ก.เกษตรฯ รุกวิจัยข้าว 800 ลบ. หนุนพันธุ์พื้นเมือง-ลดเคมี
‘ยุคล’ เผยรุกวิจัยข้าวทั้งระบบ 800 ลบ. เน้นพันธุ์พื้นเมือง-เครื่องทดแทนกำลังคน-ลดเคมี อธิบดีกรมการข้าวชี้จัดระบบปลูกข้าวสำเร็จ ตั้งเป้าปี 57 พื้นที่นำร่อง 4 ล้านไร่
วันที่ 3 ม.ค. 56 ที่กรมการข้าว นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.กษ.) ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารกรมการข้าว โดยกล่าวว่า ปัจจุบันข้าวเป็นพืชหลักที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงอาหารของโลก มีผู้บริโภคข้าวเป็นอาหารหลักกว่า 3,000 ล้านคน โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตข้าวเพื่อการส่งออกรายใหญ่ จะต้องรักษาคุณภาพและพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยกรมการข้าวจะต้องตรวจสอบรับรองพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนำไปปลูกทั้งหมดเพื่อให้ผลิตที่ดี มีคุณภาพ พร้อมกับพัฒนางานวิจัยด้านพันธุ์ข้าวพื้นเมืองแต่ละชนิดว่ามีความโดดเด่นด้านใด สามารถนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไร ซึ่งกรมการข้าวต้องทำการวิจัยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาคนักวิชาการและหน่วยงานวิจัยต่าง ๆ และสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการวิจัยข้าวเพิ่มขึ้น เพราะขณะนี้ไทยขาดนักวิจัยข้าวมาก โดยในปีงบประมาณ 2556 รัฐบาลมีงบประมาณรวมสำหรับการวิจัยและพัฒนาด้านข้าว 800 ล้านบาท
นอกจากนี้กรมการข้าวจะต้องดูแลการจัดพื้นที่เศรษฐกิจเกษตรด้านข้าว ให้ครบองค์ประกอบทั้งด้านแหล่งปลูก โรงสี การแปรรูป รวมถึงให้ความรู้กับเกษตรกรทั้งระบบ ตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการแปรรูปผลผลิต และให้ความรู้ในการจัดพื้นที่แปลงนา และการนำเครื่องจักรมาใช้ทดแทนแรงงานทางด้านการเกษตรที่มีจำนวนลดลง
รมว.กษ. กล่าวต่อว่า กระทรวงมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวเหลือปีละ 2 ครั้ง เพื่อพักดินที่เสื่อมโทรม นอกจากนี้ส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์และลดใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อบำรุงดินให้มีคุณภาพมากขึ้น พื้นที่เกษตรจะได้ยืนยาว เพราะปัจจุบันไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีปีละ 5 ล้านตัน หากนำมาปลูกข้าวโดยไม่ถูกต้อง อาจเกิดการสะสมในหน้าดินได้ แต่ต้องอาศัยระยะเวลาในการทำความเข้าใจกับเกษตรกร
สำหรับความกังวลเรื่องการขาดแคลนแรงงานเกษตรในอนาคต ขณะนี้ให้กรมการข้าวหันมาส่งเสริมการวิจัยเครื่องจักรกลขนาดเล็กทดแทนแรงงาน เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการนาไทยที่มีลักษณะตารางแก่เกษตรกรรายย่อย ซึ่งจะนำเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ที่มีอยู่ในปัจจุบันใช้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะต้องมีราคาถูกคำนึงถึงผลผลิตที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
ด้านนายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวถึงโครงการจัดระบบการปลูกข้าวปี 55 ว่า ประสบความสำเร็จสูง ข้าวหลายพื้นที่ให้ผลผลิตสูงขึ้น ปลอดจากเพลี้ยกระโดด และเกิดการบริหารจัดการน้ำที่ดี ซึ่งคาดว่าภายในปี 57 จะมีพื้นที่นำร่อง 4 ล้านไร่ จากพื้นที่ดินเสื่อมโทรมทั้งหมด 9 ล้านไร่ ส่วนพื้นที่ 5 ล้านไร่ที่เหลือยังไม่เข้าร่วมโครงการคงพัฒนาเป็นโครงการเล็ก ๆ ต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ร่วมมือกับกรมชลประทานสอบถามความคิดเห็นจากเกษตรกรต่อความต้องการเมล็ดพันธุ์พืชปลูกทดแทนช่วงเว้นจากการทำนา ซึ่งคาดว่าจะรวบรวมข้อมูลจากเวที 170 แห่ง 18 โครงการได้ปลายก.พ.56 ทั้งนี้กลางม.ค. กรมชลประทานจะสรุปข้อมูลเบื้องต้นก่อน เพื่อให้กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมการข้าวจัดเตรียมเมล็ดพันธุ์ได้ทัน โดยเฉพาะเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว.
ที่มาภาพ:http://newprobiotech.com/storage_upload/8/35317/uploads/images/นาข้าว2.jpg