“ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง” ผอ.อภ. เปิดใจ สต๊อกวัตถุดิบยาพาราฯ กว่า 100 ตัน
นพ.วิทิต ลั่นโดนปลดวันนี้ มะรืน หรืออีก 2 ปี ไม่ต่างกัน ขอเอาเกียรติยศเป็นเดิมพัน ไม่เคยรับเงินทอนใคร ยันบริสุทธิ์ใจสั่งสำรองวัตถุดิบยาพาราฯ ด้วยดุลยพินิจ บริหารความเสี่ยงตอนน้ำท่วม
จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้มูลความผิดปกติให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จากการที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ดำเนินงานจัดซื้อจัดจ้างยาพาราเซตามอล และพบการปนเปื้อน อีกทั้งดีเอสไอกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องการก่อสร้างโรงงานวัคซีนไข้หวัดใหญ่นั้น
จนล่าสุด มีกระแสข่าวลือว่า จะมีปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการอภ. ออกจากตำแหน่งนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 พฤษภาคม นพ.วิทิต เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ชี้แจงในเรื่องต่างๆ ณ โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี
นพ.วิทิต กล่าวถึงกรณียาพาราเซตามอล ที่จัดซื้อจากบริษัทเดียวว่า ก่อนหน้านี้ อภ.ได้ดำเนินการหาแหล่งผลิตจาก 6 แหล่ง ทำการตรวจสอบตามขั้นตอน จนในที่สุดเหลือ 2 แหล่ง หนึ่งแหล่งไม่ส่งเอกสารที่สำคัญด้านคุณภาพให้ จึงไม่ผ่านคุณสมบัติ เมื่อหลือแหล่งผลิตที่ถูกต้องเหมาะสมเพียงแหล่งเดียว และได้มาตรฐานสากล อภ. ได้ทำการจัดซื้อ 48 ตันแรกเข้ามาผลิต และอีก 100 ตัน เมื่อช่วงวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 โดยไม่ทราบวิกฤตน้ำท่วมจะกินเวลานานเท่าไหร่
ส่วนที่ต้องมีการสำรองวัตถุดิบตัวยาพาราฯ ทั้งที่โรงงานผลิตยังไม่เสร็จนั้น ผอ.อภ. กล่าวว่า การสำรองวัตถุดิบตัวยาพาราเซตามอล 148 ตัน ดูตัวเลขอาจมากเกินไป แต่ความจริงปริมาณดังกล่าวผลิตยาเม็ดขนาด 500 มิลลิกรัม ได้ประมาณ 266 ล้านเม็ด ซึ่งตามสถิติจำหน่ายได้หมดในระยะเวลา 6 เดือนเท่านั้น
“ผมย้ำด้วยเกียรติยศของผม พาราฯ ล็อตแรก 48 ตัน เงินไม่ถึง 7.4 ล้านบาท กับปีๆ หนึ่งผมสั่งยาหมื่นกว่าล้านบาท บอกได้เลย ผมไม่เคยรับคำสั่งใคร หรือรับเงินทอนใคร ผมสั่งสำรองวัตถุดิบยาพาราฯ ด้วยดุลยพินิจ การตัดสินใจการบริหารความเสี่ยงช่วงน้ำท่วม ท่านอย่าเอาดุลยพินิจตอนน้ำไม่ท่วมมาตัดสิน มันไม่ยุติธรรม” นพ.วิทิต กล่าว และว่า ตอนช่วงนั้น เป็นใครก็ไม่ทราบว่า น้ำจะลดเมื่อไหร่ และหลังน้ำลด โรคระบาดจะเป็นอย่างไร ยาจะขาดแคลนแค่ไหน
สำหรับข่าวเรื่องการปนเปื้อน ของตัวยาพาราฯ ที่อภ.จัดซื้อไว้สำรองไว้นั้น และไม่อนุญาตให้เข้ามาตรวจสอบช่วงแรกนั้น นพ.วิทิต กล่าวว่า เพราะไม่แน่ใจว่า จะมีใครวางอะไรไว้หรือไม่ ทั้งๆ ที่วัตถุดิบผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว แต่เพื่อความสบายใจ อภ.ดำเนินการขอคืนวัตถุดิบทั้งหมด และส่งคืนวัตถุดิบทั้งหมดแก่ผู้ผลิตจำหน่ายภายในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้
“ผมนึกว่าเกมจะจบ ใครเซ็ทเกมนี้ผมไม่ทราบ ผมต้องให้เกมนี้จบ เพราะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นยาของอภ. เราให้ความร่วมมืออย่างดี ยินดีรับเปลี่ยนคืน แต่ก็มีข่าวออกมาทุกวัน”
ทั้งนี้ นพ.วิทิต กล่าวถึงเรื่องโรงงานวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ /ไข้หวัดนก ว่า การสร้างโรงงานนี้ เพื่อมุ่งแก้ปัญหาของประเทศยามวิกฤต สร้างความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤตที่มีการระบาดของไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก แม้องค์กรจะมีความเสี่ยงสูงก็ต้องยอม
“อภ.พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเริ่มต้นจากศูนย์ มีข้อจำกัดทั้งเรื่องความรู้ และเวลา ทำให้โครงการนี้ล่าช้าตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ผู้เกี่ยวข้องในประเทศไม่มีความรู้พอ”
และเมื่อถามถึงกระแสข่าวถูกปลดจากตำแหน่ง ผอ.อภ. กล่าวว่า อีก2 ปี หมดสัญญาจ้าง หรือมะรืน ก็ไม่ต่างกัน แต่อยากให้ภาพลักษณ์ขององค์กรอยู่คู่สังคมไทย ให้มีความน่าเชื่อถือตลอดไป
“เรื่องยาพาราฯ ผมทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และทุกโครงการ ทุกขั้นตอน ยินดีให้ตรวจสอบ สั่งวัตถุดิบยาพาราฯ มาเมื่อตอนน้ำท่วมไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง แต่เมื่อบานปลายถึงดีเอสไอ ทำให้ภาพลักษณ์องค์กรเสียไป ทั้งๆ ที่พยายามปกป้องศักดิ์ศรี แต่ก็เอาไม่อยู่ เป็นข่าวลากยาว 2- 3 เดือน ”