“สาธิต ” โล่ง “ป.ป.ช.” ยุติสอบ ปมแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ
“สาธิต ปิตุเตชะ” ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ โล่ง “ป.ป.ช.” ยุติสอบ ปมแจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ชี้ไม่พบนัยยะสำคัญให้สอบต่อ เหตุราคาที่ดินแตกต่าง เพราะราคาประเมินเปลี่ยนแปลง - จับตาคดี “เรืองไกร” อดีต ส.ว.สรรหา เข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ผลการพิจารณาคดีกล่าวหา นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายสาธิต ปิตุเตชะ กรณีเข้ารับตำแหน่ง พ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี ในการเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551และกรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ที่ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายสาธิต ปิตุเตชะ แล้ว จากพยานหลักฐานปรากฏข้อเท็จจริงฟังได้ว่า
1. กรณีแสดงมูลค่าที่ดิน โฉนดเลขที่ 89242 แต่ละครั้งไม่เท่ากัน มีสาเหตุจากการประเมินราคาที่ดินของเจ้าพนักงานที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไป
2. กรณีแสดงมูลค่าที่ดิน น.ส.3 ก เลขที่ 3705 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นโฉนดเลขที่ 3167 และแสดงมูลค่าที่ดิน โฉนดเลขที่ 3176 และโฉนดเลขที่ 3493 ตั้งอยู่ในตำบลและอำเภอเดียวกัน กล่าวคือ ตำบลป่ายุบในอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง แต่ละครั้งไม่เท่ากัน เป็นการแสดงรายการทรัพย์สินเดิม ไม่มีนัยสำคัญในการตรวจสอบ ความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สิน
3. กรณีแสดงมูลค่าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 53/7 ถนนวัดมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยองจังหวัดระยอง ปลูกสร้างบนที่ดิน โฉนดเลขที่ 125539 และบ้านพักไม่มีเลขที่ ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง ปลูกสร้างบนที่ดิน โฉนดเลขที่ 3167 แต่ละครั้งไม่เท่ากัน เนื่องจากแสดงมูลค่าลดลงตามค่าเสื่อมสภาพ
4. กรณีแสดงรายการที่ดิน โฉนดเลขที่ 16324 และโฉนดเลขที่ 16321 เป็นการยื่นแสดงรายการทรัพย์สินเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2551 ก่อนคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบและก่อนที่นายสาธิต ปิตุเตชะขอให้ตรวจสอบ
5. กรณีแสดงเนื้อที่ของที่ดิน น.ส.3 ก เลขที่ 3705 ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นโฉนดเลขที่ 3167 แตกต่างกัน เนื่องจากมีการรังวัดที่ดินใหม่ในการเปลี่ยนประเภทเอกสารสิทธิ ไม่มีนัยสำคัญในการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าว ยังฟังไม่ได้ว่า นายสาธิต ปิตุเตชะ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 263 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 34
จึงมีมติให้ยุติเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา หลังถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องสอบในคดีนี้ นายสาธิต ได้ประกาศเอาคืนนายเรืองไกร โดยระบุว่า จะเข้ายื่นหนังสือต่อป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบความผิดปกติในบัญชีทรัพย์สินของนายเรืองไกร ว่าเข้าข่ายร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินในบัญชีทรัพย์สินของนายเรืองไกร พบว่า มีความผิดปกติ เนื่องจากมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่เข้ารับตำแหน่งส.ว.สรรหา จนถึงวันที่ออกจากตำแหน่ง เป็นเวลา 3 ปี ซึ่งน่าสงสัยว่า ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท มีรายได้มาจากส่วนใด ซึ่งนายเรืองไกรจะต้องไปพิสูจน์ที่ป.ป.ช. โดยเฉพาะกรณีทรัพย์สินของบุตรที่ไม่บรรลุนิติภาวะ ที่เดิมมีทรัพย์สินอยู่ประมาณ 1 แสนกว่าบาท แต่ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินตอนพ้นจากตำแหน่งกลับมีเงินและเงินลงทุนในพันธบัตรสูงถึง 3ล้านกว่าบาท
นายสาธิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนรับตำแหน่งนายเรืองไกร ภรรยา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินรวม 120 ล้านบาท แต่หลังออกจากตำแหน่งส.ว.สรรหา มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 154 ล้านบาท หรือเพิ่ม 34 ล้านบาท ภายใน 3ปี ซึ่งในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. นายเรืองไกรได้แจ้งว่า มีรายจ่ายปีละ 6.5 ล้านบาท และมีบัญชีเงินฝากในธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยรัฐสภา 3.3ล้านบาท บัญชีธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จาก 4 แสนบาท เพิ่มขึ้นเป็น 7.6 ล้านบาท บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสาทร จาก 6.2 หมื่น เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพ สาขาสาทร มี 6.7 ล้านบาท มีเงินลงทุนพันธบัตรออมทรัพย์ จาก 33 ล้านบาท เป็น 66 ล้านบาท และมีที่ดิน 1 แปลง และบ้าน 1หลัง ย่านบางซื่อใต้ รวมราคา 14 ล้านบาท ที่ผ่านมานายเรืองไกร มีพฤติกรรมเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงและจัดรายการโทรทัศน์ พร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบพรรคประชาธิปัตย์
นายสาธิต ระบุว่า ดังนั้นจึงถึงเวลาที่นายเรืองไกร ต้องถูกตรวจสอบบ้าง