ข้อสรุปวงปรองดอง "เจริญ" ให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังคดีชุมนุม
วงถกปรองดองสภาฯ ไร้เงา "ปชป.-พธม." ได้ข้อสรุป 4 ข้อ รวมถึงให้ปล่อยตัวผู้ถูกคุมขังในคดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม -ไม่ตอบถอนร่าง กม.ปรองดอง "เจริญ" เตรียมจับเข่าคุย "อภิสิทธิ์" ชวนกลับร่วมวง
(เจริญ จรรย์โกมล - ภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
วงประชุมกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อการปรองดองที่มีนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ 1 เป็นประธาน ในวันที่ 11 มี.ค.2556 ที่รัฐสภา เริ่มต้นขึ้นในเวลา 10.30 น. โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมเพียง 5 กลุ่ม จากที่นายเจริญส่งหนังสือเชิญไปทั้งหมด 11 กลุ่ม โดยผู้เข้าร่วมประกอบด้วย 1.พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดยนายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรีและนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย 2.กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) 3.กลุ่มมัชฌิมา พรรคภูมิใจไทย นำโดยนายเรืองศักดิ์ งามสมภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4.กองทัพ นำโดย พล.ต.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. และ 5.สมาคมผู้ประกอบการสี่แยกราชประสงค์ นำโดย พ.ต.อ.เสรี ไขรัศมี
ส่วนอีก 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 2.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 3.คนเสื้อหลากสี 4.องค์การพิทักษ์สยาม 5.คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และ 6.นางนิชา ธุวธรรม ภรรยาของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม
หลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง เวลา 12.30 น. นายเจริญได้แถลงผลการประชุมว่า 1.อยากให้การปรองดองเกิดขึ้นโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เนื่องจากเป็นภารกิจร่วมกันในการหาทางออกให้กับประเทศ ยืนยันว่าจะไม่มีการเร่งรัดเด็ดขาด 2.มีการหารือกันว่าจะทำอย่างไร ให้ ปชป.และกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าร่วม เพื่อออกแบบทางออกร่วมกัน ซึ่งตนอาสาว่าจะไปเจรจากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า ปชป. และจะพยายามชักชวนแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ให้มาเข้าร่วม 3.ให้มีการปล่อยตัวประชาชนที่ถูกคุมขังระหว่างดำเนินคดีในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม ส่วนวิธีการจะต้องไปหารือกันอีกครั้ง และ 4.กระบวนการที่จะเดินหน้าจะต้องยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
เมื่อถามถึงการถอนร่างกฎหมายปรองดองที่คาอยู่และเสนอใหม่ในสภาเพื่อลดความหวาดระแวงของ ปชป.และกลุ่มพันธมิตรฯ นายเจริญ กล่าวว่า การเสนอร่างกฎหมายเป็นสิทธิของ ส.ส. ส่วนจะถอนหรือไม่ตนจะเชิญหัวหน้า ปชป.และแกนนำคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) มาหารือกันอีกครั้ง เพื่อพูดคุยว่าแต่ละฝ่ายมีเงื่อนไขอะไร และจะยอมรับเงื่อนไขกันได้หรือไม่
ส่วนการดำเนินการให้มีการปล่อยตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมจะมีการแยกแยะหรือไม่ว่าเฉพาะที่ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่รวมถึงคดีอาญาอื่นๆ อาทิ ก่อการร้าย หมิ่นสถาบัน นายเจริญ กล่าวว่า เราจะดูว่าคดีใดที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุม ส่วนข้อกล่าวหาจะถูกตั้งอย่างไรก็ตาม ตามหลักของกฎหมายหากศาลยังไม่ตัดสินให้ถือว่ายังบริสุทธิ์อยู่ ส่วนจะใช้วิธีการใดในการปล่อยตัว หากเป็นเรื่องหลักทรัพย์มีกองทุนของกระทรวงยุติธรรมอยู่ ส่วน ส.ส.พท.จะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ไปร่วมประกันหรือไม่ เป็นสิทธิของ ส.ส.แต่ละคน ทั้งนี้ การจะปล่อยตัวผู้ใดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล
"ผมอยากให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมวงหารือนี้ เพราะแม้แต่ตัวแทนกองทัพก็ยังอยากให้เกิดความปรองดอง บ้านเมืองจะได้สงบสุข แต่วิธีการคงต้องให้ฝ่ายการเมืองไปเจรจา เพื่อมาออกแบบทางออกของประเทศร่วมกัน" นายเจริญกล่าว
ด้านนายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พท.ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันว่า หากร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่ ส.ส.พท.จำนวน 42 คนเข้าเสนอถูกบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ จะไม่มีการลงมติเพื่อเลื่อนวาระมาพิจารณาก่อน หากใครคิดจะหักดิบเสนอให้เลื่อนก็คงจะต้องหน้าแตก เพราะวิปรัฐบาลยังไม่ได้หารือกันถึงเรื่องนี้ ดังนั้นถึงเสนอมาก็ไม่มี ส.ส.รัฐบาลคนใด โหวตเห็นชอบด้วยอย่างแน่นอน
"เสนอไปก็ไปต่อท้ายร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับที่คาอยู่ก่อนหน้านี้ จะไม่มีการเลื่อนมาพิจารณาก่อนอย่างเด็ดขาด" นายชวลิตกล่าว