ม็อบชาวบ้านร้องกองปราบคุ้มครองแกนนำ-ปักหลักจี้ ‘ยิ่งลักษณ์’ เร่งโฉนดชุมชน
‘เฉลิม’ นั่งหัวโต๊ะประชุมร่วมพีมูฟ ม็อบโฉนดชุมชนปักหลักทำเนียบอีกรอบ ร้องกองปราบคุ้มครองแกนนำถูกปองร้าย วอนศาลยุติคุ้มครองชั่วคราวบริษัทปาล์ม พรุ่งนี้รอพบนายกฯ จี้ขับเคลื่อนโฉนดชุมชน
วันที่ 24 ธ.ค. 55 สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ (สกต.) และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) กว่า 500 คน ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอเจรจาแก้ไขปัญหากรณีนางปราณี บุญรักษ์ อายุ 52 ปี และนางมณฑา ชูแก้ว อายุ 50 ปี ชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนาถูกลอบยิงด้วยอาวุธสงครามจนเสียชีวิตในพื้นที่สวนปาล์มของ บริษัท จิวกังจุ้ยพัฒนา จำกัด หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ 19 พ.ย.55 และเร่งรัดให้มีการส่งมอบพื้นที่จัดทำเป็นโฉนดชุมชน โดยมีนายสุพร อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับเรื่อง
นายสุพจน์ กาละสงค์ ผู้ประสานงานชุมชนคลองไทรพัฒนา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ทวงถามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวจากพ.ต.อ.ปวร พรพรหมมา ผกก.สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี โดยได้รับคำชี้แจงว่าเนื่องจากคนร้ายอยู่นอกพื้นที่ ประกอบกับไม่มีพยานบุคคล จึงยากแก่การสืบสวนคดี นอกจากนี้ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้จัดส่งเจ้าหน้าตำรวจรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีประจำการเลย จึงร้องขอให้รัฐบาลจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลางดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านแทน เพราะไม่เชื่อใจชุดรักษาความปลอดภัยของจ.สุราษฎร์ธานี เนื่องจากอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนมาก รวมถึงเร่งรัดการชดเชยเยียวยาผู้เสียชีวิตจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมด้วย
“วันหนึ่งผมกลับมาจากข้างนอก เห็นคนถือปืนเอ็ม 16 อยู่ข้างทาง แจ้งไปทางโรงพัก กลับบอกว่าไม่เจอรถต้องสงสัย ทั้งที่ขับสวนกัน ตนก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น สุดท้ายทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจถือเอ็ม 16 มาคุมการเก็บเกี่ยวปาล์มในพื้นที่”
ผู้ประสานงานชุมชนคลองไทรพัฒนา กล่าวต่อว่า ชาวบ้านยังพบการซื้อขายที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ผิดกฎหมาย ทั้งที่ตามระเบียบได้กำหนดให้เกษตรกรที่รับสิทธิเข้าทำประโยชน์เพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น ห้ามซื้อขายหรือถ่ายโอนเด็ดขาด แต่กลับมีการทำสัญญาซื้อขายที่ดินดังกล่าว ณ สถานีตำรวจภูธรและที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ จึงหวั่นว่าอาจไม่ได้ความชอบธรรมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตรวจสอบสัญญาซื้อขายที่ดินส.ป.ก. จำนวน 3 ฉบับ โดยมีเนื้อหาระบุ ฉบับที่ 1 สัญญานี้ทำ ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ 9 ก.ค. 55 ระหว่างนายทวี แดงอนันต์ บ้านเลขที่ 112 หมู่ 2 ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ขายสวนปาล์มให้นายสนั่น นามสนธิ์ บ้านเลขที่ 2/4 หมู่ 6 ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ จำนวน 22 ไร่ มูลค่า 1,400,000 บาท
ฉบับที่ 2 สัญญานี้ทำ ณ สถานีตำรวจภูธรอ.เขาพนม จ.กระบี่ เมื่อ 9 มิ.ย. 54 ระหว่างนายสุนทร ช่วยบำรุง บ้านเลขที่ 35 หมู่ 1 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เป็นผู้ขายสวนปาล์มให้นายเชิด หงษ์งาม บ้านเลขที่ 1 หมู่ 5 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ จำนวน 24 ไร่ มูลค่า 1,000,000 บาท
ฉบับที่ 3 สัญญานี้ทำ ณ หุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ปาล์มพรหมมินทร์ ออยย์ เมื่อ 10 มี.ค. 54 ระหว่างนายสุนทร ช่วยบำรุง บ้านเลขที่ 35 หมู่ 1 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เป็นผู้ขายให้นายวิสิษฐ์ ปานพรหมมินทร์ บ้านเลขที่ 38 หมู่ 11 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 93 ไร่ มูลค่า 6,000,000 บาท
ด้านนายกฤษกร ศิลารักษ์ ผู้แทนกลุ่มพีมูฟ กล่าวว่า พื้นที่ชุมชนคลองไทรพัฒนา เป็น 1 ใน 55 พื้นที่เตรียมนำร่องโฉนดชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งปัญหาเกิดจากรัฐบาลขาดท่าทีที่แน่ชัดในการผลักดันนโยบายดังกล่าว เพราะคิดว่าเป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่ความจริงเป็นแนวทางของภาคประชาชน ทำให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นไม่กล้าสานต่อ รวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานีที่พร้อมจะตัดถนนตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน เพียงแต่รอความชัดเจนจากรัฐบาลสั่งการเท่านั้น
ขณะที่นายสุพร อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับปากจะทำหนังสือเสนอต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เร่งรัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากส่วนกลาง พร้อมติดตามค่าชดเชยเยียวยาผู้เสียชีวิตที่ผ่านมาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านต่อไป
จากนั้นในช่วงบ่าย ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการประสานงานเพื่อจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช. ) เพื่อพิจารณากรอบวาระต่าง ๆ รวมถึงการหาทางแก้ไขเร่งด่วนกรณีชาวบ้านชุมชนคลองไทรพัฒนาถูกลอบยิงเสียชีวิต 2 ราย
โดยแหล่งข่าวระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม มอบหมายให้พล.ต.ต.จรัญ ชิตะปัญญา ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี รับเรื่องหาทางออกกับชาวบ้าน เนื่องจากติดภารกิจ ซึ่งที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี รับปากจะเร่งขับเคลื่อนนโยบายโฉนดชุมชน ซึ่งเป็นของรัฐบาลก่อนแน่นอน เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนชื่อนโยบายให้สอดคล้องมากขึ้น พร้อมจะประสานงานกับกองบังคับการปราบปราม เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่คุ้มครองชีวิตและทรัพย์ชาวบ้านภายใน 1 อาทิตย์ ส่วนกรณีให้เร่งรัดศาลฎีกายุติการคุ้มครองบังคับคดีชั่วคราวนั้น รัฐบาลในฐานะฝ่ายบริหารไม่อยู่ในสถานะกระทำได้ อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้ (25 ธ.ค. 55) ชาวบ้านจะปักหลักรอพบน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมเดินทางไปศาลฏีกา เพื่อยื่นหนังสือให้ยกเลิกการขอทุเลาบังคับคดีชั่วคราวคุ้มครองผลประโยชน์ของบริษัทในพื้นที่ชุมชนคลองไทรช่วงบ่ายต่อไป.