ทุนรุกซื้อพื้นที่สีเขียวเมืองชลฯ 6 พันไร่ เล็งสร้างนิคมอุตฯ ฉวยจังหวะโยธาฯชะลอผังเมือง
เครือข่ายเพื่อนตวอ.ยื่นนายกฯ หยุดรื้อผังเมืองชลฯ-เร่งประกาศใช้ เผยทุนอาศัยช่องว่างรุกซื้อที่สีเขียวเตรียมสร้างนิคมอุตฯปี 56 เกือบ 6 พันไร่ กระทบชุมชน – สิ่งแวดล้อม
วันที่ 1 ก.พ. 56 ที่ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายเพื่อนตะวันออกวาระเปลี่ยนตะวันออก ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวมจังหวัดชลบุรีโดยเร็วที่สุด สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 55 เครือข่ายฯได้เดินทางมาเร่งรัดให้มีการประกาศใช้ผังเมืองใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และนครนายกแล้ว แต่จนบัดนี้พบว่าในภาคตะวันออกมีเพียงจ.นครนายกและจ.ปราจีนบุรีเท่านั้นที่มีการประกาศใช้ผังเมือง โดยล่าสุด จ.ชลบุรียังเป็น 1 ใน 9 จังหวัดที่ถูกทบทวนร่างผังเมืองรวมจังหวัดใหม่พร้อมกับอีก 8 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ชัยนาท ตาก ปัตตานี ศรีสะเกษ สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี
ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการอิสระด้านผังเมือง ผู้ประสานงานเครือข่ายเพื่อนตะวันออกฯ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการผังเมืองของจังหวัดชลบุรีได้มีมติขอถอนร่างผังเมืองรวมจ.ชลบุรีซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนที่ 20 กว่า จาก 24 ขั้นตอนของการประกาศใช้มาปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1 ซึ่งที่ประชุมบอร์ดผังเมืองใหญ่ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้อนุมัติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 55 โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อให้ความเห็นชอบ
โดยอ้างเหตุผลทบทวนผังเมืองรวมจ.ชลบุรีว่าไม่สอดคล้องสภาพพื้นที่ปัจจุบัน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาจังหวัด ทั้งการวางผังการใช้ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพชุมชนที่ยกระดับเป็นเทศบาล การต้องเพิ่มมาตรการรักษาสภาพแวดล้อมป้องกันปัญหาอุทกภัย โดยกำหนดให้มีพื้นที่โล่งและแหล่งน้ำเพื่อรองรับการจ้างงานและย้ายฐานที่อาศัยของผู้ประกอบการและแรงงานที่เข้ามาในจังหวัดมากขึ้นหลังน้ำท่วม ใหญ่ปลายปี 2554 โดยจะทำให้จังหวัดชลบุรีในอนาคตสามารถเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
ดร.สมนึก กล่าวว่าความล่าช้าของการประกาศใช้ผังเมืองรวม ก่อให้เกิดการอาศัยช่องว่างกฎหมายรุกพื้นที่เกษตรกรรมและชุมชน เช่น มีการกว้านซื้อที่ดินแปลงขนาดใหญ่ เพื่อยื่นขอจัดตั้งนิคมอุสาหกรรม ท่าเรือ และโรงงานในพื้นที่เกษตรกรรม ซึ่งจากการตรวจสอบตัวเลขเบื้องต้นจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)พบว่าในปี 2556 จ.ชลบุรี จะมีนิคมอุตสาหกรรมที่จะสร้างและขยายเพิ่มอีกหลายแห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมซีพี 3,115 ไร่ นิคมฯชัยโย 1,907 ไร่ นิคมฯเหมราชโครงการ2 637 ไร่ นิคมฯปิ่นทอง3ขยายเพิ่ม 62 ไร่ นิคมฯอีสเทิร์นซีบอร์ดขยายเพิ่ม 62 ไร่ รวมแล้ว 5,783 ไร่ นอกจากนี้ยังมีการขยายพื้นที่เพิ่มของนิคมฯเหมราชชลบุรี และนิคมฯปิ่นทอง4และ5 ซึ่งยังไม่ทราบตัวเลขจำนวนไร่ด้วย โดยมีกระแสข่าวว่าในอนาคตจะมีการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพิ่มอีกหลายหมื่นไร่ใน จ.ชลบุรี
“ถ้าผังเมืองรวมจังหวัดยังไม่ประกาศใช้ ในปี 56จะมีนิคมอุตสาหกรรมซึ่งไปกว้านซื้อพื้นที่สีเขียวไว้มากและรอการประกาศกนอ.ให้กลายเป็นเขตอุตสาหกรรม ซึ่งถ้าประกาศกนอ.ออกก่อนประกาศผังเมือง นิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ก็จะสร้างและขยายเพิ่มได้เลย แล้วพื้นที่สีเขียวทั้งหมดจะกลายเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการขยายพื้นที่อุตสาหกรรมระหว่างที่ยังไม่มีการประกาศใช้ผังเมืองรวมจังหวัดคือ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ซึ่งจากปี 2553 มีพื้นที่อยู่ 500 ไร่ ผ่านมาเพียง 2 ปี ในปี 2555 ขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 22,383 ไร่ โดยร้อยละ 83 ของที่ดินเป็นชาวต่างชาติที่ถือโฉนด
ถ้านิคมอุตสาหกรรมขยายตัวมากกว่านี้ ชลบุรีจะเป็นสังคมเกษตรกรรมได้หรือไม่ รายได้เศรษฐกิจชุมชนจะอยู่ที่ไหน สิ่งแวดล้อม อากาศ ทะเลแม่น้ำจะมีปัญหามลพิษ ประชาชนจะอยู่อย่างไร” ดร.สมนึกกล่าว
นักวิชาการด้านผังเมืองกล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงต้องการเรียกร้องให้มีการเร่งรัดประกาศใช้ผังเมืองรวมจ.ชลบุรีไปก่อนแล้วจึงแก้ไขภายหลัง โดยจะต้องมีตัวแทนภาคประชาชนในจังหวัดเข้ามาร่วมกันแก้ไขเพื่อดำรงไว้ซึ่งสิทธิทางชุมชนตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ดังนั้นขั้นตอนจึงจะต้องไม่นำเรื่องการขอทบทวนผังฯเสนอต่อครม. เพราะจะหมายถึงการกลับไปสู่ที่ 1 ของการทำผังเมืองรวมจังหวัดใหม่ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยอีกหลายปีจึงจะดำเนินการเสร็จถึงขั้นตอนที่ 24 เพื่อการประกาศบังคับใช้ หากภายใน 7 วัน หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆที่เป็นรูปธรรมและเป็นไปตามข้อเรียกร้องข้างต้น เครือข่ายฯ รวมถึงภาคีเครือข่ายอีก ๗ จังหวัดในภาคตะวันออกจะมีมาตรการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นในขั้นต่อไป ทั้งนี้จะนำหนังสือเรียกร้องดังกล่าวไปยื่นแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพันธุ์ศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือโดยรับปากจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :::
'นักวิชาการแนะเร่งทำผังชุมชน หวั่นผังเมือง จว.ล้อผัง ปท.2006 เอื้อพื้นที่สีม่วง' http://bit.ly/Xc2uX4
'ชี้โยธาฯถ่วงผังเมืองโคราช-ชลฯ+8จว.เอื้อทุนการเมือง-อุตสาหกรรม' http://bit.ly/WjadWI
ภาพประกอบข่าว :::