กบอ.ยืนยันจัดทำทีโออาร์ บริหารจัดการน้ำโปร่งใสตรวจสอบได้
กบอ.ยืนยัน การจัดทำทีโออาร์ในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เป็นไปอย่างละเอียด รอบคอบ ไม่ขัดกฎหมาย พร้อมเดินหน้าดำเนินการ เพราะยังไม่พบข้อบกพร่องตามที่มีการร้องเรียน
วันที่ 29 เมษายน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเกี่ยวกับ TOR โครงการน้ำ 350,000 ล้านบาท ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล โดยชี้แจงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลยื่นศาลปกครองให้ระงับการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เนื่องจากทีโออาร์ไม่มีรายละเอียด ขัดต่อกฎหมาย สร้างความเสียหายต่อประเทศ
นายปลอดประสพ กล่าวยืนยันทีโออาร์จัดทำอย่างละเอียด รอบคอบ และถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทำความเข้าใจกับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการอย่างชัดเจน
ส่วนการที่บริษัทญี่ปุ่นถอนตัวจากโครงการนั้น นายปลอดประสพ กล่าวว่า มีหนังสือยืนยันชัดเจนว่าเป็นปัญหาทางธุรกิจ ส่วนการที่ กบอ.ไม่ทำตามข้อเสนอของไจก้า เพราะไจก้าไม่เคยประสานมายัง กบอ. โดยตรง มีเพียงการเสนอแนวคิดจากตัวแทนไจก้าเท่านั้น อีกทั้งกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นเสนอโครงการที่ใช้งบประมาณถึง 7 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเกินกว่างบประมาณที่จัดสรรไว้
"กบอ. ไม่มีแนวคิดเพิ่มงบประมาณ เพราะยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วนข้อกล่าวหาที่ให้เอกชนทำการเวนคืนที่ดินนั้นไม่สามารถทำได้ ภาคเอกชนเพียงแต่กำหนดจุด แต่รัฐบาลจะเป็นผู้ดำเนินการ และการทำอีไอเอ ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะจัดทำ"
ด้าน นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กบอ. มีผู้แทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา อัยการสูงสุด และสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแนวทางดำเนินการจัดทำทีโออาร์ ด้วยความระมัดระวัง มั่นใจว่าทุกขั้นตอนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองถือว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ แต่จากการตรวจสอบยืนยันว่า ยังไม่พบขั้นตอนใดที่มีปัญหา และการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากคำสั่งฝ่ายปกครอง
"หากศาลปกครองรับเรื่องพิจารณา สำนักนายกรัฐมนตรีและอัยการสูงสุด พร้อมที่จะชี้แจงต่อศาล และในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ บริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะส่งแบบโครงสร้างเบื้องต้น จากนั้นจะทำการจรวจสอบว่าสามารถดำเนิการทำได้จริง"
ขณะที่ นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า จะเดินหน้าตามกระบวนการต่อไป เนื่องจากยังไม่พบว่า ทีโออาร์ผิดระเบียบ แต่ยอมรับว่าอาจมีความไม่เข้าใจ หรือข้อเสนอแนะด้านเทคนิค ที่ความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น
ส่วน นายสุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การประมูล หรือการคัดเลือบริษัท ไม่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทต่างชาติ โดยมีบริษัทไทยเข้าร่วมถึง 15 บริษัท ที่เหลือมีบริษัทจากหลายประเทศ เช่น สวิสเซอร์แลนด์ เกาหลี และลาว
ที่มา:http://thainews.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=WNSOC5604290020013