‘ณัฐวุฒิ’ ตอบกระทู้ ตั้งใจขาดทุน โชว์ระบายข้าวจำนำไปแล้ว 7 ล้านตัน
รมช.พาณิชย์ เปิดตัวเลขมีสต๊อกจำนำข้าว 13 ล้านตัน ระบายจีทูจี ขายให้เอกชนในประเทศ องค์กรต่างๆ รวม 7 ล้านตัน มีเงินเข้ากระเป๋าจากการขายข้าวจำนำ – ข้าวค้างเก่า ทั้งสิ้น 1.2 แสนล้าน ทยอยคืน ธ.ก.ส. เลี่ยงสรุปกำไรขาดทุน อ้างโครงการยังไม่จบสิ้น
วันที่ 21 มีนาคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 24 ปีที่ 2 ครั้งที่ 24 สมัยสามัญนิติบัญญัติ โดยนายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดถึงเรื่องการระบายข้าว ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ปี 2555 ว่า รัฐบาลระบายข้าวออกไปแล้วกี่ตัน รวมเป็นเงินเท่าไหร่ ส่งคืนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงการคลังเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ และขาดทุนจากโครงการนี้ไปแล้วเท่าไหร่ รวมถึงถามหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ปลูกข้าวคุณภาพต่ำ 18 สายพันธุ์
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ตอบกระทู้ ได้ให้ข้อมูลถึงข้าวเก่าในสต๊อกรัฐบาลชุดก่อนอยู่ 2 ล้านตันเศษ ฉะนั้น ก่อนเริ่มต้นโครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงมีภาระในการระบายข้าวค้างเก่าด้วย
ปี 2555 รัฐบาลได้ระบายข้าวเก่า จำนวน 2.195 ล้านตัน ไปจำนวนทั้งสิ้น 1.851 ล้านตัน
ระบายข้าวนาปี ปี 2554/2555 และ 2555/2556 ไปจำนวน 4.034 ล้านตัน (จากจำนวนที่รับจำนำมาทั้งสิ้น 13 ล้านตัน ) สำหรับการระบายข้าว จำนวน 4.034 ล้านตันนั้น ใช้การระบายข้าวด้วยวิธีจีทูจี ขายเป็นการทั่วไปให้ผู้ประกอบการภายในประเทศจำนวน 0.466 ล้านตัน ขายให้กับองค์กรต่างๆ 2.572 ล้านตัน รวมทั้งสิ้นระบายข้าวจากโครงการรับจำนำแล้วประมาณ 7 ล้านตัน จากรับจำนำข้าวมาทั้งหมด 13 ล้านตัน
ส่วนตัวเลขรายรับจากการระบายข้าวในโครงการรับจำนำทั้งหมดในรอบปี 2555 นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตัวเลขอยู่ที่ 66,259 ล้านบาท (ข้าวรอบปี 2555) ซึ่งหากรวมข้าวเก่าที่รัฐบาลได้ระบายไปอีก 18,500 ล้านบาท
สำหรับปี 2556 ตั้งแต่มกราคม ถึงปัจจุบัน มีรายได้จากการระบายข้าวไปแล้วทั้งสิ้น 39,079 ล้านบาท และมีรายได้จากการระบายข้าวค้างเก่าอีก 5,156 ล้านบาท
ดังนั้นตัวเลขการระบายข้าวค้างเก่า และข้าวในโครงการรับจำนำจนถึงปัจจุบัน นับจากเริ่มต้นโครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 120,637 ล้านบาท (แยกเป็นข้าวใหม่ 97,238 ล้านบาท ข้าวเก่า 23,656 ล้านบาท )
ทั้งนี้ ตัวเลขระบายข้าวเก่าจำนวน 23,656 ล้านบาท ไม่สามารถนำมาเป็นเงินหมุนเวียนการบริหารโครงการรับจำนำข้าวได้
รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงการคืนเงิน ธ.ก.ส.ว่า ยังไม่สามารถคืนได้ครบตามรอบทั้ง 9 หมื่นกว่าล้านบาทได้ แต่ได้ทยอยคืนและอยู่ในกรอบวงเงินปัจจุบัน
“รัฐบาลมีความตั้งใจรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร ซึ่งหลักการการดำเนินการเช่นนี้ แทบทั้งสิ้นจะอยู่ในภาวะขาดทุน เพราะเป็นความตั้งใจของรัฐบาลในการช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระเกษตรกร โครงการรับจำนำข้าว เป็นปีที่ 2 หากให้สรุปกำไรขาดทุน ต้องรอให้โครงการเสร็จสิ้นก่อน ขณะนี้เงินกำลังหมุนเวียนอยู่ จึงไม่สามารถสรุปกำไรขาดทุน เป็นตัวเลขตายตัวไม่ได้”นายณัฐวุฒิ กล่าว และเห็นว่า การที่รัฐบาลควักเงินให้เกษตรกรในโครงการรับจำนำข้าว ส่งผลให้เกิดการบริโภคในประเทศ สถิติการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) พบสูงขึ้นกว่าแสนล้านบาท นี่จึงเป็นเงินหมุนกลับเข้ามา เป็นเครื่องมือการบริหารจัดการเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
ส่วนกระทู้ถามถึงข้าวคุณภาพต่ำ 18 สายพันธุ์นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ให้ระงับการจำนำข้าว 18 สายพันธุ์นั้น ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เพราะหากไม่ระงับการรับจำนำพันธุ์ดังกล่าว จะเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกข้าวอายุน้อย คุณภาพต่ำ รับจำนำเข้ามามีปัญหาเก็บรักษา ระบายแล้วราคาตก กระทบข้าวคุณภาพดีซึ่งเป็นปริมาณข้าวส่วนใหญ่ของประเทศ
“แม้ขณะนี้ประกาศออกไปแล้วจะเกิดผลกระทบตามมาบ้าง แต่เชื่อว่า เกษตรกรยังมีเวลาถึงเดือนกันยายน ปรับเปลี่ยนการปลูกข้าว ส่วนเกษตรกรที่เพาะปลูกไปแล้วนั้น รัฐบาลพร้อมหาช่องทางการระบายข้าวคุณภาพต่ำให้ด้วย”
ทั้งนี้ในช่วงท้าย นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงการตรวจสอบการทุจริตระบายข้าว ย้อนหลังไป 3 ปี ซึ่งมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ว่า มีการนำเสนอรายงานแล้วเมื่อวันที่ 18 มีนาคม โดยสัปดาห์หน้าจะมีการแถลงผลการตรวจสอบต่อสาธารณะ