ชี้ช่องว่างรื้อผังเมือง 29 จว. ‘ชลฯ-ระยอง’นิคมอุตฯจ่อเพิ่ม 3 หมื่นไร่ ไร้การควบคุม
นักวิชาการชี้ฉวยช่องว่างรอรื้อผังเมืองรวม 29 จังหวัด ชลฯ-ระยองเตรียมผุดนิคมอุตฯเพิ่ม 3 หมื่นไร่ ไร้การควบคุม เครือข่ายปชช.ตวอ.หวั่นการเคลื่อนไหวผลักดันพื้นที่เขียว ถูกใช้เป็นปมขัดแย้งชะลอผังเมืองต่อ
ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการผังเมืองอิสระ เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยกับศูนย์ข่าวเพื่อชุมชน สำนักข่าวอิศรา ถึงความคืบหน้ากรณีเครือข่ายฯ ร้องเรียนไปยังนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตั้งแต่เดือนเมษายน 56 ให้เร่งรัดประกาศใช้ผังเมืองรวม 6 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราด สระแก้ว และชลบุรีโดยเร็ว ว่า ขณะนี้มีเพียงผังเมืองรวมจังหวัดฉะเชิงเทราที่เพิ่งประกาศใช้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผังเมืองรวมจังหวัดระยองและชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการขยายของนิคมอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง มีท่าทีว่ายังถูกชะลอรื้อผังฯทบทวนใหม่อยู่
โดยสถานการณ์การขยายพื้นที่อุตสาหกรรมในจังหวัดภาคตะวันออกขณะที่ยังไม่มีการประกาศใช้ผังเมืองรวมยังคงมีการผลักดันอยู่เป็นระยะ โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรีซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมจัดตั้งใหม่และนิคมฯเก่าที่ขยายพื้นที่เพิ่มหลายแห่ง เช่น นิคมฯไชโย นิคมซีพีแลนด์ นิคมฯปิ่นทอง4และ5 ฯลฯ ซึ่งเวลานี้ดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยรอเพียงการประกาศจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โดยคาดว่าจะมีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่รอประกาศกนอ.ทั้งสิ้นเพิ่มอีกประมาณ 20,000ไร่ ซึ่งหากรวมพื้นที่จังหวัดระยองจะมีนิคมอุตสาหกรรมที่รอจัดตั้งรวมประมาณ 30,000 ไร่ โดยคาดว่าจะประกาศได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้
ดร.สมนึก กล่าวเพิ่มเติมต่อกรณีล่าสุดซึ่ง 29 จังหวัดขอให้กรมโยธาธิการและผังเมืองรื้อผังเมืองรวมจังหวัดมาพิจารณาใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 (จาก 24 ขั้นตอน) ว่า ต่อสถานการณ์ดังกล่าวเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกที่เดินหน้าชุมนุมเรียกร้องให้มีการประกาศใช้ผังเมืองรวมจังหวัดในหลายครั้งเพื่อป้องกันการรุกของพื้นที่อุตสาหกรรมในพื้นที่เกษตร จะยังไม่เคลื่อนไหวใด ๆ ในเวลานี้ โดยจะขอดูท่าทีและประเมินสถานการณ์ไปก่อน เนื่องจากถูกโจมตีว่าการเรียกร้องของเครือข่ายฯแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม นำไปสู่ข้ออ้างในการแก้ไขผังเมืองรวมจังหวัดใหม่ในหลายพื้นที่ ซึ่งตนเห็นว่าแม้ชาวบ้านไม่ออกมาเรียกร้องก็ยังจะมีการชะลอการประกาศใช้ผังเมืองรวมจังหวัดไว้เพื่อเอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมอยู่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 29 จังหวัดที่ขอให้มีการรื้อผังเมืองพิจารณาใหม่ ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี เพชรบูรณ์ กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น ชลบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ตาก นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี พิจิตร มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลา สตูล สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุโขทัย สุราษฎร์ธานี และอำนาจเจริญ
ทั้งนี้นับจากมีมติ ครม. เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 45 ให้กรมโยธาฯ เร่งจัดทำผังเมืองรวมจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ปัจจุบันมีผังเมืองรวมจังหวัดประกาศใช้เพียง 9 จังหวัด ได้แก่ ได้แก่ ภูเก็ต สิงห์บุรี สระบุรี เชียงใหม่ ยโสธร นครนายก ปราจีนบุรี และราชบุรี และล่าสุดคือ จังหวัดฉะเชิงเทรา .