ภาค ปชช.-ประมงพื้นบ้านโวย รบ.ลักไก่พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทะเลและชายฝั่ง ไม่รอฉบับประชาชน
ภาค ปชช.ค้านรัฐบาลเร่งนำร่าง พ.ร.บ.ทะเลเเละชายฝั่ง เข้าสภาฯ ไม่รอฉบับประชาชนยื่นหมื่นรายชื่อ เผยบิดเจตนารมณ์คุ้มครองทรัพยากรชายฝั่ง-วิธีประมงพื้นบ้าน
นายภาคภูมิ วิธานติรวัฒน์ เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลได้เสนอเลื่อนร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ......ขึ้นมาให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา 23 ม.ค.โดยไม่รอร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอโดยประชาชนหนึ่งหมื่นรายชื่อ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบรายชื่อของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยอ้างว่าได้ตกลงกับตัวแทนประชาชนแล้ว
นายภาคภูมิ ในฐานะตัวแทนประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมาย กล่าวว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้นกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน ชุมชนประมงพื้นบ้าน ได้ร่วมกันยกร่างกฎหมายขึ้นมาในครั้งแรกมีจำนวน 135 มาตรา ต่อมาเมื่อผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาปรากฏว่าถูกตัดเหลือเพียง 25 มาตรา จนไม่เหลือหลักการและสาระสำคัญตามเจตนารมณ์ที่เสนอกฎหมายในครั้งแรก ดังนั้นภาคประชาชนฯจึงยกร่างขึ้นมาใหม่และใช้สิทธิตามรัฐธรรมในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายของผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
กระทั่งวันที่ 21 ม.ค.ได้มีการเลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเร็วขึ้นเป็นวันที่ 23 ม.ค.โดยไม่แจ้งให้ภาคประชาชนรับรู้ จึงได้ทำหนังสือถึงประธานวิปรัฐบาล ประธานวิปฝ่ายค้าน และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ชะลอการพิจารณาออกไปก่อนเพื่อรอร่างกฎหมายของประชาชนเพื่อจะได้พิจารณาไปในคราวเดียวกัน จนกระทั่งวันที่ 22 ม.ค.ถึงได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่รัฐสภาเพื่อให้ไปเจรจากับวิปรัฐบาลในเช้าวันที่ 23 ม.ค.ซึ่งอีกไม่กี่ชั่วโมงสภาก็จะพิจารณาแล้ว จึงถือเป็นวิธีการที่บีบให้ประชาชนต้องจำยอมรับข้อเสนอของตัวแทนวิปรัฐบาลซึ่งต่อรองจะให้กรรมาธิการในสัดส่วนของภาคประชาชนจำนวน 3 คนโดยไม่มีทางเลือก
“ประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายยังคงยืนยันในหลักการว่าสภาฯควรนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับประชาชนเข้าสู่การพิจารณาควบคู่กับร่างของคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น นอกจากจะส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังแสดงความถึงความจริงใจของรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งและประกาศตนเองมาตลอดว่ายึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยและให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในทางการเมือง” นายภาคภูมิกล่าว .