ชง ครม.ขยายประกันภัยคลุมนาปรัง 258 ล้านบ. คาดชาวนาร่วม 2 ล้านไร่
สศค.ชง ครม.ขยายกองทุนภัยพิบัติคลุมนาปรัง คงเบี้ย 120บ./ไร่ ชาวนาจ่าย 50บ.คุ้มครอง 7 ภัย ภัยธรรมชาติ 1,111 บ. โรคระบาด 555บ./ไร่ ธกส.ตั้งเป้าเกษตรกรร่วม 2 ล้านไร่ 258 ล้านบาท 2 บ.ประกันตอบรับ
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เปิดเผยว่ากองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการรับประกันภัยข้าวนาปีและนาปรังตลอดปีการผลิต 2556 จากปัจจุบันรับประกันภัยเฉพาะการเพาะปลูกข้าวนาปี เพื่อคุ้มครองผลผลิตข้าวที่จะออกมาตลอดปีตามความต้องการของเกษตรกร
เบื้องต้นคาดว่าจะคงเบี้ยประกันภัยข้าวของแต่ละรอบไว้ที่อัตราเดิมคือ 120 บาทต่อไร่เท่ากับปีที่ผ่านมา จำนวนนี้เกษตรกรจ่ายเพียง 50 บาทต่อไร่ในกรณีที่เป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) หากไม่เป็นลูกค้า ธกส.ต้องจ่ายเบี้ย 60 บาทต่อไร่ ส่วนที่เหลืออีก 60 บาทรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเบี้ยให้พร้อมกับภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 9 บาท รวมเบ็ดเสร็จ 1 ไร่ เบี้ยประกัน 129 บาทรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งการจ่ายเบี้ยประกันนั้นเกษตรกรต้องจ่ายตามฤดูกาลผลิต หากทำข้าวนาปีและนาปรังก็ต้องจ่ายเบี้ย 2 ครั้ง
และยังให้ความคุ้มครอง 7 ภัยเหมือนเดิม ประกอบด้วย ลมพายุ ลูกเห็บ ภัยแล้ง อากาศหนาว ฝนทิ้งช่วง ศัตรูพืช และโรคระบาด หากเป็นภัยที่เกิดจากภันธรรมชาติ จะได้รับค่าสินไหม 1,111 บาทต่อไร่ หากเกิดจากศัตรูพืชและโรคระบาดจะได้รับค่าสินไหม 555 บาท ต่อไร่
นายสมชัย กล่าวอีกว่าขณะนี้ได้นำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาอนุมัติให้ทันฤดูกาลเพาะปลูกในพ.ค.นี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่โครงการดังกล่าวจะได้รับอนุมัติจากรัฐบาล เนื่องจากเป็นประโยชน์แก่เกษตรกร ส่วนจะขยายความคุ้มครองไปยังพืชอื่นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ขณะนี้ได้รับการตอบรับจากบริษัทประกันวินาศภัยที่จะเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 2 บริษัท ได้แก่ ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้รับประกันภัยพืชผลข้าวนาปีปีการผลิต 2555 และคาดว่าจะมีบริษัทประกันวินาศภัยอีกหลายแห่งตอบรับเข้าร่วมโครงการ
นายเกตโกมล ไพรทวีพวศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนโยบายรัฐ ธกส.เปิดเผยว่าตั้งเป้าหมายการรับประกันภัยนาข้าวปี 2556 ที่ 258 ล้านบาทหรือประมาณ 2 ล้านไร่ทั่วประเทศ จากช่วงปีที่ผ่านมาเกษตรกรให้ความสนใจในการกระจายความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติมากขึ้น หลังจากที่ภาครัฐได้ให้กองทุนภัยพิบัติฯขยายความคุ้มครองไปถึงข้าวนาปีเมื่อช่วงปี 2555 ทั้งนี้แนวโน้มการเข้าร่วมโครงการของลูกค้า ธกส.เชื่อว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
"ผลการรับประกันนาข้าวช่วงปีที่ผ่านมา มียอดเบี้ยประมาณ 112.48 ล้านบาทคิดเป็น 872,365 ไร่ หรือ 45,718 ราย โดยมียอดเคลมสินไหมประมาณ 64 ล้านบาทหรือ 6.7% ของเนื้อที่ที่เข้ารับประกัน ส่วนสินเชื่อรวมปัจจุบันมีประมาณ 800,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเขื่อเกษตรกรนาข้าวประมาณ 147,000 ล้านบาท และสินเชื่อเกษตรข้าวโพดประมาณ 19,000 ล้านบาท
ด้าน นายศิลปชัย ศิริสมรรถการ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจประกันภัยวิวัฒน์ฯ กล่าวว่าอัตราเบี้ยดังกล่าวถือว่ายอมรับได้ เพราะกองทุนฯรับความเสี่ยงเอาไว้ 90% อีก10% บริษัทประกันเป็นผู้รับความเสี่ยง
นางวรนุช มหิพันธ์ หัวหน้ากลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. และเกษตรกรผู้ปลูกข้าว กล่าวว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการให้มีการรับประกันข้าวเพิ่มขึ้นทั้งนาปีนาปรัง เนื่องจากมีการเพาะปลูกจำนวนมากในหลายพื้นที่และเสี่ยงสูงที่จะความเสียหายจากภัยน้ำท่วมและภัยแล้งซึ่งเกิดขึ้นทุกปี
“ปัจจุบันตนเองก็มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งสิ้น 250 ไร่ โดยมีพื้นที่ของตนเอง 70 ไร่ ที่เหลือเป็นการเช่า ซึ่งได้ทำประกันภัย 136 ไร่ ในปี 2555 เพื่อคุ้มครองความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น อีกทั้งยังทำหน้าที่หัวหน้ากลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. เป็นตัวแทนเกษตรตำบล จึงชักชวนเพื่อนเกษตรกรเข้ามาทำประกันอีกหลายราย”
นางพิตรพิบูล ยอดชมญาณ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าว กล่าวว่าหากภาครัฐเพิ่มการรับประกันข้าวนาทุกช่วงปีการผลิต เชื่อว่าเกษตรกรเป็นจำนวนมากให้การตอบรับและเข้าร่วมทำประกันภัยฯ เนื่องจากเกษตรกรได้รับประโยชน์โดยตรงซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจแก่เกษตรกรในการเพาะปลูก
“ขณะนี้มีนาข้าวทั้งหมด 140 ไร่ ทำประกันภัยไว้ 79 ไร่ เป็นการสร้างความอุ่นใจได้ในระดับหนึ่ง เบี้ยประกันและสินไหมทดแทนที่ได้ก็สมน้ำสมเนื้อ” นางพิตรพิบูล กล่าว .
ที่มาภาพ : http://www.thairath.co.th/content/eco/263096