ม็อบพีมูฟบายศรีพ่อเฒ่าคดีที่ดิน - ปักหลักจับตารบ.ทำตามสัญญา

พีมูฟชุมนุมวันที่ 11 บายศรี ’พ่อเฒ่า’ คดีบุกรุกที่ทำกินตนถูกปล่อยตัว  วอนให้ความเป็นธรรม 300 คดี พิพาทที่ดินรัฐ-ชาวบ้าน จับตารบ.สัญญาแก้ปัญหา

วันที่ 16 พ.ค. 56 ที่บริเวณข้างกระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มผู้ชุมนุม ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ปักหลักชุมนุมต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาด้านที่ทำกินและผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ

โดยในช่วงเช้ากลุ่มผู้ชุมนุมร่วมทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้แก่นายเด่น คำแหล้ อายุ 60 ปี ชาวบ้านต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งเพิ่งได้รับการประกันตัวออกจากเรือนจำ  หลังจากถูกข้อหาบุกรุกสวนป่าของกรมป่าไม้  พร้อมกันนี้พีมูฟได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 27 ใจความว่า แม้รัฐบาลจะไม่นำประเด็นปัญหาของพีมูฟ 4 เรื่อง(โฉนดที่ดิน ธนาคารที่ดิน ผลกระทบเขื่อนปากมูล โครงการบ้านมั่นคง) เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 14 พ.ค. 56 โดยกล่าวยืนยันว่าให้มีการประชุมระดับอนุกรรมการฯทุกชุดเพื่อนำไปสู่การประชุมใหญ่ของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาพีมูฟ ในวันที่ 28 พ.ค. 56  นั้น

แต่เมื่อวันที่15พ.ค.56 ที่ผ่านมา พีมูฟยังได้รับข่าวดีที่เป็นผลมาจากการรวมตัวเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือ  ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว พ่อใหญ่เด่น คำแหล้ หลังถูกจำคุกเป็นเวลา17วันในข้อหาบุกรุกที่ดินทำกินของกรมป่าไม้แล้ว, สถานทูตออสเตรเลียประเทศต้นสังกัดของบริษัท อัคราไมนิ่ง ผู้สัมปทานเหมืองทอง จ.พิจิตรและ จ.พิษณุโลก  ซึ่งดำเนินกิจการโดยทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ จะร่วมตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้มาพบปะทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมกลุ่มปัญหาที่ดินเอกชน เพื่อให้การประชุมของอนุกรรมการแก้ปัญหาที่สาธารณะประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง มีประสิทธิในการแก้ไขปัญหามากที่สุด  

ทั้งนี้พีมูฟยังยืนยันข้อเสนอที่มีต่อรัฐบาลดังนี้ 1.รัฐบาลต้องเดินหน้ากระบวนการแก้ปัญหาร่วมกับพีมูฟตามข้อตกลงทุกขั้นตอน 2.รัฐบาลต้องไม่มีการเลื่อนวันประชุม หรือปรับเปลี่ยนเวลานัดหมายตามที่ตกลงกันไว้

ด้านนายเด่น คำแหล้ กล่าวถึงกรณีการถูกจับกุมว่า ตนและภรรยาถูกจับกุมพร้อมชาวบ้านรวมกัน 10 คน เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 54 ในพื้นที่ทำกินของตน ในต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ด้วยข้อหาบุกรุกสวนป่าโคกยาวของกรมป่าไม้ ซึ่งได้เข้าดำเนินการฟื้นฟูป่าในพื้นที่ทำกินเดิมของชาวบ้านตั้งแต่ปี 2528  หลังจากถูกจับ คดีได้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล จนกระทั่งศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินยืนยันตามศาลชั้นต้นให้จำคุกตนและภรรยาเป็นเวลา 6 เดือน ไม่รอลงอาญา  โดยตนถูกคุมขังตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย.56 และได้รับการปล่อยตัวในช่วงเย็นของวันที่ 15 พ.ค. 56 รวมเวลา 17 วัน ตามคำสั่งของศาลฎีกาจากการเข้ายื่นหนังสือเรียกร้องขอประกันตัวโดยพี่น้องพีมูฟ

ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้มีการประกัน โดยอ้างว่า เกรงจำเลย (ตนและภรรยา)จะหลบหนีคดีออกนอกประเทศ  หรือ เข้าข่มขู่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติงานได้สะดวก ซึ่งตนเห็นว่าการพิจารณาของศาลโดยอิงเฉพาะกฎหมายป่าไม้มีความไม่เป็นธรรมและข้ออ้างในการไม่ให้ประกันตัวไม่สมเหตุผลเพราะตนเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดามิใช่ผู้ก่อการร้ายที่จะคิดหนีออกนอกประเทศหรือมีอำนาจทำร้ายเจ้าหน้าที่

ด้านนางอรนุช ผลภิญโญ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน กล่าวว่า  คดีที่เกิดขึ้นกับนายเด่น หรือ พ่อใหญ่เด่น เป็นเพียง 1 กรณีตัวอย่าง จากกว่า 300 คดีที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน-เกษตรกรในเครือข่ายของพีมูฟ ซึ่งโดยส่วนใหญ่โดนคดีอาญาข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า ขณะที่อีกส่วนถูกฟ้องในข้อหาทำให้โลกร้อนซึ่งเป็นทั้งคดีแพ่งและอาญา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแกนนำต่อต้านเขื่อนปากมูล 13 คน ซึ่งถูกฟ้องร้องข้อหากบฏทำลายความมั่นคงของประเทศด้วย  ซึ่งเวลานี้หลังจากพ่อใหญ่เด่นได้รับการประกันตัวออกมา ก็ไม่มีชาวบ้านคนใดในเครือข่ายพีมูฟที่ถูกจองจำ แต่ยังต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล

“คำพิพากษาของศาลมักทำให้ชาวบ้านซึ่งต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิทำกินของตนถูกมองเป็นฝ่ายผิด ส่วนใหญ่ศาลจะเข้าข้างเจ้าหน้าที่รัฐ และชอบบอกให้ชาวบ้านสารภาพเรื่องจะได้จบ แต่ถ้ายิ่งสู้จะยิ่งโดนหนัก ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง” แกนนำเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสานกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟวันนี้ ว่า ช่วงบ่ายกลุ่มพีมูฟได้ส่งตัวแทนเข้าติดตามเรื่องการแก้ปัญหาของกลุ่มที่จะบรรจุเข้าการประชุมครม. และมีการหารือร่วมกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำข้อสรุปเรื่องโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน เพื่อเตรียมนำเสนอที่ประชุมครม.ในวันที่ 21 พ.ค. 56 นอกจากนี้ยังเข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการการศึกษาและแก้ปัญหาด้านคดีความกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่กระทรวงยุติธรรม  และการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าแม่เมาะเหมืองแร่และโรงโม่หิน ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย