แม่ทัพ 4 : บีอาร์เอ็นเปิดตัว-รัฐหลุดข้อหาสร้างสถานการณ์ไฟใต้
พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดวงพบปะหารือกับสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนใต้อย่างเป็นทางการครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงาน ตลอดจนรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความไม่สงบ และนำพาพื้นที่ไปสู่สันติสุข
การพบปะหารือกันดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 30 เม.ย.2556 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารอำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยมีตัวแทนสื่อมวลชนทุกแขนงทั้งวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อทางเลือกจำนวนกว่า 30 คนเข้าร่วม มี นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เป็นผู้นำ
ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ตั้งประเด็นให้สื่อมวลชนได้ช่วยกันสะท้อนมุมมอง 3 ประเด็น คือ
1.สื่อมวลชนจะสนับสนุนการนำเสนอข่าวสารให้เกิดกระแสปฏิเสธความรุนแรงและหันมาพูดคุยกันอย่างสันติได้อย่างไร
2.สื่อมวลชนจะสนับสนุนการสร้างความเข้าใจต่อประชาชนทั่วทุกภาคและต่างประเทศให้หันมาสนับสนุนรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร
3.สื่อมวลชนจะสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันเหตุร้ายและพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างไร
นายไชยยงค์ กล่าวว่า ปัญหาชายแดนใต้เป็นวาระแห่งชาติ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตัวผู้นำ รวมทั้งในส่วนของกองทัพ คนในพื้นที่ก็จะมีความหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาสื่อมวลชนทำหน้าที่ 2 ด้าน คือ 1.เป็นกระจกสะท้อนให้สังคมรับรู้ข่าวสาร ซึ่งทุกวันนี้ข่าวแพร่ไปเร็วมากโดยโซเชียลเน็ตเวิร์ค (สื่อสังคมออนไลน์) และ 2.เป็นตะเกียงส่องสว่างด้วยการเสนอความคิดเห็น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของปัจเจก ที่ผ่านมาสื่อมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา มีพัฒนาการร่วมกันในเรื่องข่าว ทำให้การนำเสนอข่าวมีมิติของข้อเท็จจริงที่เข้าถึงรากเหง้าของปัญหามากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนการให้สื่อช่วยลดทอนความรุนแรงนั้น สื่อมีสำนึกในการเป็นหุ้นส่วนประเทศไทยอยู่แล้ว ข่าวร้ายจากชายแดนใต้ไม่มีผลต่อยอดขายของหนังสือพิมพ์เลย แต่การจะทำให้ข่าวความรุนแรงลดลง รัฐต้องหาสิ่งที่ดีมาชดเชย เช่นเดียวกับเรื่องข้อมูล ทุกสื่อมีคนทำงานน้อย ตามข่าวไม่ทันทุกข่าว ต้องช่วยกันทำแล้วแบ่งปันข้อมูลกัน สามารถหยิบไปใช้กันได้ ไม่มีข่าวใดที่เสนอได้ทุกมิติจากนักข่าวคนเดียว การสร้างเครือข่ายสื่อจึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก นอกจากนั้นสื่อยังช่วยในเรื่องการป้องกันเหตุร้ายได้ เพราะเมื่อมีเหตุรุนแรง ชาวบ้านมักจะบอกข้อมูลกับนักข่าวก่อน และเป็นข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง อย่างไรก็ดี สื่อที่เข้าถึงชาวบ้านในพื้นที่มากที่สุดคือ "วิทยุชุมชน" ฉะนั้นกองทัพไม่ควรมองข้าม ต้องให้ความสำคัญกับนักจัดรายการและเจ้าของสถานีมากขึ้น
"ขณะนี้สมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทยได้ทำข้อตกลงร่วมกับสมาคมนักข่าวของมาเลเซียในรัฐเปรัค รัฐเปอร์ลิส รวมถึงสื่อในเมดานของอินโดนีเซีย และจะขยายไปให้ครบทั่วทั้งมาเลเซียและอินโดนีเซียเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารที่สำคัญเพื่อช่วยให้เพื่อนบ้านของเราได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องในเรื่องของสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น"
"สำหรับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องปรับทัศนคติให้ทันยุค ต้องมองให้หลุดมิติความมั่นคงแบบเดิมๆ สิ่งที่ขบวนการทำรัฐไม่เสียหายแต่ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องสื่อสารและตอบโต้ในทางบวก และทำงานเชิงจิตวิทยาให้มากขึ้น หากเป็นไปได้ทุกเดือนแม่ทัพควรจัดแถลงข่าวถึงสถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ รวมทั้งในระดับหน่วยเฉพาะกิจของแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อให้ข่าวสารที่ถูกต้องต่อสาธารณชน" นายไชยยงค์ กล่าว
ด้าน พล.ท.สกล กล่าวว่า ที่ผ่านมาและวันนี้ได้รับความกรุณาจากพี่น้องสื่อมวลชนมาร่วมพบปะทำความเข้าใจ ตลอดจนหารือแนวทางที่จะปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติในการสร้างสันติสุขและการมีส่วนร่วมของประชาชน ถือเป็นกำลังใจในการทำงานมากขึ้น และจะน้อมรับสิ่งที่ได้แนะนำไปปฏิบัติในแต่ละภารกิจในทุกระดับปฏิบัติการ
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เสนอผ่านคลิปวีดีโอในเว็บไซต์ยูทิวบ์ และต่อวงพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนรัฐบาลไทย พล.ท.สกล กล่าวว่า ประเด็นใดที่อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญของประเทศไทย ถ้าหากสามารถทำได้แล้วทางบีอาร์เอ็นยินดีที่จะยุติการสร้างความเกลียดชัง ยุติการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ แล้วหันมาร่วมสร้างสันติสุขเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน คิดว่าทางรัฐบาลและคณะผู้เจรจาพูดคุยก็พร้อมจะรับฟัง
"ข้อเรียกร้องเหล่านี้ที่อ้างว่าประมวลจากความเห็นของประชาชน คิดว่าอาจเป็นข้อเรียกร้องหรือเสียงสนับสนุนจากประชาชนที่ไม่เข้าใจข้อมูลต่างๆ แต่การออกมาเสนอก็เป็นเรื่องดีที่ประชาชนจะได้ทราบว่าสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดกับประชาชนนั้นเป็นการกระทำของใครกันแน่ เพราะที่ผ่านมากองทัพถูกใส่ร้ายป้ายสีว่าเป็นผู้สร้างสถานการณ์ตลอด ตอนนี้เราพ้นข้อกล่าวหานี้แล้ว เพราะมีผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์โหดร้ายทารุณตลอด 9 ปีที่ผ่านมาว่าใครอยู่เบื้องหลัง" พล.ท.สกล กล่าว
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 และ 3 พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4
2 สื่อมวลชนทุกแขนงเข้าร่วมพบปะพูดคุย
4 นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล (ภาพทั้งหมดโดย สมศักดิ์ หุ่นงาม)