แฟนละครบุกวิก 3 กดดันแจงระงับ ‘เหนือเมฆ 2’ ขัดม.37-จี้สปอนเซอร์ถอนโฆษณา
แฟนละครบุกตึกมาลีนนท์ร้องแจงความจริงแบน ‘เหนือเมฆ 2’ จี้สปอนเซอร์ถอนโฆษณา ระบุ 1 สัปดาห์ไม่คืบเตรียมงดบริโภคสินค้าโปรโมตผ่านช่อง 3

วันที่ 13 ม.ค. 56 กลุ่มแฟนเพจเฟซบุ๊ก ‘รณรงค์แบนช่อง 3 กรณีถอดละคร เหนือเมฆ 2 สนองคำสั่งนักการเมือง’ ราว 100 คน ร่วมสวมหน้ากากสีขาวชุมนุมหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เรียกร้องให้แพร่ภาพละครเหนือเมฆ 2 ตอน มือปราบจอมขมังเวทย์จนจบ โดยมีนายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท บางกอก เอนเทอร์เทนเมนต์ จำกัด (ช่อง 3) เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน
แกนนำแฟนเพจผู้ใช้นามแฝง ‘แอดมินจ่าสมิง’ อ่านแถลงการณ์ว่า จากการระงับการออกอากาศละคร เหนือเมฆ 2 อย่างกะทันหัน ทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยว่าอำนาจมืดเหนือนักโกงเมืองทนไม่ได้กับเนื้อหาของละคร ประกอบกับการชี้แจงของช่อง 3 ที่ระบุละครมีเนื้อหาเข้าข่ายผิดม. 37 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 เพราะมีเนื้อหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาตินั้นไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากเมื่อพิจารณาเนื้อหาของละครที่เปิดโปงพฤติกรรมนักโกงเมืองในคราบนักการเมือง น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยรณรงค์สร้างความมั่นคงของชาติทางอ้อม
โดยการชุมนุมครั้งนี้ภายใต้กิจกรรม ‘ศรัทธา พลังแห่งความดี’ มุ่งเน้นให้สังคมรับรู้ว่าขณะนี้อำนาจมืดบางอย่างกำลังคุกคามและลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน ม.45,46 และ 47 พร้อมเรียกร้องให้สื่อมวลชนร่วมเปิดโปงความจริงดังกล่าวให้สังคมรับรู้
นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ช่อง 3 ชี้แจงข้อเท็จจริง และให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ต.ล.ท.), คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประกาศปรับลดระดับเรื่องธรรมาภิบาลของช่อง 3 ในระดับต่ำสุด ที่สำคัญบริษัทเช่าโฆษณาช่อง 3 ต้องถอนโฆษณาหรือหยุดชำระค่าโฆษณาชั่วคราว ซึ่งหากภายใน 1 สัปดาห์ไม่มีความคืบหน้า จะรณรงค์งดหรือลดบริโภคสินค้าที่โฆษณาผ่านช่อง 3
“ทุกคนให้กำลังใจทีมงานละครเหนือเมฆ 2 ที่สร้างสรรค์ละครคุณภาพ สามารถทำให้ประชาชนมองเรื่องประชาธิปไตยผ่านบุคคลที่เห็นเป็นนักการเมืองว่า การทำงานการเมืองเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริงนั้น นักการเมืองที่ดีต้องพร้อมต่อสู้กับเหล่านักโกงเมืองที่เข้ามาแสวงหาประโยชน์ ทุจริตคอร์รัปชั่นผ่านธุรกิจการเมือง ซึ่งเป็นการผลาญภาษีของประชาชน และส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญ” แอดมินจ่าสมิง กล่าว
ด้านนายบริสุทธิ์ บูรณะสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ช่อง 3 กล่าวว่า การระงับแพร่ภาพละครเหนือเมฆ 2 เกิดจากมีเนื้อหาบางส่วนที่เข้าข่ายไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้ได้ส่งเทปให้ผู้บริหารรับทราบแล้วช่วงแรก โดยมีความเห็นให้ผู้จัดละคร (นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ตัดต่อใหม่ เพื่อออกอากาศต่อไป แต่ภายหลังยังพบการเข้าข่ายผิดกฎหมายจึงต้องระงับกะทันหัน ทั้งนี้ยืนยันว่าคณะกรรมการเซ็นเซอร์ได้ตรวจสอบเนื้อหารายการทุกประเภทเคร่งครัด หากพบเรื่องใดอาจส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการของสถานี จำเป็นต้องยุติหรือเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามไม่เกี่ยวกับคดียื่นต่อสัมปทานช่อง 3 ที่กำลังเป็นประเด็นตอนนี้
สำหรับกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เตรียมขอให้ช่อง 3 ส่งเทปละครให้ตรวจสอบ เพื่อให้อำนาจวินิจฉัยว่าเข้าข่ายความผิดม. 37 หรือไม่ รวมถึงคณะกรรมมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เตรียมเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจงวันที่ 16 ม.ค. 56 ตนอยู่ในสถานะไม่สามารถตัดสินใจได้ คงต้องให้ผู้บริหารชี้แจงแทน
ขณะที่น.ส.ดวงใจ ตั้งสายัณห์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สังคมไทยควรเปิดพื้นที่ให้ละครน้ำดีในสัดส่วนร้อยละ 70 ละครตลาดน้ำเน่าร้อยละ 30 เพื่อสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภค พร้อมเรียกร้องไม่ให้ตำหนินักประพันธ์นวนิยายที่รังสรรค์ผลงานเขียนออกมา เพราะต้องเข้าใจว่านวนิยายน้ำเน่านั้นล้วนแฝงแง่คิดไว้มากมาย คงต้องโทษนักเขียนบทโทรทัศน์ที่ดัดแปลงนวนิยายเป็นละครที่เน้นตลาดมากเกินไป จนขาดแก่นแท้ของเรื่องที่นักประพันธ์นวนิยายเขียนไว้ ทั้งนี้ไม่เห็นด้วยที่ช่อง 3 ระงับการแพร่ภาพละครเหนือเมฆ ซึ่งหากพบว่ามีส่วนใดเข้าข่ายผิดกฎหมายควรตัดต่อใหม่ก็เพียงพอ ดังเช่นละครดังที่เป็นปัญหาในอดีตอย่าง ‘สงครามนางฟ้า’ ที่กระทบความเชื่อมั่นของการบินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช และนก สินจัย เปล่งพานิช และนักแสดงนำจากละครเหนือเมฆ 2 พร้อมครอบครัวได้เดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค. 56.
