เครือข่ายเขาบรรทัดหนุนม็อบบ่อแก้ว ชี้คนจนพร้อมทวงสิทธิยุิติธรรมที่ีดิน
เครือข่ายที่ดินฯเขาบรรทัด หนุนม็อบชาวบ้านบ่อแก้วจี้ อ.อ.ป.ยกเลิกสวนป่าคอนสาร-ทวงสิทธิ์ใช้ไฟฟ้า ขู่คนจนที่ได้รับอยุติธรรมที่ดินทั่ว ปท.พร้อมลุกฮือ
วันที่ 13 ก.พ.56 เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด (คปบ.) จ.สุราษฎร์ธานี ออกแถลงการณ์สนับสนุนการชุมนุมของชาวชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อเรียกร้องสิทธิพื้นฐานการใช้ไฟฟ้าในชุมชน และให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร
สืบเนื่องจากการชุมนุมเคลื่อนไหวของชาวบ้านชุมชนบ่อแก้วเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 56 ยืดเยื้อเป็นวันที่ 3 บริเวณที่ว่าการอำเภอคอนสาร โดยได้ออกแถลงการณ์ ‘บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ เป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ’ เรียกร้องให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ยุติการสั่งรื้อถอนไฟฟ้า ซึ่งติดตั้งในชุมชนพื้นที่พิพาทกรณีสวนป่าคอนสาร โดยอ.อ.ป.ได้ทำหนังสือไปถึงผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาย่อยคอนสาร ขอให้รื้อถอนระบบไฟฟ้าในชุมชนบ่อแก้ว รวมทั้งยังได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรคอนสาร เมื่อวันที่ 5 ก.พ.56 เพื่อกดดันชาวบ้าน
นอกจากนี้ชาวบ้านยังเรียกร้องให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร 4,401 ไร่ ตามมติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และประชาคมตำบลทุ่งพระ ที่ว่า “สวนป่าคอนสารได้ปลูกสร้างทับที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยของราษฎรจริง ให้ยกเลิกแล้วนำที่ดินมาจัดสรรให้ราษฎรผู้เดือดร้อน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
ขณะที่เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่าชาวบ้านในเครือข่ายฯก็ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน โดยโดนละเมิดสิทธิชุมชนจากการประกาศพื้นที่ป่าสงวนฯและอุึทยานฯทับที่ทำกินเดิมของชาวบ้าน และยังโดนฟ้องร้องเรียกค่าปรับในคดีทำให้โลกร้อนอย่างไม่ยุติธรรม ดังนั้นเครือข่ายฯจึงขอร่วมสนับสนุนการชุมนุมและข้อเรียกร้องของชาวบ้านบ่อแก้ว โดยเรียกร้องให้นายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจตามกฎหมายสั่งยุติการดำเนินคดีหรือรื้อถอนเสาไฟฟ้า สายไฟ และมิเตอร์ไฟ รวมถึงให้มีการชดใช้ค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจจากการโดนขับไล่ออกจากพื้นที่ตลอด 35 ปีที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่าหากทาง อ.อ.ป.ยังไม่คืนผืนดินให้กับชาวชุมชนบ่อแก้ว จะมีการรวมตัวของคนจนไร้ที่ดินจากทั่วประเทศมาร่วมชุมนุมด้วย .
..............................
ล้อมกรอบ
แถลงการณ์ชุมชนบ่อแก้ว
บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ เป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ
นับเป็นเวลากว่า 35 ปี ที่พวกเราชาวชุมชนบ่อแก้วและผู้เดือดร้อนกรณีสวนป่าคอนสารทับที่ดินทำกิน ต้องประสบชะตากรรมจากการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิ์ของ “องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้” พวกเขาเหล่านั้นได้ “ขับไล่” พวกเราออกจากที่ดินพวกเรา ใครไม่ออกถูกจับกุมดำเนินคดี ข่มขู่ คุกคามสารพัดชนิด “นั่นคือภาพเหตุการณ์เมื่อ 35 ปี ที่ผ่านมา”
วันนี้ พวกเราชาวชุมชนบ่อแก้วได้ปักหลักทำกินในพื้นที่ดินเดิมเพียงบางส่วนจากจำนวนทั้งหมด 4,401 ไร่
ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่พวกเราเข้าไปในที่ดินเดิม เหตุการณ์ในอดีตได้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง นับตั้งแต่วันแรก กระทั่งปัจจุบัน
ล่าสุด พวกเราได้ขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาย่อยอำเภอคอนสารได้อนุมัติและดำเนินการติดตั้งแล้ว ต่อมา อ.อ.ป.ได้ร้องเรียนให้ถอนมิเตอร์และแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ
การกระทำดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงบริการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ โดยไม่จำแนกว่าเขาเหล่านั้นจะนับถือศาสนาใด มีทรัพย์สินเงินทองมากน้อยแค่ไหน และอยู่ในพื้นที่ประเภทใด นี่คือหลักสากลด้านสิทธิมนุษยชนที่สังคมอารยะให้การรับรอง
แต่ทำไมชุมชนบ่อแก้วถึงได้รับการปฏิบัติที่ตรงกันข้าม ในขณะที่อีกฟากฝั่งหนึ่งของพื้นที่พิพาทสวนป่าคอนสารกลับมีถาวรวัตถุ น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนคอนกรีต และเครื่องอำนวยความสะดวกสารพัด เรามีคำถามสำคัญคือ
1.) คุณเอามาตรฐานอะไรมาปฏิบัติใช้กับกลุ่มคน 2 จำพวกนี้
2.) คุณอ้างกฎหมายได้แต่กับคนยากคนจนกระนั้นหรือ กับคนบางจำพวก คุณบอกว่ามีอำนาจพิเศษ
3.) ใครบุกรุกใครกันแน่ ระหว่างชาวบ้านกับ อ.อ.ป. หากชาวบ้านบุกรุกจริง ตอบมาซิว่า ปี พ.ศ. 2521 คุณได้ขับไล่เขาออกจากพื้นที่หรือไม่ บ้านสวนป่าหมู่ที่ 8 เกิดขึ้นได้อย่างไร
4.) กลุ่มคนบางจำพวก คุณบอกว่าชุมชนให้การรับรอง ถึงใช้ไฟฟ้าได้ แต่กรณีปัญหาสวนป่าคอนสาร คณะทำงานระดับพื้นที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประชาคมตำบลทุ่งพระ มีมติว่า “สวนป่าคอนสารได้ปลูกสร้างทับที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยของราษฎรจริง ให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร แล้วนำที่ดินมาจัดสรรให้กับราษฎรผู้เดือดร้อน” ทำไมคุณไม่ทำตามมติ คุณปล่อยให้เวลาเนิ่นนานมาตั้ง 8 ปีได้อย่างไร
วันนี้ เราถึงต้องมาชุมนุมที่หน้าที่ว่าการอำเภอคอนสาร เพื่อที่จะบอกว่า
1.) เรามีสิทธิได้รับการบริการขั้นพื้นฐานจากรัฐทุกชนิด เช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคน
2.) เรายืนยันให้ยกเลิกสวนป่าคอนสารทั้ง 4,401 ไร่ โดยเด็ดขาด ตามมติที่กล่าวแล้วข้างต้น
3.) เราสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ จากการขับไล่พวกเราออกจากที่ดินทำกินมากว่า 35 ปี องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องชดใช้ให้กับพวกเรา
ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องชาวคอนสาร และผู้รักความเป็นธรรมทุกท่าน จะมาร่วมกันขับไล่โจรปล้นแผ่นดินของพวกเราออกจากพื้นที่คอนสารร่วมกัน
แถลงการณ์เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด
หยุด..! ใช้กฎหมายเฉพาะตน ละเมิดสิทธิชุมชน-ความเป็นมนุษย์
พวกเราเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เป็นเครือข่ายองค์กรชุมชนที่มีรากฐานการก่อเกิดเป็นชุมชนมาร่วมร้อยๆปี ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายทิศทางการพัฒนาตามกระแสทุนนิยมเสรีไล่ล่าผูกขาดการจัดการทรัพยากร เพื่อสนองการผูกขาดอำนาจเศรษฐกิจ โดยใช้กฎหมาย พ.ร.บ. ป่าไม้ 2484 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 และพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองพันธ์สัตว์ป่าฯ 2535 เป็นเครื่องมือมาปฏิบัติประกาศทับแย่งยึดพื้นที่ชุมชน และใช้อำนาจ ข่มขู่คุกคามจับกุมดำเนินคดี มาอย่างยาวนาน จวบจนปีพ.ศ. 2548 ได้เพิ่มการฟ้องร้องเรียกค่าเสียทางแพ่งในคดี “โลกร้อน” คนละหลายล้าน และใช้อำนาจตามกฎหมายอุทยานฯ ซึ่งเป็นกฎหมายใช้อำนาจเฉพาะของตนมาตรา 22 มารื้อถอนตัดฟันทำลายพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกร อย่างลุแก่อำนาจ สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้าจากข่าวคราวที่เราท่านต่างทราบดีอยู่แล้ว
ชุมชนบ่อแก้ว อ.คอนสาน จ. ชัยภูมิ ซึ่งก็ประสบชะตากรรมเยี่ยงเดียวกับพวกเรา นับเป็นเวลาไม่ต่ำ 35 ปี ที่ถูกนโยบายทิศทางการพัฒนาตามกระแสทุนนิยมเสรี ใช้เครื่องมือกฎหมายป่าสงวนมาประกาศแย่งยึดพื้นที่ดินชุมชนบ่อแก้ว แล้วเปิดสัมปทานป่า แล้วใช้เครื่องมือกฎหมาย พ.ร.บ. สวนป่าแล้วอนุญาตให้ ออป. ปลูกป่ายูคาเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว สนองกลุ่มทุนอุตสาหกรรม แล้วใช้มาตรการข่มขู่คุกคามจับกุมอย่างลุแก่อำนาจ และล่าสุดทาง ออป.ถึงกับร้องเรียน ให้ถอนเสาไฟ,สายไฟและมิเตอร์ไฟฟ้ารวมทั้งแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาบุกรุกติดตั้งเสาไฟ สายไฟและมิเตอร์ ทั้งๆที่ชุมชนได้รับอนุญาตจากการไฟฟ้าและคณะทำงานระดับพื้นที่ คณะกรรมการสิทธิ์ฯ ประชาคมตำบลทุ่งพระ ต่างมีมติว่า “สวนป่าคอนสารได้ปลูกสร้างทับที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของราษฎร์จริง ให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร แล้วนำที่ดินมาจัดสรรให้ราษฎร์ผู้เดือดร้อน”
ฉะนั้นทางเราเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัดจึงขอสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ของชุมชนบ่อแก้ว อ. คอนสาร จ. ชัยภูมิ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) อย่างถึงที่สุด รวมทั้งให้ทางนายอำเภอคอนสาร ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ปฏิบัติการโดยใช้อำนาจบริหารราชการแผ่นดินตามอำนาจที่ตนมี หรือประสานมายังรัฐบาลหรือให้รัฐบาลสั่งการไปยังป่าไม้และออป.และดำเนินการดังนี้
1.ให้ยุติการใช้อำนาจตามกฎหมายเฉพาะ ให้นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ใช้อำนาจพ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินในการปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญหรือประสานไปยังรัฐบาลให้ สั่งการให้ยุติการข่มขู่คุกคามแจ้งความจับกุมดำเนินคดีหรือรื้อถอนเสาไฟ สายไฟ มิเตอร์ไฟ กับเกษตรกรชุมชนบ่อแก้ว ทันที
2.ให้ทางอำเภอจังหวัดและรัฐบาลใช้นโยบายและอำนาจบริหารชดใช้ค่าเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ จากการขับไล่ชุมชนบ่อแก้วออกจากพื้นที่ดินทำกินมากว่า 35 ปี ทันที
3.ให้รัฐบาลใช้นโยบาย ข้อ 5.1 และข้อ 5.4 ที่ได้แถลงไว้ในสภาฯ ยกเลิกสวนป่าคอนสารทั้ง 4,401ไร่ แล้วนำนโยบายสู่การปฏิบัติโดยทันที เพื่อสร้างความสงบสุขและความเป็นธรรมในสังคม
ทั้งนี้เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด ขอประกาศว่า “เราจะประสานงาน ติดตาม และร่วมปฏิบัติการในฐานะพี่น้องร่วมชะตากรรม เพื่อให้การปฏิรูปที่ดินนำไปสู่ การเกิดสิทธิชุมชน ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 66,67 และการกระจายอำนาจเกิดขึ้นจริงในสังคม เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมและอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย อย่างแท้จริง” .