นักวิชาการชี้ไทยอ่วม ทุนข้ามชาติยึดครอง ร้านค้าปลีกหมื่นสาขา-ฮุบที่ดิน โชว์ห่วยเจ๊ง
นักวิชาการชี้ไทยอ่วม ทุนข้ามชาติยึดครอง ร้านค้าปลีกหมื่นสาขา-ฮุบที่ดิน โชว์ห่วยเจ๊ง ค้าปลีกข้ามชาติทั่วไทยหมื่นกว่าสาขา แนะแก้กฎหมายควบคุม
(26 เม.ย.) ที่อาคารรัฐสภา 2 คณะกรรมาธิการด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา จัดเสวนาเรื่อง "ทุนนิยมข้ามชาติกับจริยธรรมเศรษฐกิจ"
ดร.ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก กล่าวถึง กฎหมายเปิดเสรีทางการค้าของไทย ส่งผลให้ปัจจุบันบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ยุโรปตะวันตก และญี่ปุ่น เข้ามาแสวงหากำไรสูงสุดทางธุรกิจค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างสะดวกซื้อ ที่ทำลายร้านค้าท้องถิ่นของคนไทยทั่วประเทศ ต้องปิดกิจการลงมากกว่าครึ่ง
ข้อมูลจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน รัฐสภา เปิดเผยว่า ในปี 2555 คนไทยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันผ่านห้างต่างชาติร้อยละ 53 ตลอดจนที่ดินกว่า 1 ใน 3 ของประเทศไทยอยู่ในการครอบครองของต่างชาติ
ขณะที่ ปี 2555 มีธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ในประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 11,437 สาขา โดยธุรกิจที่สำคัญ อาทิ เซเว่น-อีเลฟเว่น 6,276 สาขา, วี ช็อป 976 สาขา, แฟมิลี่มาร์ท 529 สาขา, 108 ช็อป 775 สาขา, เทสโก้ โลตัส 801 สาขา, ท็อปส์ 218 สาขา, บิ๊กซี 174 สาขา, แม็คโคร 52 สาขา
นอกจากนี้ สหประชาชาติเปิดเผยตัวเลขทรัพย์สินของคนที่รวยที่สุดในโลกสามคนแรก (ข้อมูลปี 2555) ได้แก่ คาร์รอส สลิม, บิลล์ เกต และวอร์เรน บัฟเฟต มีมากกว่าทรัพย์สินของประเทศที่ยากจนที่สุด 37 ประเทศ ซึ่งมีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน
"น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 เผยข้อเท็จจริงว่า ประเทศไทยมีนิคมอุตสาหกรรมที่ผลิตรถยนต์เป็นอันดับ 8ของโลก และอันดับ 4 ของเอเชีย โดยที่เจ้าของกิจการคือ สหรัฐอเมริกาอเมริกา ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนคนไทยเป็นแรงงาน ผลกำไรกลับคืนไปสู่ประเทศเจ้าของกิจการเหล่านั้น" ดร.ทวีวัฒน์ กล่าว และว่า ระบบทุนข้ามชาติเป็นระบบที่ครอบงำโลกในปัจจุบัน กลายเป็นปัญหาจริยธรรมที่สำคัญ เมื่อช่องว่างของรายได้ ระหว่างคนรวยกับคนจนห่างไกลกันยิ่งขึ้น
ด้านศ.พ.ต.อ.วีรพล กุลบุตร อาจารย์ประจำ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน กล่าวถึงกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับทุนข้ามชาติ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ที่ทำให้ร้านสะดวกซื้อเข้ามาจัดตั้งในประเทศไทยจำนวนมาก ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกของไทยถดถอยและปิดตัวลง เพราะสู้ร้านค้าปลีกของทุนต่างชาติไม่ได้ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน กลยุทธ์การตลาด การขาย การจัดหน้าร้าน
ดังนั้นฝ่ายบริหารควรต้องแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ให้มีความเป็นธรรมกับธุรกิจค้าปลีกของคนไทยมากขึ้น หรือออกกฎหมายส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อควบคุมบริษัทข้ามชาติที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ แม้จะไม่เป็นที่พอใจของทุนข้ามชาติเหล่านั้น แต่ก็จำเป็นต้องทำ เช่น เกาหลีใต้ ออกกฎหมายส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย ทำให้ผู้ประกอบการต่างด้าวต้องปิดกิจการลงในที่สุด
ศ.พ.ต.อ.วีรพล ยังกล่าวถึงผลของกฎหมายบางฉบับจากกฎหมาย 11 ฉบับ ทำให้ปัจจุบันเกิดปัญหาการถือครองที่ดินโดยคนต่างด้าวเป็นจำนวนมาก เช่น ที่ดินที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นการถือหุ้นแทน แม้ในทางเอกสารจะถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็เป็นช่องว่างทางกฎหมายที่ควรมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ขณะที่พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงที่สุดตอนนี้คือ นายทุนต่างชาติกว้านซื้อที่ดิน ทั้งนี้ยังกล่าวด้วยว่า การออกโฉนดพื้นที่ป่า รุกที่อุทยานต่าง ๆ ให้ฝรั่งซื้อขายได้ เรื่องนี้ถ้ากรมที่ดินไม่เกี่ยวข้อง ก็ทำไม่ได้