ค้นเจาะไอร้องยึดปืนล็อตใหญ่ - สีกากีฮือค้านจับสลากลงใต้ – ญาติสาวมิสทีนร้องถูกอุ้ม
ฝ่ายความมั่นคงโชว์ผลงานขยายผลคดียิงครูสาวโรงเรียนบ้านตาโง๊ะ บุกยึดอาวุธสงครามล็อตใหญ่ฝังในป่ายางเจาะไอร้อง ทั้งเอ็ม-16 อ้าก้า เอชเค พร้อมยูเรียและเวชภัณฑ์ ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีเหตุป่วนประปราย ทั้งถล่มบ้านนายก อบต.ที่ทุ่งยางแดง ยิงทหารที่โคกโพธิ์ สีกากีวุ่นพนักงานสอบสวนฮือต้านจับสลากลงใต้ ผบ.ตร.วอนเสียสละเพื่อชาติ น้องสาวผู้จัดการมิสทีนร้องกองปราบพี่สาวถูกอุ้มหาย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นและสามารถยึดอาวุธปืนได้ล็อตใหญ่
การปิดล้อมพื้นที่เพื่อตรวจค้นของหน่วยงานความมั่นคง เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อกลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 28 ธ.ค.2555 ต่อเนื่องเช้ามืดวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.2555 โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้สนธิกำลังร่วมกับหลายหน่วย เข้าตรวจค้นแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนในสวนยางพาราที่บ้านดารุลอีซาน หมู่ 14 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ผลการตรวจค้นเบื้องต้นสามารถตรวจยึดอาวุธปืนได้ 6 กระบอก เครื่องกระสุน ซองกระสุน และสิ่งของอื่นๆ โดยอาวุธปืนทั้งหมดถูกห่อด้วยพลาสสิกซุกอยู่ในถังพลาสติกขนาดใหญ่และฝังไว้ใต้ดิน
สำหรับอาวุธปืนที่ยึดได้จำนวน 6 กระบอก เป็นอาวุธปืนเอ็ม-16 จำนวน 4 กระบอก เกือบทั้งหมดถูกปล้นมาจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บ้านปิเหล็งใต้ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ส่วนที่เหลือเป็นปืนอาก้า 1 กระบอก และปืนลูกซอง 5 นัดอีก 1 กระบอก นอกจากนั้นเป็นซองกระสุนปืนและเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง แผ่นเหล็กขึ้นรูปเพื่อทำระเบิดแสวงเครื่อง ปุ๋ยยูเรีย และเวชภัณฑ์
อย่างไรก็ดี จากการตรวจค้นพื้นที่ข้างเคียงต่อเนื่องในวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.เกือบทั้งวัน พบอาวุธปืนเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งเอ็ม-16 และเอชเค รวมอาวุธปืนที่ยึดได้ 11 กระบอก นอกจากนั้นยังพบปุ๋ยยูเรียอีก 3 กิโลกรัม รวมจำนวนปุ๋ยยูเรียที่ยึดได้ 23 กิโลกรัม
สำหรับการตรวจค้นและยึดอาวุธสงครามล็อตใหญ่ได้ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการจับกุมผู้ต้องสงสัยในคดียิง นางฉัตรสุดา นิลสุวรรณ อายุ 32 ปี ครูโรงเรียนบ้านตาโง๊ะ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้ให้ข้อมูลว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับเหตุรุนแรงอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใน อ.เจาะไอร้อง และใกล้เคียงด้วย เช่น เหตุการณ์ยิงอาสารักษาดินแดน (อส.) ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยรถไฟ (รปภ.รถไฟ) เมื่อปลายเดือน ส.ค.2555 เป็นต้น
ค้นบ้านเป้าหมายค้ายาเจอระเบิดแทน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ธ.ค. หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ได้จัดกำลังผสม 3 ฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายค้ายาเสพติด ที่บ้านโต๊ะแน หมู่ 9 ต.ตะโล๊ะดือรามัน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในบ้านต้องสงสัย แต่จากการตรวจค้นรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต ตอนครึ่ง สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒท 5149 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดอยู่ใต้ถุนบ้าน เจ้าหน้าที่พบลูกระเบิดขว้างมาตรฐาน แบบ เอ็ม-67 จำนวน 1 ลูก จึงยึดไว้ตรวจสอบ และควบคุมตัวชายอายุ 27 ปีซึ่งยอมรับว่าเป็นเจ้าของวัตถุระเบิดดังกล่าวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ถล่มบ้านนายก อบต. – ยิงทหารบาดเจ็บ
สำหรับเหตุรุนแรงอื่นๆ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายปลายปี 2555 ยังคงมีบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 03.30 น.วันศุกร์ที่ 28 ธ.ค.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงถล่มบ้านเลขที่ 45/5 หมู่ 2 บ้านแลแวะ ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายมะยูโซะ สาแลมะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จากนั้นได้วางเพลิงเผารถขนขยะของ อบต.ตะโละแมะนา ซึ่งจอดอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าวได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการก่อความวุ่นวาย แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากคณะผู้บริหาร อบต.ตะโละแมะนา กำลังจะหมดวาระในปี 2556 และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
เวลา 14.30 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง ส.อ.ธงชัย เพลัย ทหารจากค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่ ส.อ.ธงชัย กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) ท้องที่สะพานชะเมา บ้านชะเมา หมู่ 2 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ เพียงลำพัง หลังจากซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟปัตตานี (อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี) กำลังมุ่งหน้ากลับค่าย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
วันพฤหัสบดีที่ 27 ธ.ค. เวลา 19.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมาฮามะนาเซ มาหามะ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 บ้านปาดังยอ หมู่ 3 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส กระสุนถูกบริเวณลำตัว เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่ นายมาฮามะนาเซ กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนทางหลวงสาย 4057 ตากใบ–สุไหงโก-ลก ท้องที่บ้านปะดาดอ หมู่ 3 ต.นานาค อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มุ่งหน้ากลับบ้าน โดยที่เอวของนายมาฮามะนาเซยังมีปืนพกขนาด 9 มม.เหน็บอยู่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว
ทหาร-ตำรวจคุมเข้มชายแดนใต้ช่วงปีใหม่
ช่วงเทศกาลปีใหม่ หน่วยงานด้านความมั่นคงทุกหน่วยในพื้นที่ได้ระดมกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัย ป้องปรามอาชญากรรม และดูแลความสงบเรียบร้อยกันอย่างแข็งขัน
ที่ จ.ยะลา พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้เป็นประธานปล่อยแถวรักษาความสงบเรียบร้อย ป้องกันปราบปรามและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมภารกิจจำนวน 280 นาย
พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) กล่าวว่า นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติคือเน้นย้ำให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรม และดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งแหล่งชุมชนต่างๆ สำหรับในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนอาจจะไม่ได้ออกไปเที่ยวมากเหมือนจังหวัดอื่นๆ แต่ก็ได้ประสานกับทุกหน่วยให้ร่วมกันดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นเขตเมือง เขตชุมชน รวมทั้งเส้นทางคมนาคม ก็ได้ประสานกับฝ่ายกองกำลังให้เพิ่มความเข้มในการดูแลความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่ จ.นราธิวาส บริเวณสวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาญากรรมช่วงปีใหม่ 2556 โดยระดมเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จำนวนกว่า 500 นาย เน้นกวาดล้างอาชญากรรม อำนวยการจราจร และดูแลนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่นิยมเข้ามาในพื้นที่จำนวนมากในช่วงปีใหม่
ที่ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงว่า พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้ประกาศมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเจ้าหน้าที่ทุกนายพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน แม้จะเป็นช่วงวันหยุดราชการก็ตาม ขณะเดียวกันก็อยากให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล หากพบเห็นสิ่งผิดสังเกต ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบ หรือโทรศัพท์ไปที่สายด่วน หมายเลข 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลานั้น ล่าสุดน้ำได้ลดระดับลงแล้ว ขณะที่ทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างใกล้ชิด
สีกากีวุ่น-พนักงานสอบสวนฮือต้านจับสลากลงใต้
ความเคลื่อนไหวของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีปัญหาวุ่นๆ ส่งท้ายปี เมื่อพนักงานสอบสวนจำนวนหนึ่งได้รวมกลุ่มกันร้องเรียนและประกาศไม่ยอมรับการจับสลากคัดเลือกนายตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนเพื่อลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างว่าไม่เป็นธรรม ขณะที่ชายแดนใต้กำลังมีปัญหาวิกฤติเรื่องการขาดพนักงานสอบสวน
ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขาดแคลนกว่า 100 นาย แต่มีพนักงานสอบสวนสมัครใจไปปฏิบัติหน้าที่แค่ 30 นาย จึงต้องมีการจับสลากเพื่อให้ได้จำนวนที่ต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา คนที่ไปไกลจากบ้านก็ต้องมีปัญหา แต่ถ้าคิดให้ดีถือว่าเป็นการทำเพื่อชาติ ทุกคนต้องเสียสละ
"อยากให้น้องๆ ทุกคนเสียสละเพื่อช่วยชาติบ้านเมือง ผมอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มา 3 ปีกว่าไม่เคยบ่น ส่วนที่มีพนักงานสอบสวนร้องเรียนมานั้น เราก็รับฟัง แต่อยากให้น้องๆ ลงไปช่วยชาติบ้านเมือง" พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว และว่ายังไม่ได้พิจารณาว่าจะมีบทลงโทษผู้ที่ร้องเรียนหรือไม่ เพราะเพิ่งได้รับรายงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าถูกบังคับให้ลงไปทำงานในพื้นที่โดยไม่สมัครใจ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ต้องกลับไปพูดคุยกัน และจะพิจารณาเรื่องสวัสดิการให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ภาคใต้ด้วย
สำหรับกลุ่มพนักงานสอบสวนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้ นำโดย พ.ต.ท.ไขแสง ถวิลวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือพร้อมเอกสารกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรมกรณี พล.ต.อ.อดุลย์ มีนโยบายบังคับให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศจำนวน 6 พันนาย ต้องจับสลากเพื่อหาพนักงานสอบสวน 150 นายลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในวันที่ 7 ม.ค.2556 โดยเห็นว่าเป็นนโยบายที่ไม่มีความเป็นธรรม และไม่เสมอภาค เป็นการเลือกปฏิบัติเฉพาะพนักงานสอบสวน
พ.ต.ท.ไขแสง กล่าวว่า ไม่ได้คัดค้านการส่งพนักงานสอบสวนลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ แต่คัดค้านวิธีการจับสลาก เพราะเป็นวิธีการที่ไม่มีความเสมอภาค และแต่ละคนที่อยู่ในข่ายต้องจับสลากก็อยู่ในสภาพกินไม่ได้นอนไม่หลับ ได้รับความทุกข์ เพราะแน่นอนว่าไม่มีใครอยากไป บางคนสมัครใจไปแต่ครอบครัวก็ไม่ยินยอม
"ขอยกตัวอย่างพนักงานสอบสวนรายหนึ่งยศร้อยตำรวจเอก อยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา พรรคพวกร่วมกันลงขันให้เงินเพื่อเดินทางไปทำงานภาคใต้ จำนวนเงินก็ได้มากพอสมควร แต่เมื่อไปบอกลูกเมีย คนในครอบครัวก็ไม่ยอม พ่อแม่ก็เป็นโรคความดันขึ้นทันที เขาต้องมาบอกผู้บังคับบัญชาและพรรคพวกว่า เขาไม่สมัครไปแล้ว อันนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้เจ้าตัวเองจะสมัครใจไป แต่ถ้าพ่อแม่ลูกเมียไม่ยินยอมก็มีปัญหาด้วย ผมเองก็อยู่ในข่ายนี้เช่นกัน" พ.ต.ท.ไขแสงกล่าว
พ.ต.ท.ไขแสง กล่าวด้วยว่า พนักงานสอบสวนที่อยู่ในข่ายถูกจับสลากไปภาคใต้อายุอยู่ระหว่าง 40 -50 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงกำลังสร้างครอบครัว กำลังดูแลลูกที่กำลังเติบโต ดูแลพ่อแม่ที่กำลังป่วยและแก่ชรา แตกต่างจากทหารเกณฑ์ที่อยู่ในช่วงอายุ 20-21 ปีที่ยังมีภาระไม่มาก
"ผมคิดว่าทางออกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมากกว่านี้ ไม่ใช่มาจับสลาก ต่อจากนี้เป็นเรื่องของ ก.ตร.ที่จะต้องพิจารณาใช้ดุลยพินิจว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างไร หากมีคำสั่งให้จับสลากออกมาก่อนก็อาจต้องขออำนาจศาลปกครองให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพราะเราเดือดร้อนจริงๆ" พ.ต.ท.ไขแสง ระบุ
ร้องกองปราบช่วยสาวมิสทีนถูกอุ้มหายที่เจาะไอร้อง
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันศุกร์ที่ 28 ธ.ค.2555 น.ส.ภัคจีรา แดงปง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ซอยวอสเบียน ถนนสุริยะประดิษฐ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) เพื่อขอให้ช่วยสืบสวนและตามหาตัวพี่สาวของเธอเอง คือ นางอุดมลักษณ์ ชาน อายุ 41 ปีที่ถูกคนร้าย 4 คนจับกุมตัวหายไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ก.ย.2555 เหตุเกิดที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส แต่คดีไม่คืบหน้า จนเกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต
น.ส.ภัคจีรา กล่าวว่า พี่สาวของเธอทำงานเป็นผู้อำนวยการเขตของบริษัทเบตเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางยี่ห้อมิสทีน มีหน้าที่รับผิดชอบรับสมัครสมาชิกมิสทีน และฟรายเดย์ รวมถึงเก็บเงินค่าสินค้า รับผิดชอบครอบคลุม 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส
ในวันเกิดเหตุพี่สาวได้เดินทางออกจากบ้าน โดยขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฏผ 4673 กรุงเทพมหานคร ไปกับ นางนาอีมะห์ สามุ อายุ 27 ปี ผู้จัดการเขตฟาริส โดยจะไปทำธุระที่บ้านปิเหล็ง (อ.เจาะไอร้อง) เมื่อไปถึงสามแยกเจาะเกราะ อ.เจาะไอร้อง มีชายชุดดำแต่งกายคล้ายทหารจำนวน 4 คนกำลังตั้งด่านลอยตรวจค้นรถจักรยานยนต์อยู่ เมื่อรถของพี่สาวแล่นผ่าน ก็ถูกชายชุดดำเรียกให้หยุด และอ้างว่าได้รับรายงานว่ารถคันนี้มียาเสพติดอยู่ในรถ จากนั้นจึงบังคับให้พี่สาวและนางนาอีมะห์ให้ไปนั่งที่เบาะหลัง แล้วจึงนำผ้าผูกตาไว้ มีคนร้าย 2 คนนั่งประกบข้างๆ ส่วนอีก 2 คนขึ้นไปนั่งด้านหน้าแทนแล้วขับรถออกจากจุดเกิดเหตุ เมื่อขับรถไปได้พักใหญ่ก็หยุดรถ และมีคนร้ายอีก 3 คนนำตัว นางนาอีมะห์ ไปขึ้นรถอีกคันเพื่อนำตัวไปปล่อยที่บ้านยาโงะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ส่วนพี่สาวของเธอหายตัวไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
น.ส.ภัคจีรา กล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าไม่ใช่คดีที่เกี่ยวกับความมั่นคง แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาหน้าที่การงาน ซึ่งที่ผ่านมาพี่สาวเองก็ไม่เคยบอกว่ามีปัญหาอะไร รู้แต่ว่าใกล้จะลาออกแล้ว เพราะสถานการณ์ในพื้นที่รุนแรงขึ้นทุกวัน สำหรับพนักงานที่ไปด้วยกัน ตอนแรกก็ให้การสับสน และยังปฏิเสธด้วยว่าไม่ได้ไปด้วยกัน จนถึงขั้นต้องมีการเช็คโทรศัพท์ถึงได้ยอมรับว่าไปด้วย และที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือทำไมคนร้ายต้องนำตัวนางนาอีมะห์ไปส่งถึงที่บ้าน จึงเกิดความเคลือบแคลงและต้องการให้ตำรวจกองปราบช่วยสะสางคดี
น.ส.ภัคจีรา กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้มีการจับกุมคนร้ายพร้อมรถยนต์ของพี่สาวได้ จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายกำลังนำรถคันนี้ไปใช้ประกอบระเบิดคาร์บอมบ์ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามหาเจ้าของรถ หรือกลุ่มคนร้ายที่จับตัวพี่สาวไป กลับไม่ได้ความ เหมือนถูกตัดตอนไปแล้ว นอกจากนั้นหลังเกิดเหตุเคยมีผู้ใช้โทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโทรเข้าแจ้งมาว่าพี่สาวยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ครอบครัวยังมีความหวังอยู่บ้าง จึงอยากขอให้กองปราบช่วยสืบสวนให้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ เบื้องต้น พล.ต.ต.พิศาล ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม (ผกก.6 บก.ป.) สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเข้าไปให้การช่วยเหลือต่อไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : อาวุธปืนสงครามที่เจ้าหน้าที่ตามยึดได้ที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ขอบคุณ : ข่าวเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการจับสลากพนักงานสอบสวนลงใต้ ได้รับการเอื้อเฟื้อจากสำนักข่าวเนชั่น