ผู้ค้าข้าวกุมขมับ ไม่มั่นใจส่งออกข้าวได้ตามเป้า ชี้ค่าเงินแข็งเป็นเหตุ
นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผยไม่มั่นใจจะส่งออกข้าวได้ถึง 6 ล้านตัน ด้านรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ตั้งเป้าขายข้าว 8.5 ล้านตัน ระบายผ่านจีทูจี
วันที่ 15 พฤษภาคม นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงการแนวโน้มในการการค้าข้าวไทยในปีนี้ว่า ไม่มั่นใจการส่งออกข้าวไทยจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ประเทศไทยมีการส่งออกที่ยากลำบากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะมีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกข้าวลงมาจาก 6.5 ล้านตันแล้วก็ตาม
“เชื่อว่าประเทศไทยจะขายข้าวไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน และเราคงไม่สามารถไต่เป็นอันดับหนึ่งของผู้ส่งข้าวระหว่างประเทศได้ขณะนี้ เนื่องจากผู้ซื้อยังเห็นราคาเป็นสำคัญ ประกอบกับภาวะค่าเงินบาทแข็งตัว ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่ง” นางสาวกอบสุข กล่าว และว่า อย่างไรก็ตาม การค้าข้าวช่วงไตรมาตรสามเชื่อว่ายอดขายจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะข้าวในสต๊อกของประเทศคู่แข่ง เช่น อิรัก ญี่ปุ่น อิหร่าน หรือแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดข้าวนึ่งเริ่มหมด แถมผู้ส่งออกยังส่งเสริมการขายแบบรัฐต่อรัฐ หรือ “จีทูจี” ทำให้แนวโน้มการขายไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ส่วนนายทิฆัมพร นาทวรทัต รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวถึงเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2556 ได้กำหนดเป้าการส่งออกอยู่ที่ 8.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 22% โดยมีมูลค่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 19% โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งการส่งออกข้าวให้มากขึ้น ผ่านการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐเพื่อมุ่งหวังเพิ่มยอดการส่งออกตามเป้าที่วางไว้
นายทิฆัมพร กล่าวว่า สำหรับสถาณการณ์การส่องออกข้าวของไทยในปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2556 ไทยส่งออกข้าวไปแล้วปริมาณ 2.01 ล้านตัน (1,416 ล้านเหรียฐสหรัฐฯ) ซึ่งด้านตลาดส่งออกข้าวไทย 3 อันดับได้แก่ อิรัก (17.38%) เบนิน(9.36%) ไอวอรี่โคสต์ (7.01%)
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดงานประชุม ไทยแลนด์ ไรซ์ คอนเวนชั่น 2013 หรือทีอาร์ซี2013 ครั้งที่6 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด Pushing ASEAN Towards the World's Rice Hub เชิญผู้เกี่ยวข้องในวงการค้าข้าวทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งภาครัฐและเอกชน จาก40 ประเทศ เพื่อศึกษาแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการในการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวร่วมกัน
นายบุญทรง กล่าวด้วยว่า คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า500คน ซึ่งผู้ประกอบการค้าข้าวจะได้พบปะเจรจาธุรกิจและทำให้เกิดการซื้อขายข้าวเพิ่มขึ้น และยังเป็นโอกาสที่ไทยจะแสดงความพร้อมเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าข้าวในระดับอาเซียนและในระดับโลก