ศาลปค.ระยอง พิพากษา บริษัท กัลฟ์ฯ ยังไม่ต้องรื้อถอนอาคารโรงไฟฟ้า
ศาลปกครองระยอง ยึดหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี พิพากษาให้บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอ็นเค ยังไม่ต้องรื้อถอนอาคารโรงไฟฟ้า แต่ให้เร่งขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามที่พ.ร.บ.โรงงาน 2535 ให้ถูกต้อง ภายใน 30 วัน
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ศาลปกครองระยอง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำพิพากษาในคดีที่ นางมหาธยา ศรอากาศ กับพวกรวม 3 คน (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้อง อบต.คลองนครเนื่องเขต กรมโรงงานอุตสาหกรรม ผวจ.ฉะเชิงเทรา และนายก อบต.คลองเนื่องเขต (ผู้ถูกฟ้องคดี) ต่อศาลปกครองระยอง เพื่อขอให้ศาลฯเพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้าของบริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอ็นเค จำกัด และให้บริษัทฯ รื้อถอนอาคารดังกล่าว เพราะเห็นว่า การประกอบกิจการโรงไฟฟ้าของบริษัทฯก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
ทั้งนี้ ศาลปกครองระยอง มีคำพิพากษาสรุปได้ดังนี้
กรณีขอให้เพิกถอนใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้า ศาลปกครองระยองพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้บริษัท กัลฟ์ฯ ได้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารโดยใช้วิธีการแจ้งตามมาตรา 39 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้แจ้งได้ยื่นเอกสารและข้อมูลต่างๆ ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด การที่นายก อบต.คลองนครเนื่องเขตในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ได้ออกใบรับแจ้งให้ก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้า จึงเป็นการออกใบรับแจ้งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ส่วนคำขอให้ศาลฯสั่งให้รื้อถอนอาคารโรงไฟฟ้านั้น ศาลปกครองระยองพิจารณาเห็นว่า การก่อสร้างอาคารโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นกรณีที่มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีการเกี่ยวกับการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามที่พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 บัญญัติไว้เท่านั้น และเป็นกรณีที่แก้ไขได้โดยให้มีการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานให้ถูกต้องก่อน
ดังนั้น การที่จะสั่งให้นายก อบต.คลองนครเนื่องเขต ดำเนินการกับอาคารโรงไฟฟ้าตาม ม.40 - ม.43 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยทันทีทั้งๆ ที่ยังเป็นกรณีที่แก้ไขได้จึงไม่เป็นไปตามหลักในการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี
ศาลปกครองระยองจึงมีคำพิพากษาให้ นายก อบต.คลองนครเนื่องเขต แจ้งให้บริษัทกัลฟ์ฯ ไปดำเนินการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงานภายใน 30 วัน หลังจากนั้นหากบริษัท กัลฟ์ฯ ไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าวก็ให้ นายก อบต.คลองนครเนื่องเขตดำเนินการตามกฎหมายควบคุมอาคารฯ ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด