ถอด‘บทเรียนพีมูฟ’ รบ.เก่า-ใหม่ไม่ลงรอย ‘สาทิตย์’ เสนอตัวช่วย ‘เฉลิม’ ดันโฉนดชุมชน
ราชดำเนินเสวนา ‘บทเรียนพีมูฟ’ ชี้ช่องว่างรบ.ใหม่-เก่า กระทบปัญหาชาวบ้านไม่ถูกแก้ ‘สาทิตย์’ เสนอตัวช่วย‘เฉลิม’ ดันโฉนดชุมชน ‘สุภรณ์’ ยันแก้จบรบ.นี้ ‘พีมูฟ’เตรียมล่าชื่อเสนอกม.ด้านที่ดิน แก้ปมระยะยาว
วันที่ 19 พ.ค. 56 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ร่วมกับ สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดเวทีราชดำเนินเสวนา ‘รัฐบาลกับการแก้ปัญหาคนจน บทเรียนจากพีมูฟ’
นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องเร่งด่วน 4 เรื่องที่ต้องการให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้แก่ 1.การแก้ปัญหาผลกระทบจากเขื่อนปากมูลซึ่งเกิดปัญหายืดเยื้อมานาน 24 ปี 2.การสานต่อโครงการธนาคารที่ดิน 3.การออกมติคุ้มครองชั่วคราวพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการออกโฉนดชุมชน และ4.การอนุญาตก่อสร้างบ้านมั่นคง ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่ได้ข้อยุติในการแก้ไขแล้ว แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลปัญหาดังกล่าวกลับไม่ได้รับการสานต่อ โดยเข้าใจว่าเป็นปัญหาทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับผลงานรัฐบาลชุดเก่า
นายกฤษกร ศิลารักษ์ ผู้ประสานงานพีมูฟ กล่าวว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการแก้ปัญหาของพีมูฟเป็นการเฉพาะแล้วก็ตาม แต่ที่ผ่านมาการประชุมของคณะอนุกรรมการฯทั้ง 10 ชุดกรณีปัญหา ส่วนใหญ่ไม่มีความคืบหน้า เช่น คณะอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินฯ และคณะอนุกรรมการแก้ปัญหาที่สาธารณะประโยชน์ฯ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยไม่เคยมีการประชุม
“อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประชาชนต้องออกมาชุมนุม คือ ระบบราชการที่ไม่เอื้อต่อการสานต่อนโยบายรัฐ เช่น กรณีเขื่อนปากมูล แม้มีมติครม.มากมายให้เร่งแก้ไข แต่เมื่อราชการไม่ส่งเรื่องไป โดยอ้างติดขัดข้อกฎหมาย นโยบายก็ไม่เคาะ ฝ่ายการเมืองจึงต้องเห็นอุปสรรคข้อนี้และฝ่ากำแพงความล้าหลังของระบบราชการให้ได้”. นายกฤษกร กล่าว
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า การแก้ปัญหาให้เครือข่ายพีมูฟที่ล่าช้าในชุดรัฐบาลปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งมาจากผลกระทบของอุกภัยใหญ่ปลายปี 54 ซึ่งรัฐบาลต้องใช้เวลากว่า 1 ปีในการแก้ปัญหา เวลานี้เมื่อกลุ่มพีมูฟออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหา รัฐบาลโดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้สั่งการเร่งด่วนให้ร.ต.อ.เฉลิม รีบดำเนินการแก้ไขและเร่งรัดการทำงานของคณะอนุกรรมการทุกชุดเพื่อให้ได้ข้อสรุปและนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในเร็ววัน ทั้งนี้รับปากว่าการแก้ไขปัญหาให้พีมูฟโดยเฉพาะ 4 ประเด็นหลักจะไม่ยื้ดเยื้อและแล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จังหวัดตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อุปสรรคทางการเมืองทำให้การแก้ไขปัญหาของพีมูฟไม่ถูกสานต่อ แท้จริงแล้วทั้งเรื่องการคุ้มครองพื้นที่โฉนดชุมชนและการดำเนินโครงการธนาคารที่ดินมีมติครม.ออกมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อนแต่ก็ไม่ถูกนำไปใช้และประชาชนต้องนำกลับมาเสนอครม.ใหม่ในปัจจุบัน
โดยมองว่ารัฐบาลชุดนี้มีโอกาสและอำนาจสั่งการในการแก้ปัญหาในกลุ่มพีมูฟได้มากกว่ารัฐบาลชุดก่อน เนื่องจากเป็นรัฐบาลพรรคใหญ่ที่มีเสถียรภาพและมีสมาชิกพรรคอยู่ในกระทรวงสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหา เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรฯ กระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ตนในฐานะที่มีส่วนขับเคลื่อนนโยบายโฉนดชุมชน-ธนาคารที่ดินในรัฐบาลชุดก่อนพร้อมให้ข้อมูลและคำปรึกษาในโครงการดังกล่าวแก่ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีหน้าที่ดูแลโดยตรง เพื่อให้กระบวนการแก้ปัญหาเดินหน้าไปได้ นอกจากนี้เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานเกี่ยวข้องกับคดีความคนจนโดยเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาให้รัดกุมต่อไปด้วย
นางสุนี ไชยรส รองประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) กล่าวว่า กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟเป็นบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงการกระจายอำนาจผ่านการดำเนินโครงการพัฒนาของรัฐโดยขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชน ประกอบกับยังมีกฎหมายที่ล้าหลังหลายฉบับ เช่น กฎหมายป่าไม้ กฎหมายผังเมือง ที่ทำให้สิทธิชุมชนตามรัฐธรรมนูญไม่เกิดขึ้น ขณะที่รัฐบาลมักทำตัวลอยเหนือปัญหาเมื่อเกิดกรณีพิพาทการใช้ที่ดินระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานรัฐ หรือกับเอกชน โดยโยนภาระให้ศาลซึ่งใช้เพียงข้ออ้างทางกฎหมายในการตัดสินความผิด นอกจากนี้วิธีการแก้ปัญหาของทุกรัฐบาลคือการเริ่มต้นนับหนึ่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาชุดใหม่ และไม่พยายามสานต่องานเดิม ทำให้ปัญหาไม่จบสิ้น
“ทุกข้อเรียกร้องของพีมูฟคือการทำให้ชาวบ้านสามารถพึ่งตนเองได้ รักษาทรัพยากรที่ทำกินไว้ โดยไม่ต้องแบมือขอ ถ้ารัฐบาลเข้าใจในจุดนี้และส่งเสริมชาวบ้าน รัฐก็จะประหยัดงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือไปได้มาก” รองประธานคปก.กล่าว
นายประยงค์ ที่ปรึกษาพีมูฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า เวลานี้พีมูฟอยู่ระหว่างการปรับปรุงร่างกฎหมายฉบับประชาชน 3 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า กฎหมายโฉนดชุมชน และกฎหมายธนาคารที่ดิน โดยตั้งเป้าล่ารายชื่อให้ได้ 1 ล้านรายชื่อเพื่อมิให้รัฐสภาใช้จำนวนรายชื่อน้อยเป็นข้ออ้างในการปัดตกร่างกฎหมายฉบับประชาชน เช่นเดียวกับร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม โดยหวังว่าการมีกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาด้านที่ทำกินจะช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มพีมูฟได้ในระยะยาว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :::
ม็อบพีมูฟจัดเวที 'คดีคนจน' ชี้รัฐลักหลั่นใช้ กม.เอาผิดชาวบ้าน http://bit.ly/13DNrN2
ม็อบพีมูฟแห้ว! รบ.หักเหลี่ยมไม่เอาปัญหาเข้าครม. http://bit.ly/18UEQb1
พีมูฟปักหลักชุมนุมรอผลแก้ปัญหาชาวบ้านหน้าทำเนียบฯเป็นวันที่ 8 http://bit.ly/19mQyZi
‘เฉลิม’ รับปากเคลียร์ปัญหา ‘พีมูฟ’ - ม็อบลั่นชุมนุมยืดเยื้อ 28 พ.ค.รอผล http://bit.ly/13siT0D