จับตาเลือกรองเลขาฯสปสช.แฝงใบสั่งการเมือง – ‘หมอวินัย’ปัดไม่มีผู้บริหารประท้วงลาออก
กลุ่มคนรักหลักประกันฯ วอนสปสช. เลือกรองเลขาฯไร้ใบสั่งการเมือง-ห่วงกอบโกยผลประโยชน์ ‘หมอวินัย’แจงรอกกต.ตรวจคุณสมบัติ ชี้ขั้นตอนโปร่งใส ปัดไม่มีผู้บริหารประท้วงยื่นใบลาออก
วันที่ 31 ม.ค. 56 ที่สำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพและเครือข่ายราว 30 คน แต่งกายด้วยชุดดำเข้าพบนพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสปสช.เพื่อหารือเรื่องการคัดเลือกรองเลขาธิการสปสช. เพิ่ม 2 ตำแหน่ง(ปัจจุบันมี 3 ตำแหน่ง) ซึ่งมีการเลื่อนการประกาศผลคัดเลือกจากวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาออกไป จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถคัดเลือกได้ โดยมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการแทรกแซงทางการเมือง
ภายหลังการหารือร่วมนางสาวสุภัทรา นาคะผิว โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ แถลงว่า กลุ่มฯมาให้กำลังใจนพ.วินัย ในฐานะคณะกรรมการผู้มีหน้าที่โดยตรงในการคัดเลือกรองเลขาฯใหม่ 2 ตำแหน่ง โดยมีความกังวลว่าการที่สปสช.เปิดโอกาสให้คนภายนอกสมัครในตำแหน่งดังกล่าวด้วยจะเป็นการเปิดช่องโหว่ให้ภาคการเมืองเข้ามาแทรกแซง
อย่างไรก็ดีหวังว่าจะได้เห็นการตัดสินใจของคณะกรรมการเป็นไปด้วยความโปร่งใส มีธรรมมาภิบาล และปราศจากการใบสั่งทางการเมือง โดยสามารถเลือกคนที่มีความเหมาะสม มีความรู้ความเข้าใจในระบบหลักประกันสุขภาพของชาติอย่างแท้จริงมาดำรงตำแหน่งสำคัญเช่นนี้ได้ เนื่องจากประชาชนไม่ได้ต้องการเพียงคนที่จะเข้ามาบริหารองค์กรและตักตวงผลประโยชน์ แต่ต้องการคนที่จะมารับผิดชอบและขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพของชาติให้มีความยั่งยืน
ด้านเลขาธิการสปสช.กล่าวว่า การคัดเลือกรองเลขาฯเป็นหน้าที่ของสปสช.โดยตรง โดยมีคณะกรรมการร่วมตัดสินซึ่งตนไม่ได้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ดีเหตุที่ขณะนี้ยังไม่สามารถคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำลังตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร เพราะตามระเบียบการคัดเลือกของสปสช. ผู้ที่จะเข้ามาทำงานจะต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งเป็นการตรวจสอบที่ค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลา
เมื่อถามว่าหากฝ่ายการเมืองต้องการเข้ามาแทรกแซงโดยลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคก่อนการสมัครเพียงไม่นานนั้นจะถือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองได้หรือไม่ นพ.วินัยตอบว่า โดยหลักการถือว่าไม่มีความเกี่ยวข้องทางนิตินัย แต่ความเกี่ยวข้องทางใจก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจรู้ได้ อย่างไรก็ดีสปสช.ไม่มีบรรทัดฐานว่าจะต้องเลือกรองเลขาฯที่เป็นคนในของสปสช.เท่านั้น และการที่สปสช.ไม่ปิดกั้นคนภายนอกเพราะเจ้าหน้าที่หลายคนที่เคยรับเข้ามาทำงานก็มาจากภายนอกซึ่งล้วนเป็นบุคคลที่มีความสามารถเช่นกัน ฉะนั้นต่อกรณีดังกล่าวคณะกรรมการจะใช้ดุลยพินิจเลือกคนที่มีความเหมาะสม มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์เป็นที่ตั้งด้วยความโปร่งใส โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ระบบหลักประกันสุขภาพจะได้รับเป็นสำคัญ
ต่อกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้อำนวยการ สปสช.เขตและผู้บริหารกว่า 10 คน จาก เขตภาคอีสานและภาคกลาง เตรียมเขียนใบลาออกเพื่อปกป้องระบบธรรมาภิบาลเนื่องจากเกรงการแทรกแซงทางการเมืองภายในองค์กรนั้น นพ.วินัยกล่าวว่า ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใบลาออกจากใครส่งมา ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ อย่างไรก็ดีถ้าผู้บริหารไม่พอใจก็ไม่จำเป็นต้องส่งสัญญาณเช่นนั้น เพราะสามารถเข้ามาพูดคุยแสดงความคิดเห็นกับตนได้ทุกครั้งที่มีการประชุม
ขณะที่น.ส.สุภัทรา กล่าวเพิ่มเติมว่า หากที่สุดแล้วผลการคัดเลือกออกมาในลักษณะที่เห็นได้ว่ามีการแทรกแซงทางการเมืองนั้น ก็จะมีการเคลื่อนไหวและจับตามองเป็นพิเศษต่อไป เนื่องจากไม่สามารถยอมรับได้หากจะให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาทำลายระบบหลักประกันสุขภาพ เพราะหน้าที่ที่รองเลขาฯคนใหม่จะต้องเข้ามารับผิดชอบเกี่ยวข้องกับการเงินและการคลังของสปสช.โดยตรงด้วย
“ต่อให้ใครเข้ามารับตำแหน่ง เราก็จะจับตาดูอยู่แล้ว แต่หากเป็นคนที่มาจากฝ่ายการเมืองอาจต้องเพิ่มความเข้มข้นในการจับตามากขึ้น ว่าจะมีการตัดสินใจเรื่องค่าใช้จ่าย งบประมาณต่างๆอย่างไร ไม่ใช่เพียงการเอางบฯพัฒนาไปลงที่โรงพยาบาลหรือแพทย์เป็นส่วนใหญ่ แต่ต้องสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในส่งเสริมสุขภาพซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการพัฒนา โดยไม่ปล่อยให้คนมีปัญหาสุขภาพก่อน แล้วจึงมารักษาที่โรงพยาบาล ทั้งนี้เพื่อเป้าหมายในการลดภาระค่าใช้จ่ายของประเทศ” โฆษกกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าวกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพได้มอบดอกกุหลาบสีแดงให้แก่นพ.วินัย เพื่อให้กำลังใจในการทำหน้าที่คัดเลือกรองเลขาฯคนใหม่ให้เป็นไปด้วยความถูกต้องโปร่งใสด้วย
ทั้งนี้ผู้สมัครทั้ง 7 คน ได้แก่นพ.กรรชิต คุณาวุฒิ ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. ภญ.เนตรนภิส สุชนวนิช ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. และ นพ.เรืองศิลป์ เถื่อนนาดี ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 10 อุบลราชธานี นพ.อรรถสิทธิ์ กาญจนสินิทธ์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย นพ.สัมฤทธิ์ ศรีธำรงสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) น.ส.สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ และนางโสภาพันธ์ สะอาด หัวหน้างานฐานข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ.นนทบุรี
ที่มาภาพ ::: http://www.dailynews.co.th/article/392/180732