เครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าวพบผู้ตรวจการฯ ทวงผลร้องเรียนจำนำข้าว
เครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าวพบผู้ตรวจการทวงผลร้องเรียนจำนำข้าว หลังยื่นหนังสือครบ 3 เดือน ขอ รบ.ห่วงความเสียหายประเทศ ปรับราคา-ปริมาณซื้อข้าว เน้นพัฒนายั่งยืน
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ เครือข่ายหยุดผูกขาดตลาดข้าว นำโดย นายวรา จันทร์มณี และกลุ่มเครือข่ายเข้ายื่นหนังสือกับผู้ตรวจการแผ่นดินให้ติดตามโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล โดยมี นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการ สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับหนังสือ ซึ่งการยื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อติดตามทวงถามการทำงานภายหลังที่ได้เข้ายื่นหนังสือกับผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2555 และขณะนี้ครบกำหนดเวลา 3 เดือน อีกทั้ง มีเจตนาให้สังคมตื่นตัวและตระหนักในปัญหาของนโยบายดังกล่าวร่วมกัน
นายวรา กล่าวถึงกรณีที่ยื่นร้องเรียนมาแล้วว่า เพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบการทุจริต และดำเนินโครงการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 43 สิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ หรือประกอบกิจการและการแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม และมาตรา 84 (1) แนวนโยบายพื้นฐานด้านเศรษฐกิจแห่งรัฐ ที่ต้องสนับสนุนระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมและเป็นธรรมโดยอาศัยกลไกตลาด ซึ่งทางเครือข่ายฯ เห็นว่า ไม่ว่ารัฐบาลหรือหน่วยงานใดๆ ภายใต้นโยบายรัฐบาลไม่สามารถกระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญได้
ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ขอร้องเรียนให้รัฐบาลปัจจุบันหรือรัฐบาลใดก็ตามในอนาคต กำหนดนโยบายหรือโครงการอย่างรับผิดชอบต่ออนาคต โดยต้องทำการศึกษาวิจัยอย่างรอบคอบก่อนกำหนดนโยบายหรือโครงการใดๆ และขอให้คำนึงถึงความเสียหายของประเทศมากกว่ามุ่งแต่แข่งขันกันสร้างนโยบายประชานิยม พาประชาชนตกสู่ "หุบเหวโมหาคติทางการเมือง" แบบกู่ไม่กลับ
นายวรา กล่าวต่อว่า ไม่ปฏิเสธว่าโครงการรับจำนำข้าวช่วยเหลือชาวนา แต่ต้องช่วยให้สมเหตุสมผล ในฐานะภาคประชาชนขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีโยนิโสมนสิการ พิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องของโครงการ และปรับราคาซื้อที่ไม่ผูกขาดตลาด เน้นช่วยเหลือชาวนารายย่อยมากกว่ารายใหญ่ โดยการจำกัดปริมาณและมูลค่าการรับซื้อต่อครัวเรือน รวมทั้งเสริมให้ชาวนาลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ พิจารณาจัดทำเขตคุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรมและเร่งเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การชลประทาน ระบบขนส่ง การพัฒนาโรงสี การประกันความเสี่ยงสินค้า การประกันภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ รวมทั้งพัฒนาตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
ขณะที่นายรักษเกชา กล่าวว่า การติดตามข้อร้องเรียนต่อปัญหาในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ขณะนี้อยู่ในช่วงพิจารณา เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวเป็นมติจากคณะรัฐมนตรี และมีประเด็นที่ต้องพิจารณาหลายประเด็นที่ต้องพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับมาตรา 43 และมาตรา 84 (1) ตามรัฐธรรมนูญอย่างที่ร้องเรียนหรือไม่ จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณาข้อร้องเรียนอย่างถี่ถ้วน แต่ทางผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหานี้ อีกทั้งยังเห็นว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่และกระทบต่อสังคมในวงกว้างเช่นกัน