"แนวร่วมกลับใจ"เพิ่มเป็น150 ปัตตานีระอุยิงทหารดับ1เจ็บ5
แม่ทัพภาค 4 จัดงานรวมพลังสานใจสู่สันติ ระดมกลุ่มแนวร่วมกลับใจขึ้นเวทีปฏิเสธความรุนแรง ยกเหตุการณ์กราดยิงร้านน้ำชาไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยจำนวนผู้กลับใจพุ่งถึง 150 ราย ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังระอุ คนร้ายหลบบนสะพานชานเมืองปัตตานี ยิงเอ็ม 16 ถล่มรถยีเอ็มซีของทหาร กำลังพลพลีชีพ 1 นาย เจ็บ 5 ประเดิมปี 2556
วันเสาร์ที่ 5 ม.ค.2556 ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา "รวมพลังสานใจสู่สันติชายแดนใต้" โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรทั้ง 3 จังหวัด ผู้นำศาสนา และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน
ทั้งนี้ ไฮไลท์ของงานนอกจากการบรรยายพิเศษของ นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เสนอให้ยกเลิกนโยบายการเอาชนะทางการทหาร พร้อมต้อนรับผู้ประกาศยุติความรุนแรง ลดจำนวนอาวุธปืน และเพิ่มกำลังฝ่ายสืบสวนผู้มีทักษะวิชาชีพ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทกำนันผู้ใหญ่บ้าน และการพูดคุยเจรจาอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ยังมีการขึ้นเวทีประกาศปฏิเสธความรุนแรงของ "เครือข่ายกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ" ที่เคยเข้าแสดงตัวกับแม่ทัพภาคที่ 4 ด้วย
การประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าว นำโดย นายมุกตาร์ ซีกะจิ โฆษกพรรคประชาธรรม ซึ่งเคยนำผู้เห็นต่างจากรัฐ 80 คนเข้าแสดงตัวกับแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ปีที่แล้ว นายอับดุลรอซะ การ์เด อดีตจำเลยคดีความมั่นคง นายยะยา การูมอ อดีตครูโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และ นายมะนาวี แยนา อดีตผู้ร่วมขบวนการก่อความไม่สงบ
แกนนำห่วงกราดยิงร้านน้ำชา-วอนยุติ
นายมุกตาร์ กล่าวว่า กระบวนการสร้างสันติภาพนั้น ทุกคนต้องมีส่วนร่วม ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะคนที่เบื่อสงคราม เบื่อความรุนแรง แต่กระบวนการนี้ต้องอาศัยเวลา
อย่างไรก็ดี ส่วนตัวอยากฝากไปยังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจว่า การพูดคุยทำความเข้าใจก็เหมือนกับการปัดกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาดที่สุด เพราะสิ่งที่ทุกคนรู้สึกสลดใจและคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็คือกรณีกราดยิงชาวบ้านที่ร้านน้ำชาบ้านบาดามูเวาะห์ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2555 ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิต 4 ราย
"ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร ผมไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนสร้าง เหตุการณ์แบบนี้เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ผมไม่ได้ว่าขบวนการและไม่ได้ว่าเจ้าหน้าที่ เพียงแต่ว่าการใช้ความรุนแรงมันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของพวกเราหรือของชาวบ้านดีขึ้น เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลหมู่บ้านของเราเอง และเชื่อเหลือเกินว่าอีกไม่นานเหตุการณ์คงจะดีขึ้น ผมพร้อมจะขับเคลื่อนกระบวนการสร้างสันติภาพและพร้อมชักชวนพรรคพวกที่ยังคงต่อสู้โดยใช้ความรุนแรงอยู่ให้กลับมาสู่แนวทางที่ถูกต้อง ไม่ใช้ความรุนแรง" นายมุกตาร์ กล่าว
กอ.รมน.เผยแนวร่วมกลับใจพุ่ง 150 ราย
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ที่ผ่านมาแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตั้งคณะกรรมการประสานงานและรณรงค์เพื่อยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยดึงแกนนำบางส่วนจากกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย โดยคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่ไปทำความเข้าใจและรณรงค์ให้กลุ่มที่ยังต่อสู้โดยใช้ความรุนแรงอยู่ หันมาใช้สันติวิธี
ปรากฏว่าจนถึงปัจจุบันมีผู้เห็นต่างจากรัฐยอมเข้าแสดงตัวกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแล้ว จำนวน 150 คน ทั้งนี้ไม่รวมกับกลุ่มที่ไปแสดงตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง โดยผู้เห็นต่างจากรัฐจำนวน 150 คนนี้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือผู้ที่มีหมายจับ (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ ป.วิอาญา) กลุ่มที่มีหมาย พ.ร.ก. (ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) และกลุ่มที่ไม่มีหมายอะไรเลย ซึ่งที่ผ่านมา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้ความช่วยเหลือในเรื่องหมายต่างๆ และการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมด้วยความเป็นธรรมไปเกือบทั้งหมดแล้ว
ปัตตานีระอุยิงถล่มทหารดับ 1 เจ็บ 5
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่เริ่มร้อนระอุ หลังจากเงียบสงบในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยเมื่อเวลา 00.05 น.วันเสาร์ที่ 5 ม.ค. พ.ต.อ.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเจ้าหน้าที่ทหาร ที่บริเวณใต้สะพานตะลูโบะ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 เขตรอยต่อระหว่าง หมู่ 7 ต.ตะลูโบะ กับหมู่ 1 ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด กองพิสูจน์หลักฐานปัตตานี และกำลังทหาร
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบเพียงปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวนกว่า 10 ปลอกตกอยู่บนสะพาน ส่วนบริเวณใต้สะพานพบเศษกระจกรถของทหาร ขณะที่ผู้บาดเจ็บถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลปัตตานีแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตามไปที่โรงพยาบาล พบรถบรรทุกหกล้อยี่ห้อ "ยีเอ็มซี" ซึ่งทหารชุดประสบเหตุใช้เป็นพาหนะจอดอยู่ด้านหน้า มีรอยกระสุนปืนเจาะเป็นรูที่กระจกหน้า ส่วนกระจกด้านข้างแตกทั้งสองฝั่งและผ้ายางคลุมกระบะท้ายมีรูกระสุนหลายรู
ส่วนทหารที่บาดเจ็บทั้งหมดมาจากกองพันที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 (ร 15 พัน 4) ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ (ค่ายรำปูลา) อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่กองร้อยทหารราบที่ 1523 (ร้อย ร.1523) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 23 ตั้งฐานอยู่ที่โรงไฟฟ้า ต.ตะลูโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ พลทหารศราวุธ ศรีนคร อายุ 23 ปี ส.อ.อนิรุนธ์ ขจรภักดี อายุ 35 ปี คนขับรถและหัวหน้าชุด ทั้งสองคนนี้อาการสาหัส ภายหลัง พลทหารศราวุธ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ส่วนที่เหลืออาการไม่สาหัส ได้แก่ ส.ท.ประเวศ ทองจันทร์ อายุ 35 ปี ส.อ.อรรคพล อวยชัย อายุ 37 ปี พลทหารอารมณ์ ดอเลาะ อายุ 22 ปี และ พลทหารสุราษ พรหมสื่อ อายุ 23 ปี ทั้งหมดพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี
ตำรวจยะรังประสบเหตุ-ปะทะระลอก 2
สอบสวนทราบว่า กำลังทหารทั้งหมด 7 นายได้ออกจากฐานปฏิบัติการ โดยใช้รถบรรทุกทหารยีเอ็มซี เพื่อไปผลัดเปลี่ยนเวรกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจตะลูโบะ เขตรอยต่อเทศบาลเมืองปัตตานี เมื่อขับรถถึงใต้สะพานสูงก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 80 เมตร ได้มีคนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะซึ่งจอดซุ่มอยู่บนสะพานซึ่งเป็นที่มืด ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่ จนเกิดการยิงปะทะกัน ขณะนั้นเป็นจังหวะที่รถของตำรวจชุดลาดตระเวนของ สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี นำโดย พ.ต.ท.ธวัชชัย สังฆมิตกล รองผู้กำกับการ สภ.ยะรัง ขับผ่านมาพอดี จึงได้ยิงช่วยเหลือ จนเกิดการปะทะกันอีกระลอก แต่คนร้ายอาศัยความได้เปรียบที่อยู่บนที่สูงยิงใส่ทหารจนบาดเจ็บหลายนาย แล้วเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ต่อมา เวลา 11.30 น. ที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมพิธีรดน้ำศพ พลทหารศราวุธ จากนั้นได้เคลื่อนศพขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับไปยังค่ายพระยารัชดานุประดิษฐ์ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อส่งศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโคกหล่อ ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ต่อไป
ถล่มกองร้อย อส.ศรีสาคร-ภรรยารับเคราะห์
ค่ำวันเดียวกัน คนร้ายอย่างน้อย 4 คน มีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มกองร้อยอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำที่ว่าการอำเภอศรีสาคร จ.นราธิวาส ตั้งอยู่หมู่ 1 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร ทำให้ น.ส.อัญชลี เหล่าจันทร์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 หมู่ 7 ต.หนองบัวงาม อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเจษฎา เสงี่ยมจิตต์ อส.ในกองร้อย เสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่ น.ส.อัญชลี กำลังทำกับข้าวอยู่ในโรงครัวพร้อมกับเพื่อนๆ แม่บ้านอีก 3 คน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นผู้ก่อความไม่สงบ ต้องการโจมตีกองร้อย อส.เพื่อสังหาร อส. แต่ น.ส.อัญชลี รับเคราะห์แทน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : บรรยากาศในงานสานใจสู่สันติ ที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี (ภาพโดย สมศักดิ์ หุ่นงาม)
ขอบคุณ : ข่าวสถานการณ์ความไม่สงบบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น