อบชุดดำน้อยไร้พลังต้าน
“วรวัจน์” สั่งคุ้ยคอมพ์-อีเมล์คน สวทช. หาที่มาใบปลิวนัดม็อบชุดดำ
ฟัง คน สวทช. เผยเบื้องหลังใบปลิว “มันอัดอั้น...เกินที่จะทน!”
ขรก.กระทรวงวิทย์ฯ ร่อนแฟกซ์โต้ใบปลิวต้าน “วรวัจน์”
“วรวัจน์” แจงปมใบปลิวยิบ เชื่อถูกต้านเพราะกลัวเปลี่ยนตัว ผอ.สวทช.
ผอ.สวทช.ร่อนอีเมล์ขอ พนง.งดแต่งดำประท้วง-หลัง “วรวัจน์” เรียกพบ
ใบปลิวแฉ “วรวัจน์” ว่อน ก.วิทย์ฯ-สวทช. นัดแต่งดำประท้วง 20 พ.ค.นี้