“กฤษฎีกา” ยันคำสั่งปลด-สอบวินัย อธิการฯ “รำไพพรรณี” ชอบ ด้วย กม.
“กฤษฎีกา” ยันคำสั่งปลด-สอบวินัยร้ายแรง “รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม” ออกจากตำแหน่งอธิการฯ ราชภัฏรำไพพรรณี ชอบ ด้วย กม. แต่ต้องทูลเกล้าฯ “ถอดถอน” ตามขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เผยแพร่ความเห็นทางกฎหมายกรณีการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และดำเนินการทางวินัย กับอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ทำเรื่องหารือ
โดยคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นยืนยันข้อกฎหมาย ว่า รศ.บัญญัติ สุขศรีงาม ได้พ้นจากตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี นับแต่วันที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มีมติให้ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2554 ไปแล้ว
เนื่องจากพระราชบัญญัติ (พรบ.) มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547 กำหนดให้อธิการบดี อาจพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระได้ เมื่อตาย ลาออก สภามหาวิทยาลัยให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือบกพร่องต่อหน้าที่หรือหย่อนความสามารถ ถูกลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการเพราะเหตุมีมลทิน หรือมัวหมองในกรณีที่ถูกสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นว่า เมื่อสภามหาวิทยาลัย มีมติให้ถอดถอนอธิการบดีแล้ว ตามบทบัญญัติดังกล่าว สภามหาวิทยาลัย มีหน้าที่ต้องดำเนินการเสนอการถอดถอนอธิการบดีนั้นเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตอบความเห็นดังกล่าว มาจากคำถาม สกอ. ในประเด็นว่า การที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มีมติให้ถอดถอน รศ.บัญญัติ จากตำแหน่งอธิการบดี โดยมิได้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง โดยเทียบเคียงตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เคยพิจารณาไว้แล้ว มีผลทำให้ รศ.บัญญัติ พ้นจากตำแหน่งอธิการบดี แล้วหรือไม่
ส่วนข้อหารือว่า การออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง รศ.บัญญัติ ตามคำสั่งที่ 1799/2554 ลงวันที่ 8กันยายน 2554 ถือเป็นการดำเนินการทางวินัยโดยชอบตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 หรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า มาตรา 49 วรรคหนึ่ง แห่ง พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฯ ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาว่า ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดถูกกล่าวหา โดยมีหลักฐานตามสมควรว่าได้กระทำผิดวินัย หรือความปรากฏต่อผู้บังคับบัญชาว่า ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดกระทำผิดวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยพลัน และข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย การสอบสวนพิจารณา การลงโทษ การออกจากราชการ การสั่งพักหรือสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ พ.ศ.2554 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องดังกล่าวไว้ในลักษณะเดียวกัน
เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้วินิจฉัยในประเด็นว่า รศ.บัญญัติ ได้พ้นจากตำแหน่งอธิการบดีนับแต่วันที่สภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีมีมติให้ออกจากตำแหน่ง และรศ.บัญญัติ ยังคงรับราชการในฐานะข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีต่อมาจนกระทั่งเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2554 การดำเนินการทางวินัยแก่ รศ.บัญญัติ จึงต้องปฏิบัติตามมาตรา 49 แห่งพรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฯ ประกอบกับข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีในเรื่องดังกล่าว
“ เมื่อรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีในขณะนั้น (ศาสตราจารย์ ดร. สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ) ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้ออกคำสั่งมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่ รศ.บัญญัติ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาฯ แล้ว” คณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุ
ส่วนข้อหารือว่า หากการดำเนินการทางวินัยกับ รศ.บัญญัติ เป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และต้องดำเนินการทางวินัยใหม่ แต่เนื่องจาก รศ.บัญญัติ ได้เกษียณอายุราชการเกินกำหนดระยะเวลาหนึ่งปีแล้ว กรณีดังกล่าวจะสามารถดำเนินการทางวินัยกับ รศ.บัญญัติ ได้หรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า เมื่อได้วินิจฉัยว่า การดำเนินการทางวินัยกับ รศ.บัญญัติฯ โดยการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นการปฏิบัติตามพรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฯ แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยในประเด็นนี้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งปลด รศ.บัญญัติ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี มาจากข้อร้องเรียนของผู้บริหารและคณาจารย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ในช่วงเดือนมกราคม 2554 ถึงต่อสภามหาวิทยาลัยว่า รศ.บัญญัติ ทำผิดระเบียบและบกพร่องในการบริหารงาน ก่อนที่สภามหาวิทยาลัย จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง พบว่า มีมูลตามที่ร้องเรียน อาทิ กรณีปัญหาจัดการศึกษาร่วมกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น การจัดตั้งคณะพยาบาลศาสตร์ และการกลั่นแกล้งรศ.รายหนึ่ง ไม่ให้ไปรับรางวัลนักวิจัยดีเด่นฯ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ปัจจุบัน รศ.บัญญัติ ได้ยื่นฟ้องสภามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีต่อศาลปกครอง กรณีที่มีคำสั่งถอดถอนตนออกจากตำแหน่งอธิการบดี เป็นคดีหมายเลขดำที่ 130/2554
----------------------
หมายเหตุ : อ่านคำวินิจฉัย กฤษฎีกาฉบับเต็ม เรื่อง กรณีการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ และดำเนินการทางวินัยกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี http://app-thca.krisdika.go.th/Naturesig/CheckSig?whichLaw=cmd&year=2555&lawPath=c2_1566_2555
