ค่าแรง 300บ.ฆ่าแรงงานตายทางอ้อม เลิกจ้างมากกว่า 2 แสน 13 มี.ค.ประท้วงหน้าสถานฑูต
ครท.จี้ รบ.ยอมรับความจริง กรรมกรถูกเลิกจ้างมากกว่า 2 แสนจากนโยบายปรับค่าแรง 300บ. แรงงานร้องโดนฆ่าตายทางอ้อม สลายสหภาพ-เลิกจ้าง-เพิ่ม ชม.งาน 13มี.ค.กดดันหน้าสถานทูตประเทศนักลงทุน
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยร่วมกับตัวแทนสภาพแรงงาน 4 แห่ง จัดการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาการถูกเลิกจ้างและปรับเปลี่ยนสภาพการจ้างงานจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทในหัวข้อ "300 บาทรัฐจัดให้แต่นายจ้างปล้นคืน" ที่พิพิธภัณฑ์แรงงานไทย
นายไพรวัลย์ เมทา ประธานสหพันธุ์แรงงานบริษัทแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ จ.ระยอง กล่าวว่าบริษัทมีทุนจดทะเบียนถึง 830 ล้านบาท มีพนักงานกว่า 800 คน ตนและพนักงานเก่า 129 รายไม่ได้การรับปรับค่าแรงขั้นต่ำและค่าแรงเท่ากับการบรรจุพนักงานใหม่ ซึ่งผู้บริหารได้เลิกจ้างคนงานเก่าทั้งหมดโดยอ้างว่าเป็นปัญหา โดยบริษัทพยายามที่จะสลายสหภาพแรงงาน นำรปภ. ตำรวจ สภ.อ. บ้านค่าย มาล้อมกรอบเพื่อเลิกจ้าง และรับพนักงานซับคอนแทคมาในไลน์มาแทน 129 คนทันที เมื่อมาปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆจากรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน
นายวินัย จันทร์รักษา ลูกจ้างบริษัทอีกแห่งหนึ่ง กล่าวว่าพนักงานขับรถทำงานไม่มีวันหยุดและไม่ไดรับเงินเพิ่ม ส่งของให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งทั่วประเทศ ทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท คนขับรถต้องขึ้นของลงของเองทั้งหมดห้ามจอดรถหยุดนอน ทำให้คนงานเสียชีวิตหลายรายเพราะหลับในชนท้าย บริษัทไม่เคยแก้ไขปัญหา บริษัทพยายามเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างเรื่องเรตน้ำมันและระยะกิโลเมตรให้การขนส่งทำเวลาเร็วขึ้น และเลิกจ้าง 50 คนที่หยุดพักปั้มเข้าห้องน้ำและทำเวลาไม่ได้ตามระยะทาง
นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย(ครท.) กล่าวว่าหลังจากรัฐบาลปรับค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศโดยรัฐบาลพยายามออกข่าวว่ามีคนงานถูกเลิกจ้างเพียง 2 พันคนซึ่งเป็นผลมาจากต่างประเทศยกเลิกคำสั่งซื้อ โดยไม่ยอมรับปัญหาเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งๆที่เจ้าของบริษัทเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างงานไม่เป็นธรรมบนความเจ็บปวดและคราบน้ำตาของแรงงาน ในหลายสถานประกอบที่ปรับค่าจ้างขั้นต่ำได้ลดเวลาการทำงานลงเพื่อลดภาระค่าจ้าง การปรับวันทำงาน การปรับการเข้าออกงานใหม่ นโยบายนี้ได้ฆ่าผู้ใช้แรงงานให้ตายทั้งเป็น มีทั้งหาเหตุเลิกจ้าง เพิ่มเวลาการทำงานจาก 5 วันเป็น 6 วัน ไม่ปรับค่าแรงเพิ่ม ไม่มีการเพิ่มเงินวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยคนงาน ทำลายล้างองค์กรสหภาพแรงงาน บางแห่งมีการบังคับให้หยุดงาน เนื่องจากลูกจ้างเป็นรายวัน
"รัฐไม่ควรผลักภาระให้ลูกจ้างต่อรองกับนายจ้างตามลำพัง และไม่ควรถูกเลิกจ้าง รัฐไม่ใส่ใจและทำเป็นไม่ได้ยิน บทเรียนที่ผ่านมาปัญหาที่เกิดขึ้นในหลายสถานประกอบการไม่มีการแก้ปัญหาได้จริง ฝ่ายนายจ้าง ก.แรงงาน เพียงแต่เจรจาไกล่เกลี่ยเป็นครั้งๆ สะท้อนว่านโยบายเอื้อเอกชน เราจะยกระดับการต่อสู้ถึงที่สุดโดยวันที่ 13 มี.ค.นี้ จะไปกดดันหน้าสถานทูตบริษัทต่างๆที่มาลงทุนในไทย แต่กลับมากดขี่ขูดรีดคนงานไทย โดยจะไปสถานทูตออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์" ปธ.คกก.สมานฉันท์แรงงานไทย กล่าว
นายยงยุทธ เม่นตะเภา ที่ปรึกษาสหพันธุ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าปัญหาเกิดจากทุนข้ามชาติขนาดใหญ่ไม่สนใจความเป็นอยู่ของพนักงานลูกจ้าง การเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างจะสร้างความเดือดร้อนไปจนถึงบริษัทซับคอนแทกที่อยู่ตามห้องแถว ขณะนี้สถานะลูกจ้างไม่สามารถต่อรองอะไรได้เลยในสังคม แต่รัฐบาลประเทศไทยอ่อนแอเกินไปที่จะใช้กฎหมายให้ถูกต้องและเกรงใจทุนข้ามชาติ .