14 จว.ใต้วุ่น ไฟดับครั้งใหญ่ หลังสายส่งที่ประจวบฯ ชำรุด

14 จังหวัดใต้อลหม่าน หลังไฟดับครั้งใหญ่ เหตุสายส่งที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชำรุด เผยโรงไฟฟ้าใต้มีกำลังผลิตไม่พอความต้องการชาวบ้าน

(ภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ในวันนี้ (21 พ.ค.2556) เวลาประมาณ 19.00 น. ได้เกิดเหตุไฟฟ้าดับพร้อมกันทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นในหลายๆ จังหวัด อาทิ จ.ตรัง ที่มีการโทรศัพท์สอบถามเข้ามายังสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ ที่ ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ดูแลระบบการจ่ายไฟฟ้าทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าต้นเหตุของปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากสำนักงาน กฟผ.ฝ่ายปฎิบัติการภาคใคต้อย่างแน่นอน

ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ เหตุไฟฟ้าดับทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ขณะที่ตามบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าต้องใช้เทียนและไฟฉายส่องสว่าง ส่วนห้างร้านและโรงแรมต่างๆ ต้องใช้ไฟฟ้าสำรองในการให้บริการลูกค้า โดยบางแห่งได้ประกาศให้ลูกค้ากลับบ้าน

ส่วนที่ จ.ภูเก็ต แม้โรงแรม โรงพยาบาล และสนามบินจะมีระบบไฟฟ้าสำรอง แต่สถานการณ์ก็วุ่นวายพอสมควรจากความตื่นตกใจของประชาชนและนักท่องเที่ยว

นายนำชัย หล่อวัตรตระกูล ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และนายสุทัศน์ ปัทมศิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ให้สัมภาษณ์ตรงกับว่า สาเหตุที่ไฟฟ้าดับทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เกิดจากสายส่งที่เชื่อมโยงระหว่างภาคกลางกับภาคใต้ ที่สถานีไฟฟ้าใหญ่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ขัดข้อง ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้กะทันหัน จึงต้องมีการแก้ไขทั้งเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าในภาคใต้ ทั้งที่ จ.ยะลา สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช รวมถึงปรับวิธีส่งไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปภาคใต้ผ่านเส้นทางสายเก่า จ.ราชบุรี แทน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ปัจจุบันความต้องการใช้กระแสไฟฟ้าในภาคใต้อยู่ที่ราว 2,500 เมกะวัตต์ และมีแนวโน้มใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละ 5-6% เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ขณะที่โรงไฟฟ้าในภาคใต้มีกำลังผลิตอยู่ที่ราว 2,100 เมกะวัตต์เท่านั้น จึงต้องดึงไฟฟ้าจากภาคกลางลงไปช่วย