พระ-ภาค ปชช.ธรรมยาตราสามเหลี่ยมทองคำ-เวียงแก่น “ค้านเขื่อนใหญ่ลุ่มน้ำโขง”
เครือข่ายอนุรักษ์ พระสงฆ์ ไทย-กัมพูชา เดินธรรมยาตราอนุรักษ์แม่น้ำโขง จากสามเหลี่ยมทองคำ-เวียงแก่น ปลุกพลัประชาชนค้านเขื่อนใหญ่ “ปกป้องลำน้ำ-วิถีชุมชน”
วันที่ 18 ม.ค.56 เครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาภาคเหนือ กลุ่มเพื่อนเดินธรรมยาตราและมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา เดินธรรมยาตราเพื่อแม่น้ำโขงครั้งที่ 2 เริ่มจากบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน - อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกและทำกิจกรรมอนุรักษ์แม่น้ำโขงโดยใช้ระยะเวลา 9 วัน 8 คืน รวมระยะทาง 117 กิโลเมตร
นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง และแกนนำกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่าสภาพแม่น้ำโขงปัจจุบันนับว่าเข้าขั้นวิกฤติ เพราะมีเขื่อนเกิดขึ้นมากมาย ล่าสุดเป็นเขื่อนไซยะบุรีใน สปป.ลาว ซึ่งเราไม่สามารถไปยับยั้งได้ จนมีการก่อสร้างและส่งผลกระทบต่อประชาชนหลายประเทศที่อยู่ลุ่มแม่น้ำโขง ขณะที่เขื่อนที่สร้างที่จีนตอนใต้ก็มีถึง 4 เขื่อนแล้ว ล่าสุดคือเขื่อนจิ่งหง อยู่ที่เมืองจิ่งหงหรือเชียงรุ่ง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนาน ทั้งยังจะมีการก่อสร้างเพิ่มอีก 4 เขื่อน จนครบ 8 เขื่อนในอนาคต ก็ทำให้ระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติเสียไปมากขึ้น
อย่างไรก็ตามเขื่อนใน สป.จีน ยังไม่ส่งผลกระทบมากเท่าเขื่อนทางน้ำโขงตอนใต้ อย่างเขื่อนไชยะบุรี เพราะมีพันธุ์ปลาที่พอศึกษาได้ประมาณ 8-9 ชนิด แต่ที่ใต้เขื่อนไชยะบุรี มีจำนวนมหาศาล รวมทั้งกระทบต่อประชากรที่อาศัยแม่น้ำโขง ทะเลสาบในกัมพูชา เวียดนาม ทำให้มีพระสงฆ์จากกัมพูชามาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย และในเดือน มิ.ย.ปีนี้คณะเราก็จะไปร่วมกิจกรรมเดินธรรมยาตราที่ประเทศกัมพูชาเหมือนกันด้วย
นายนิวัฒน์ กล่าวอีกว่า นอกจากการสร้างเขื่อนแล้วยังมีโครงการอื่นๆที่มีผลกระทบอีกมาก ที่ใกล้ตัวที่สุดคือ กรณีท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 2 จุดที่แม่น้ำกกไหลลงสู่แม่น้ำโขง ที่หมู่บ้านสบกก ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน ทำให้ชาวบ้านที่เคยหาปลาแล้วนำมาขายข้างทางเดือดร้อนมากขึ้น เพราะบริเวณปากแม่น้ำมีการนำเสาตอม่อเก่าไปทิ้ง และมีโครงการจะสร้างคลังน้ำเชื้อเพลิง ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถหาปลาได้เหมือนเดิม
“การเดินธรรมยาตรา เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ให้ประชาชนมีจิตสำนึกโดยอาศัยศาสนาขัดเกลาจิตใจและเสริมปัญญา ซึ่งปีที่แล้วประชาชนตลอดรายทางและผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ประโยชน์มาก”
ทั้งนี้แม่น้ำโขงมีความยาวตั้งแต่ประเทศจีนถึงทะเลจีนใต้ ประเทศเวียดนาม 4,909 กิโลเมตร ผ่านพื้นที่ชุ่มน้ำในประเทศต่างๆกว่า 795,000 ตารางกิโลเมตร มีความหลากหลายของชนิดพันธุ์ปลาเป็นอันดับ 3 ของโลก หล่อเลี้ยงผู้คนกว่า 10 กลุ่มชาติพันธุ์ ด้วยประชากรไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคน เฉพาะ จ.เชียงราย มีชายแดนที่ติดแม่น้ำโขงตั้งแต่ อ.เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่น รวมกันประมาณ 124 กิโลเมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเดินธรรมยาตราวันแรกมีทั้งพระสงฆ์ สามเณร โดยมีพระสงฆ์ชาวกัมพูชา 2 รูปร่วมด้วย ตลอดจนพุทธศาสนิกชนเดินทางออกจากปางช้างโรงแรมอนันตรารีสอร์ทแอนด์สปา บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ไปตาม ถ.สายเชียงแสน-เชียงของ ก่อนแวะทำกิจกรรมร้องเพลงรณรงค์อนุรักษ์แม่น้ำโขงที่ศาลาหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน และช่วงบ่ายเดินทางไปยังวัดพระธาตุผาเงาโดยมีพระพุทธิญานมุนี เจ้าคณะ อ.เชียงแสน นำคณะธรรมยาตราเดินทางไปก่อนพักค้างแรมที่วัดดังกล่าว พร้อมกับจัดเวทีเสวนา “คนเชียงแสนกับแม่น้ำโขง จากอดีตสู่ปัจจุบัน”
และกำหนดการ 19 ม.ค.56 คณะธรรมยาตราจะเดินทางต่อไปตาม ถ.เชียงแสน-เชียงของ โดยแวะพักตามวัดต่างๆ พร้อมมีกิจกรรมเทศนาธรรม เช่น ธรรมะกับธรรมชาติ กัณมหาพนหมอยาสืบสานวัฒนธรรมพื้นบ้าน วัฒนธรรมไทลื้อ ฯลฯ รวมทั้งกิจกรรมเพื่อแม่น้ำโขง ณ คอนผีหลง ซึ่งเป็นเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ เมื่อเข้าสู่ อ.เชียงของ มีเวทีเสวนารายการเสียงประชาชนเปลี่ยนประเทศไทย ระบำแห่งสายน้ำบทเพลงเพื่อศิลปะ โดย อ.เชิด สันดุสิต และกลุ่มศิลปินลุ่มน้ำโขง กิจกรรม “ธรรมคีตา” และการแสดงของเยาวชนรักษ์เชียงของ และฉายหนังสารคดีก่อนที่จะสิ้นสุดการเดินทางที่ท่าเรือบ้านห้วยลึก ต.ห้วยลึก อ.เวียงแก่น .
ที่มาภาพ :http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/326/2326/images/012.jpg