หมอศิริราช ชี้ “แองเจลินา โจลี่” ผ่าตัดหนีมะเร็งเต้านม โอกาสเสี่ยงมีอยู่
ผศ.นพ.มานพ ยกกรณี แองเจลินา โจลี่ ตัดเต้านมทิ้ง ชี้ลดโอกาสเป็นเพียง 90 % แต่ยังเสี่ยงเกิดมะเร็งอยู่ ด้านรศ.พญ.พรพิมพ์ หญิงไทยควรด้วยแมมโมแกรมทุก 2 ปี อัลตราซาวนด์ ทุก 6 เดือน และตรวจ MRI ทุก 2 ปี สลับกันไป
สืบเนื่องจากเหตุกาณ์ซ็อกวงการบันเทิง พร้อมทำให้สถาบันการแพทย์ของไทยต้องตื่นตัวกันยกใหญ่ กับข่าวดาราชื่อดังระดับฮอลลี่วู้ดอย่าง “แองเจลินา โจลี่” ได้ตัดสินใจตัดเต้านมทิ้งทั้ง 2 ข้าง หลังได้ทราบจากแพทย์ว่า มียีนที่ก่อมะเร็งและมีความเสี่ยงสูงถึง 87% ที่จะเป็นมะเร็งเต้านม ด้วยเหตุนี้ ทำให้ดาราชื่อดังป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านม ด้วยการตัดสินใจผ่าตัดเต้านมทั้ง 2 ข้างทิ้ง
เมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มมะเร็งเต้านม สถานีวิทยามะเร็งศิริราช ร่วมกับ สาขาวิชาศัลยศาสตร์ศีรษะ-คอ และเต้านม ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จัดเสวนาหัวข้อ “การตรวจเพื่อทำนายมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ แนวทางการดูแลรักษา: บทเรียนจากแองเจลินา โจลี่” ณ ห้องประชุมอทิตยาทรกิติคุณ ตึกสยามินทร์ ชั้น 7
ผศ.นพ.มานพ พิทักษ์ภากร ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ยีนส์ที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมนั้น คือยีนส์ บีอาร์ซีเอ (BRCA) ซึ่งจำแนกได้เป็น บีอาร์ซีเอ1 และบีอาร์ซีเอ2 (BRCA1/2) โดยยีนส์ทั้งสองประเภทนี้เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดมะเร็งประเภทพันธุกรรม ซึ่ง แองเจลินา โจลี่ เมื่อได้ตรวจหาความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมก็พบว่า ได้มีการกลายพันธ์ของยีนส์ บีอาร์ซีเอ1 (BRCA1) ผนวกกับที่มารดาและยายของเธอได้เสียชีวิตจากสาเหตุมะเร็งเต้านมและมะเร็งรังไข่ ด้วยอายุเพียงไม่ถึง 50 ปี ทำให้เธอตัดสินใจผ่าตัดตามที่เป็นข่าว
ผศ.นพ.มานพ กล่าวว่า การตรวจมะเร็งเต้านมในปัจจุบันต้องใช้กระบวนหลายขั้นตอน ค่าใช้จ่ายสูง และใช้เวลามาก และเครื่องตรวจในประเทศไทยมีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นการตรวจผู้ป่วยต้องอยู่เป็นผู้ที่เข้าข่ายว่าเป็นมะเร็งที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมจริงๆ ซึ่งมีข้อสังเกตคือ มีสมาชิก 2 คนขึ้นไปในครอบครัวเป็นมะเร็งชนิดเดียวกันหรือมะเร็งที่เกี่ยวข้องกัน เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ เป็นต้น เป็นมะเร็งตั้งแต่อายุน้อย เป็นมะเร็งหลายตำแหน่งในอวัยวะเดียวกัน หรืออวัยวะที่เป็นคู่ ซึ่งผลเหล่านี้จะยืนยันความเป็นได้ว่า ผู้รับการตรวจมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมได้สูง
“ ถึงแม้จะมีบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ไม่ได้หมายความว่า การมะเร็งจะถ่ายทอดทางพันธุกรรมเพียงอย่างเดียว หรือหากเป็นการถ่ายทอดพันธุกรรม ก็ใช้ว่าจะเกิดมาแล้วจะเป็นมะเร็งเลย เพียงแต่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งหากรู้ในระยะเริ่มต้น การรักษาก็จะรวดเร็วและปลอดภัยขึ้น”
ผศ.นพ.มานพ กล่าวถึงการตัดสินใจผ่าตัดของแองเจลินา โจลี่ นั้นช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านม ประมาณ 90% แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งเต้านมได้อยู่ดี เพราะมะเร็งเต้านมสามารถเกิดบริเวณเนื้อเยื่อเต้านมที่หลบซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อได้เช่นกัน เพียงแต่โอกาสเกิดนั้นจะลดเหลือเพียง 5% เท่านั้น
ด้าน รศ.พญ.พรพิมพ์ กอแพร่พงศ์ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงหญิงไทยโดยทั่วไป ควรตรวจเป็นประจำและอย่าละเลย เพราะมะเร็งเต้านมนั้นสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ ส่วนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ก็สามารถตรวจคลำด้วยตนเองได้ แต่ก้อนมะเร็งจะต้องใหญ่ประมาณ 2-3 เซนติเมตร ซึ่งอาจมีโอกาสกระจายหรือผ่านเข้าไปยังเส้นเลือดหรือหลอดเลือดได้ ดังนั้นการตรวจคัดกรองที่ดีที่สุดคือการตรวจการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยเครื่องมือที่มีความละเอียดสูง ซึ่งมีโอกาสหาก้อนมะเร็งเจอตั้งแต่ยังมีขนาดเล็ก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้
รศ.พญ.พรพิมพ์ กล่าวอีกว่า หากต้องการตรวจหาอาการมะเร็งเต้านม ควรตรวจด้วยแมมโมแกรมทุก 2 ปี อัลตราซาวนด์ ทุก 6 เดือน และตรวจเครื่องแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ทุก 2 ปี สลับกันไป ซึ่งการตรวจด้วยแมมโมแกรมและ ตรวจเครื่องแม่เหล็กไฟฟ้านั้น ควรตรวจภายหลังมีประจำเดือน 10-20 วัน เพราะการตรวจระหว่างมีประจำเดือนอาจเกิดอาการเจ็บได้ และมีสิ่งรบกวนการอ่านภาพ
สำหรับอุบัติการณ์การเกิดโรคมะเร็งเต้านมในประเทศไทยนั้น รศ.พญ.พรพิมพ์ กล่าวว่า มีมากขึ้นและยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดการณ์ว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมนั้น จะมีเฉลี่ยร้อยละ 5 - 10 ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด