'ทนง' จัดหนักอัดบทบาทขุนคลังยุคโต้ง น่ากลัว ทำหน้าที่กู้เงิน แทนดูผลประโยชน์ชาติ
"ทนง พิทยะ" อัดบทบาท รมว.คลังสมัยใหม่ ทำหน้าที่กู้เงิน 2 ล้านล้านให้คมนาคม ทั้งๆ หน้าที่หลัก คือการกลั่นกรองโครงการให้ดีก่อน จัดหาแหล่งเงินกู้
ดร.ทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน พ.ศ. ... วงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะกับบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยุคนี้ว่า น่ากลัว ต่างจากในอดีตที่ รมว.คลัง จะมีหน้าที่ค้าน ยับยั้ง (veto) โครงการที่ไม่มีประโยชน์ เกิดผลเสียต่อประเทศชาติ
“ขณะนี้หน้าที่รมว.คลังสมัยใหม่ ทำหน้าที่กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทให้กระทรวงคมนาคม ทั้งๆ หน้าที่หลัก คือการกลั่นกรองโครงการให้ดีก่อนการจัดหาแหล่งเงิน การดูแลการประมูลให้โปร่งใส ไม่ให้มีการฮั้วกัน ดูแลให้มีต้นทุนที่ถูกที่สุด โครงการไหนมีประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากที่สุด” ดร.ทนง กล่าว พร้อมกับยกตัวอย่างข้อมูลของกระทรวงการคลังในอดีตที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จนเมื่อมีเรื่องฟ้องร้องไปที่ศาลปกครอง ศาลฯ ก็ได้ใช้ข้อมูลกระทรวงการคลัง ที่ทำบันทึกไว้ในครม.ว่า การแปรรูปกฟผ. คิดค่าเช่าไม่ถูกต้อง เช่น เขื่อน สายส่งไฟฟ้า เป็นสมบัติของรัฐ เป็นต้น จนเป็นที่มาของคำพิพากษาสั่งระงับ กฟผ. เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
อดีต รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีบทบาทสำคัญมากในการดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติ ฉะนั้นไม่ รมว.คลัง ก็ไม่ควรทำหน้าที่เป็นเพียงผู้กู้อย่างเดียว เพราะอำนาจสำคัญ คือ การกลั่นกรองโครงการ อย่าไปโยนให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสศช. รับหน้าที่แทน ซึ่ง สศช.ก็เพียงแค่เขียนโครงการเอาไว้เป็นข้อมูล ไม่ได้กรองอะไร
"ผมเป็นห่วงกระบวนการศึกษาความคุ้มค่าของโครงการ การกลั่นกรอง จนนำมาสู่ปัญหาความไร้ประสิทธิภาพ และนำมาซึ่งปัญหาคอรัปชั่นในที่สุด"
ส่วนการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2563 นั้น ดร.ทนง กล่าวด้วยว่า เขียนไว้เพื่อบีบให้ทำทุกอย่างให้เสร็จภายใน 7 ปี น่ากลัว ตนเห็นว่า มีอะไรบางอย่างที่ผิดกระบวนการที่เคยทำมา อีกทั้งไม่แน่ใจรมว.คลังตอนนี้ คือ ใครกันแน่ มีหน้าที่อะไร รัฐบาลกำลังทำอะไรกันอยู่