ป.ป.ช.ปลุกเยาวชนร่วมต้านโกง ‘วิชา’ แนะปรับการศึกษาเตรียมคนเพื่อชาติ
ป.ป.ช.เปิดพื้นที่ระดมความเห็นคนรุ่นใหม่ร่วมต้านโกง ชี้ทุจริตไม่ใช่แค่เรื่องในสภาฯ เสนอเริ่มแก้ที่ตนเอง ด้านวิชา แนะเยาวชนปฏิวัติโค่นระบบอุปถัมภ์ สางระบบการศึกษา เน้นปฏิบัติ
วันที่ 24 เมษายน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดเสวนา 2020 เยาวชนไทยไร้คอร์รัปชั่น ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ชั้น 1 โดยมี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) และตัวแทนเยาวชนร่วมนำเสนอความคิดเห็น
ตัวแทนเยาวชน ระดมความคิดและมีข้อเสนอว่า แนวทางในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นที่เยาวชนสามารถร่วมทำได้ เริ่มต้นที่ตนเอง ต้องพิจารณาตัวเองว่าในชีวิตประจำวันมีทำสิ่งใดที่ทุจริตอยู่หรือไม่ เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ใช่แค่เรื่องของสภาฯ หรือนักการเมือง แต่ระดับประชาชนก็เกิดขึ้นได้ เป็นค่านิยมโดยไม่รู้ตัว
"ทุกคนในสังคมต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ สังเกตตนเองและตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะทุกวันนี้แค่เพิกเฉยก็นับว่าผิดแล้ว ครอบครัวต้องช่วยปลูกฝัง ปฏิบัติจริงให้มากกว่าแค่รู้แต่ทฤษฎี ทั้งนี้ เยาวชนสามารถใช้สื่อใหม่ที่ใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์ ผลิตสื่อต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เช่น หนังสั้น โฆษณา เผยแพร่ไปในวงกว้าง แต่ปัจจุบันช่องทางในการเผยแพร่เรื่องดังกล่าวไม่เปิดกว้างนัก โดยเฉพาะในทีวีสาธารณะสื่อหลัก"
ศ.พิเศษ วิชา กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มคนที่มีมากที่สุดในประเทศไทย คือ กลุ่มไทยเฉย ที่ไม่สนใจและไม่ร่วมมือในการขับเคลื่อน ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและเรื่องต่างๆ ในสังคม บางคนรู้ข้อมูลการทุจริตแต่นิ่งเฉย มองไม่เห็นความเดือดร้อน
ศ.พิเศษ วิชา กล่าวต่อว่า ในประเทศไทยจะไม่มีทางสู้กับคอร์รัปชั่นได้ หากไม่หักโค่นระบบที่เป็นรากฐานอยู่ นั่นคือ ระบบอุปถัมภ์ อย่างระบบการศึกษาไทยต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงที่หลักสูตร ต้องเปลี่ยนแปลง "แบบถอนรากถอนโคน" เน้นที่การปฏิบัติและวิถีชีวิต สร้างเยาวชนที่ไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาสังคม แต่ประกาศชัดว่าไม่ร่วมด้วยและรับไม่ได้กับการทุจริตคอร์รัปชั่นเลย ต้องสร้างระบบการศึกษาและครอบครัวที่เตรียมคนไว้เพื่อชาติ ไม่ใช่เตรียมคนไว้เพื่อครอบครัวเท่านั้น
"การเตรียมคนไว้เพื่อครอบครัวจะทำให้ประเทศตกต่ำลงเรื่อยๆ ต่างทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและครอบครัว แต่หากเตรียมคนไว้เพื่อชาติ ประเทศจะยิ่งใหญ่และมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ประเทศไทยกำลังถูกบิดเบือนว่าการทำเพื่อประเทศชาติ เรียกร้องและขับเคลื่อนเพื่อประเทศชาติ เป็นการคลั่งชาติ แต่สังคมปัจจุบันต้องการการปฏิวัติโดยเยาวชน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่น ควบคู่ไปกับการทำงานของหน่วยงานอื่นๆ"
อดีตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า สังคมไทยต้องแก้ทัศนคติว่าคนที่ทำผิด แม้ทำเพื่อพวกพ้องให้ได้ดำรงตำแหน่งก็เป็นคนทุจริต เป็นสิ่งที่ชั่วร้าย เป็นอาชญากรที่ร้ายแรง ต้องลงโทษอย่างหนัก แต่ปัจจุบันสังคมไทยมีทัศนคติและค่านิยมแบบพวกพ้อง กลายเป็นคนดีของคนกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นคนเลวของสังคม หากความคิดเช่นนี้ยังเปลี่ยนไม่ได้ การปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ทำได้ยาก
"ที่ผ่านมามีหลายคดีที่ ป.ป.ช.เคยลงโทษอย่างหนักแก่บุคคลระดับนายกระทรวง ระดับปลัดที่กระทำผิด แต่สังคมกลับต่อต้าน มีความเข้าใจ มีทัศนคติและให้ความหมายเรื่องการคอร์รัปชั่นที่ต่างกัน ทำให้การดำเนินงานของ ป.ป.ช.เป็นไปอย่างยากลำบาก ความคิดเช่นนี้เป็นสิ่งที่ต้องปรับต้องแก้"
ขณะที่นายประมนต์ กล่าวว่า ขณะนี้สังคมไทยเริ่มตระหนัก และเห็นความสำคัญในกาต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นมากขึ้น หลายฝ่ายลุกขึ้นมาต่อสู้ หวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นสร้างแนวร่วมอื่นๆ ในสังคม เพราะเห็นตรงกันว่าหากจะขับเคลื่อนเรื่องใดๆ ในประเทศไทยให้ประสบความสำเร็จจะต้องเป็นทำทั้งสังคม พูดให้ชัดว่าจะไม่ยอมรับเรื่องคอร์รัปชั่นไม่ว่ารูปแบบใด และไม่ยอมให้คนโกงอยู่ในประเทศ หากเป็นเช่นนั้นได้สังคมจะเปลี่ยนแปลง และผู้บริหารประเทศจะนิ่งเฉยไม่ได้
"ในส่วนช่องทางการเผยแพร่สื่อที่ตัวแทนเยาวชนเสนอว่าจะผลิตเพื่อสื่อสารในวงกว้างนั้น ขอรับเรื่องไปหาช่องทางการเผยแพร่ และพร้อมที่จะสนับสนุนเยาวชนที่มีข้อเสนอและความคิดที่น่าสนใจ"