คอลัมน์ ในวงเล็บ : ตัวจริงของนายกฯ สำรอง
(จากซ้าย สมชาย วงศ์สวัสดิ์, ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ - ภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์มติชน)
ความเคลื่อนไหวของพลพรรคเพื่อไทย (พท.) และ ส.ว. สายเลือกตั้ง ในการเสนอ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา” รวม 3 ฉบับ 4 ประเด็น 11 มาตรา เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ถูกมองว่าเป็นการ “เปิดเกมเร็ว” และ “หวังผลแรง” ก่อนปิดสมัยประชุมสภา 18 เม.ย.นี้
ด้วยเพราะไม่มีข่าวกระเซ็นกระสายจาก “พรรค 265 เสียง” ว่าจะมีการสอด-แทรกปมแก้รัฐธรรมนูญเข้ามาอีกระลอก หลังเกิดเหตุ “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง” กับ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291” ตั้งแต่ปีก่อน จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นวาระคาสภา-ไม่อาจเดินหน้าโหวตวาระ 3 ได้
ทว่าลึกๆ แล้ว “หัวขบวนเพื่อไทย” ไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวในทางลับ เนื่องจากมี “คำสั่งทางไกล” ให้ช่วยกันหาทางลง ดูทางเลือกหลายๆ เวอร์ชั่น พร้อมออกล่าหาแนวร่วมรอบใหม่
แต่รูปธรรมเพิ่งปรากฏเค้าลางหลังผ่านปีใหม่ 2556 เมื่อ “แกนนำรัฐบาล” เคลียร์เงื่อนไขกับ “แกนนำส.ว.” ลงตัว
คนสภาสูงได้สิทธิ “ต่ออายุไข” ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ว. ได้อีกสมัย โดยไม่มี “ส.ว. สายลากตั้ง” มาแชร์ที่นั่งในสภา หากมีการแก้ไขที่มา ส.ว. ตามมาตรา 111, 112, 113, 114, 115, 117, 118, 120
คนสภาล่างรอดจากการตกเป็น “จำเลยหมู่” ในคดียุบพรรค หากมีการแก้ไขมาตรา 237 และมาตรา 68 วรรคสี่
และถือโอกาสพ่วงปมการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ตามมาตรา 190 ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าเป็นปัญหา เข้ามาด้วยอีกหนึ่ง
โดยตกลงกันว่าจะให้ ส.ว. เป็นคนออกหน้าเพื่อลดแรงต้านจากขั้วตรงข้าม จึงปรากฏชื่อ “ดิเรก ถึงฝั่ง” ส.ว. นนทบุรี และ “ประสิทธิ์ โพธสุธน” ส.ว. สุพรรณบุรี เป็น “ตัวชงหลัก”
แต่ยังไม่ทันได้ชง “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา” เข้ารัฐสภา ก็มี “เงื่อนไขใหม่” งอกขึ้นมาแบบเงียบๆ หลัง “อดีตนายกรัฐมนตรี 2 คน” เปิดฉากสนทนาแบบ “ทวิภาคี”
ก่อนที่ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” จะนำสารมาสื่อต่อ ว่า "พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร” สไกป์มา “ฝากประเด็นเพิ่มเติม” อันกลายเป็นที่มาในการสอดไส้-แก้ไขมาตรา 68 วรรคสอง เพื่อสกัดบรรดาประชาชน “ผู้ทราบ” ทั้งหลายไปยื่นเรื่อง-ร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ
งานนี้เล่นเอา “ส.ว. ผู้ร่วมก่อการ” ถึงกับอึ้ง “ส.ส. เพื่อไทย” ออกอาการงง แต่ก็ยอมทำตามบัญชาโดยปราศจากเงื่อนไข ปล่อยให้ฝ่ายค้านออกมาช่วยชี้ทางสว่าง-จาระไนแผนการ “คนดูไบ” แทนว่า การรื้อมาตรา 68 หวังผลไกลถึงการโละรัฐธรรมนูญปี 2550 ทั้งฉบับ เพราะถ้าทำสำเร็จ “เพื่อไทย” จะเดินหน้าโหวต “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291” ในวาระ 3 ทันที
ผลจากการ “ละเมิดข้อตกลง” ทำให้ ส.ว.บางส่วนย่องมาถอนชื่อแนบท้ายญัตติ เพราะเกรงรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ไหว ร้อนถึงทีม “โฆษกเพื่อไทย” ต้องตั้งโต๊ะแถลงยืนยันว่าไม่มีประเด็นหมกเม็ด เพราะเกรงเกมแก้รัฐธรรมนูญ จบเห่!
แต่ขณะเดียวกัน “หัวขบวนเพื่อไทย” บางคนกลับออกมาผลิตซ้ำวาทกรรมประชาธิปัตย์ โดยชี้ให้เห็นว่าหัวใจสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้อยู่ที่มาตรา 68 นั่นแล เพราะไปๆ มาๆ “เงื่อนไขงอก” ทำท่าจะกลายเป็นเรื่องลงตัวในหลักการสำหรับ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์" ทำให้สามารถตอบคำถาม “แดงประชาธิปไตย” ได้บางส่วน หลังเสียแนวร่วมไปหลายส่วนจากกรณีปล่อย “แดงนอนคุก”
นอกจาก “คำสั่งทางไกล” จะเป็นตัวแปรสำคัญในการ “เร่งเกม” แก้รัฐธรรมนูญของ “ฝ่ายเพื่อไทย” แล้ว มี “เรื่องในวงเล็บ” เกิดขึ้นในวงหารือเล็กๆ ของ “คนหัวอกเดียวกัน” ที่ติดอยู่ใน “บ้านเลขที่ 109”
เมื่อ “กุนซือนายใหญ่” ผู้ถวิลหาการหวนคืนเก้าอี้รัฐมนตรี ตั้งวงยุ “นายเขย” ให้เปิดเกมแก้รัฐธรรมนูญด่วนจี๋ ลงทุนหยิบยกข่าวจริงข่าวลวง เหตุบ้านการเมือง สถานการณ์โน่นนี่มาบรรยาย-เป่าหู จน “คนฟัง” ซึ่งปกติไม่เคยฟันธงอะไรเริ่มคล้อยตาม และรู้สึกว่าการรออีก 9 เดือนนานเกินไป ทั้งที่คอยมาแล้ว 4 ปี 3 เดือน
ไม่ว่าบังเอิญ หรือจงใจ แต่ “ผู้เห็นเหตุการณ์” เล่าว่าปฏิกิริยาขึงขัง จริงจัง ประกาศให้ “ทำทันที” จาก “นายเขย” เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังมีข่าวเล็ดลอดออกมาทางหน้าสื่อว่า “นายใหญ่” วางตัวน้องเลิฟนาม “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” เป็น “นายกรัฐมนตรีสำรอง” กรณีเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นกับ “น้องปู”
คำบอกเล่าของ “คนตาดี” ทำให้เรื่องนี้ถูกตีความในทางขยายผล นัยว่าได้ออกจาก “บ้านเลขที่ 109” มายืนหายใจโล่งๆ ไว้ก่อนก็ไม่เสียหาย ดีไม่ดีอาจมีฟลุ๊คอีกรอบ ถึงวันนั้นใครจะเป็น “สำรอง 1” ใครจะเป็น “สำรอง 2” ค่อยว่ากัน
เพราะขึ้นชื่อว่า “อำนาจ” ไม่เคยเข้าใครออกใคร ไม่เว้นกระทั่งคนเป็นพี่-น้อง หรือผัว-เมีย!!!
หมายเหตุ - คอลัมน์ "ในวงเล็บ" เป็นพื้นที่รายงานเบื้องลึก-เบื้องหลัง ความเคลื่อนไหวทางการเมืองทีน่่าสนใจ ในช่วงเวลานั้นๆ ไม่ว่าใครติดต่อมีคอนเน็กชั่้นกับใคร ต่อรองผลประโยชน์ในเรื่องอะไร หรือวางแผนทำการใหญ่อะไรลับๆ อยู่ !!!