จับตา บอร์ด กทค.ฟ้อง BFKT ทำผิด กม.โทรคมนาคมหรือไม่
จับตา ! บอร์ด กทค.จะตัดสินใจส่งฟ้อง BFKT ทำผิด กม.โทรคมนาคม หรือไม่-หลังคณะทำงานชงให้ดู "เจตนา" ประกอบ

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (5 เม.ย.2556) จะมีการประชุมกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ที่มี พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ เป็นประธาน โดยวาระสำคัญคือพิจารณารายงานของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของบริษัท บีเอฟเคที (ประเทศไทย) จำกัด หรือ BFKT กรณีการทำสัญญาเกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบใหม่บนคลื่นความถี่ 800 MHz กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT (BFKT ซึ่งเป็นบริษัทในเครือทรู ประกอบกิจการให้ CAT เช่าเครื่องและอุปกรณ์ โดยมีบริษัท เรียลมูฟ จำกัด อีกบริษัทในเครือทรู เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ทรูมูฟ-เอช) หลังจากที่ประชุม กทค.เคยตีกลับรายงานดังกล่าวให้กลับไปศึกษาเพิ่มเติมพร้อมกับให้เลขาธิการ กสทช.ทำความเห็นประกอบ
ซึ่งล่าสุด คณะทำงานได้แก้ไขรายงานเรียบร้อยแล้ว โดยยังยืนยันว่า การดำเนินกิจการ BFKT เข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 BFKT จึงเข้าข่ายความผิดฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต อันถือเป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำคุกและปรับ แต่คณะทำงานเสนอว่า อยากให้ดูเจตนาของ BFKT ด้วย หากไม่พบว่ามีเจตนากระทำผิดกฎหมาย ก็ไม่ควรร้องทุกข์กล่าวโทษ
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนบทวิเคราะห์ของคณะทำงาน กลับระบุถึงความเสี่ยงหากไม่ฟ้อง BFKT ทั้งการถูกดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 หรือการถูกตรวจสอบโดยองค์กรต่างๆ ทั้งวุฒิสภา หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)” รายงานข่าวระบุ
รายงานข่าวจากสำนักงาน กสทช.ยังระบุว่า ในการประชุม กทค.วันที่ 3 เม.ย.2556 สำนักงาน กสทช.ได้เสนอเรื่องการแก้ไขสัญญาระหว่าง BFKT กับ CAT ที่ กทค.มีมติสั่งให้แก้ไขเพื่อไม่ให้ขัดต่อมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553 ตั้งแต่กลางปี 2555 แต่ทาง CAT ได้ขอขยายเวลาหลายครั้ง ก่อนจะแจ้งเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2555 ว่ายังไม่สามารถทำสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมได้ แค่คู่สัญญาได้บรรจุข้อตกลงร่วมกันและลงนามในเอ็มโอยูแล้ว
“แต่จากการตรวจสอบเอ็มโอยูฉบับดังกล่าว พบว่าแนวทางการแก้ไขสัญญายังไม่ชัดเจนว่า CAT จะมีสิทธิในการควบคมสิทธิกรใช้งานเครื่องและอุปกรณ์ของ BFKT อย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่ เพราะตามร่างสัญญายังให้สิทธิกับ BFKT สามารถปฏิบัติงานกับเครื่องและอุปกรณ์ได้ สำนักงาน กสทช.จึงเห็นว่า เงื่อนไขสัญญาดังกล่าวยังไม่ชัดเจนว่าจะสอดคล้องและเป็นไปตามมติของ กทค.” รายงานข่าวระบุ
อ่านประกอบ
