‘พ.อ.นที’ เผยกสทช. เตรียมออกกฎคุมสื่อท้องถิ่นยั่วยุการเมือง
กสทช.มอบ 632 ใบอนุญาต ทีวีดาวเทียม-เคเบิลท้องถิ่น ล็อตแรก เผยเตรียมออกกติกาคุมสื่อปลุกปั่นการเมือง
วันที่ 30 ม.ค. 56 ที่ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จัดมอบใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ 2 ฉบับ ได้แก่ การให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (ช่องรายการ) 301 ใบอนุญาต มีอายุ 1 ปี และ การให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ (ระบบเคเบิล ทีวี, ระบบแซทเทินไลน์ ทีวี) 331 ใบอนุญาต มีอายุ 15 ปี รวมทั้งสิ้น 632 ใบอนุญาต 415 ราย
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท. กล่าวว่า การมอบใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่เป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์, การให้บริการโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ และการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ โดยที่ประกาศฯ ทั้ง 3 ฉบับถือเป็นจุดเริ่มต้นและประวัติศาสตร์ไทยในการพัฒนากิจการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ภายใต้กฎ กติกา เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเคเบิลทีวี หรือทีวีผ่านดาวเทียม เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ได้
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการดำเนินงานครั้งนี้ กสท.ได้ปฏิบัติอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม โดยมีระยะเวลาพิจารณาใบอนุญาตฯ ค่อนข้างสั้น คือ ตั้งแต่ 16 ธ.ค. 55 ถึงปัจจุบัน แต่เราสามารถพิจารณาได้ถึง 60% จากผู้ยื่นขอใบอนุญาตฯ ทั้งหมด ส่วนที่เหลือที่ติดปัญหาด้านเอกสารการยื่นขอใบอนุญาตฯ กสท. จะเร่งดำเนินการต่อไป
ประธานกสท. กล่าวต่อว่า สำหรับความกังวลเรื่องช่องทีวีการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นปลุกปั่นยุยงนั้น กสท.จะเริ่มสร้างกฎ กติกาที่ชัดเจนในเรื่องการพูดจาอาจสร้างความแตกแยก และส่อให้เกิดการล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องใหม่ของไทย ฉะนั้นจะพิจารณาเป็นกรณีไป ซึ่งผู้ประกอบการด้านการเมืองต้องปรับตัว แต่ส่วนตัวมองว่าการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่จะต้องไม่ทำให้คนเกิดความด้อยค่าในความเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกันกับการแก้ไขปัญหาการโฆษณาเกินจริงที่จะกำกับดูแลตามกฎหมายต่อไป
ด้านน.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อ 23 ส.ค. 54 เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ว่า รัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมการใช้สื่อวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน รวมทั้งการทำงานเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนการใช้เทคโนโลยีจากระบบอนาล็อกเป็นระบบดิจิตอล ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงการก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยผลักดันให้กสทช.ดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นการประกาศอย่างชัดเจน
ดังนั้นในฐานะรัฐบาลจะเร่งผลักดันกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ให้สามารถก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นระบบและราบรื่น และจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน รวมถึงคาดหวังว่าบทบาทที่ผู้ประกอบการได้รับในครั้งนี้จะคล้ายคลึงกับภาครัฐในการเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ประกอบการที่ประสงค์จะยื่นขออนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ทั้ง 3 ฉบับ สามารถยื่นด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ ณ สำนักงานกสทช. ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป โทร 0-2271-0151 ต่อ 288, 471 และ 452.
ที่มาภาพ:http://www.sat-foryou.com/image/mypic_news/satellite%20content.jpg
