เปิดชื่อ 11วัด ใช้จ่ายงบฟื้นฟูน้ำท่วมไม่ถูกต้อง – โยงปม “เงินบริจาค-เครื่องราชฯ”
เปิดรายชื่อวัด 11 แห่ง ใช้จ่ายงบฟื้นฟูน้ำท่วม ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์โครงการ –สตง.ชี้ระบบการจัดทำบัญชีรายรับ-จ่ายมีปัญหา เสี่ยงเกิดทุจริต โยง “เงินบริจาค-เครื่องราชฯ”

กรณีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อนำไปใช้ในการจัดทำโครงการช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยา วัด ในจังหวัด พิษณุโลก ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม ในช่วงปลายปี 2554 ซึ่งมีลักษณะการใช้จ่ายเงินอุดหนุนเพื่อบูรณะและปฏิสังขรณ์ของวัดไม่เป็นไปตาม วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในโครงการ
(อ่านข่าวประกอบในเรื่อง “สตง.” ชำแหละงบฟื้นฟูน้ำท่วม “วัด” พบพิรุธเพียบ - จ้างงานผู้รับเหมาไม่ทำสัญญา http://www.isranews.org/ข่าว/item/18424-“สตง-”-ชำแหละงบฟื้นฟูน้ำท่วม-“วัด”-พบพิรุธเพียบ-จ้างงานผู้รับเหมาไม่ทำสัญญา.html )
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากการตรวจสอบรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้ ของ สตง. พบว่า มีการระบุข้อมูลวัดจำนวน 11 แห่ง ในจังหวัดพิษณุโลก ที่นำงบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วมที่ได้รับไปใช้จ่ายโดยไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. วัดน้ำผึ้ง ตําบลท่าสะแก อําเภอชาติตระการ ที่ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายใน การซ่อมแซม หลังคาวิหารและศาลาการเปรียญ และยกระดับกุฏิที่ถูกน้ำท่วมให้สูงขึ้น จํานวน 3 หลัง เป็นเงิน 594,500 - บาท แต่ในการดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการทาสีผนังวิหาร กุฏิ และเทพื้นคอนกรีตบริเวณศาลาการเปรียญ และนําเงินส่วนที่เหลือนําไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกุฏิหลัง ใหม่ จํานวน 1 หลัง
2. วัดหนองลาน ตําบลนครไทย อําเภอนครไทย ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการ ซ่อมแซมโครงสร้างกุฏิ และศาลาการเปรียญที่ทรุดตัว เป็นเงิน 50,800.- บาท แต่ในการดําเนินการจริงวัดได้นํา เงินบางส่วนไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการทาสีกุฏิและศาลาการเปรียญ และนําเงินส่วนที่เหลือไปจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง มาใช้ในการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่แทน
3. วัดนาบัว ตําบลนาบัว อําเภอนครไทย ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ประตูหน้าต่างอุโบสถ และเสากุฏิที่ได้รับความเสียหาย เป็นเงิน 83,200.- บาท แต่ในการดําเนินการจริงวัดได้นํา เงินบางส่วนไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเทพื้นปูนโดยรอบบริเวณอุโบสถ และนําเงินส่วนที่เหลือนําไปสมทบกับเงิน ของวัดที่ได้รับบริจาคไปเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกุฏิหลังใหม่แทน
4. วัดโพธิ์ประสาท ตําบลบ่อทอง อําเภอบางระกํา ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุน เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายใน การถมดินปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัด เป็นเงิน 350,100.- บาท แต่ในการดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วน ไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเทพื้นคอนกรีตบริเวณหน้าศาลาการเปรียญ และนําเงินส่วนที่เหลือสมทบกับเงินของ วัดที่ได้รับบริจาคไปเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างห้องน้ำแทน
5. วัดราษฎร์บําเพ็ญ ตําบลบางระกํา อําเภอบางระกํา ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายใน การถมดินปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัด เป็นเงิน 400,000.- บาท แต่ในการดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไป ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการถมดินปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัดเพียงบางส่วน และนําเงินส่วนที่เหลือไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายใน การเทพื้นคอนกรีตรอบอุโบสถและสมทบกับเงินของวัดที่ได้รับบริจาคไปเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกําแพงวัด
6. วัดกรับพวง ตําบลวังอิทก อําเภอบางระกํา ได้ขอและรับเงินอุดหนุนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่าย ในการถม ดินปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัด เ ป็นเ งิน 400,000.- บาท แต่ดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไปใช้เป็น ค่าใช้จ่ายในการเทพื้นคอนกรีตภายในบริเวณวัด และนําเงินส่วนที่เหลือสมทบกับเงินของวัดที่ได้รับบริจาคไปเป็น ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโรงครัว
7. วัดวังพิกุลวราราม ตําบลวังพิกุล อําเภอวังทอง ได้ขอและรับเงินอุดหนุนเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการถม ดินปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัด เป็นเงิน 312,400.- บาท แต่ดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไปใช้จ่ายในการลง หินเกร็ดปรับพื้นที่และภูมิทัศน์ภายในบริเวณวัด และนําเงินส่วนที่เหลือไปปรับปรุงพัฒนาวัดในด้านอื่นๆ
8. วัดกําแพงมณี ตําบลโคกสลุด อําเภอบางกระทุ่ม ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้ซ่อมแซมหลังคา ศาลาพิพิธภัณฑ์ ยกระดับกุฏิเจ้าอาวาสให้สูงขึ้น และถมดินปรับพื้นที่ภายในบริเวณวัด เป็นเงิน 1,000,000.- บาท แต่ดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไปใช้จ่ายในการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยเทพื้นคอนกรีตภายในบริเวณวัดและ ปรับปรุงศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ และนําเงิน ส่วนที่เหลือสมทบกับเงินของวัดไปเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกุฏิขึ้น ใหม่ จํานวน 1 หลัง
9. วัดเสนาสน์ ตําบลท่างาม อําเภอวัดโบสถ์ ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้ถมดินปรับพื้นที่ภายใน บริเวณวัด เป็นเงิน 400,000.- บาท แต่ดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไปใช้จ่ายในการถมดินปรับพื้นที่ภายใน บริเวณวัดบางส่วน และนําเงินส่วนที่เหลือไปเป็นค่าใช้จ่ายในการทาสีอุโบสถ และเจดีย์
10. วัดวังวน ตําบลวังวน อําเภอพรหมพิราม ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุน เพื่อใช้ถมดินปรับพื้นที่ภายใน บริเวณวัด เป็นเงิน 350,100.- บาท แต่ดําเนินการจริงวัดได้นําเงินไปใช้จ่ายในการลงหินเกร็ดภายในบริเวณวัด เป็นเงิน 92,644.-บาท ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบวัดยังมีเงินที่มิได้นําใช้จ่ายอีก เป็นเงิน 257,456.- บาท ซึ่งเงินที่ เหลือจํานวนดังกล่าววัดชี้แจงว่าจะนําไปใช้ทาสีอุโบสถ และพัฒนาวัดต่อไป
11. วัดราชบูรณะ ตําบลในเมือง อําเภอเมืองพิษณุโลก ได้ขอและได้รับเงินอุดหนุนเพื่อใช้ถมดินปรับพื้นที่ ภายในบริเวณวัด แต่ดําเนินการจริงวัดได้นําเงินบางส่วนไปใช้จ่ายในการปรับปรุงภูมิทัศน์และสวนหย่อมภายใน บริเวณวัด และนําเงินส่วนที่เหลือสมทบกับเงินของวัดเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมกุฏิ จํานวน 2 หลัง
สตง.ระบุในรายงานการสอบสวนว่า จากการที่วัดทั้ง 11 แห่ง ใช้จ่ายเงินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งขอรับการสนับสนุนและนําเงินไป ใช้ในกิจกรรมอื่นที่นอกเหนือจากที่ได้แจ้งความประสงค์ไว้ไม่ว่าจะเป็นการนําไปเป็นค่าใช้จ่ายการก่อสร้างสิ่งปลูก สร้างใหม่หรือนําไปพัฒนาวัดในด้านอื่นๆ ที่ไม่ได้รับรับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยโดยตรง ซึ่งนอกจากไม่เป็นไปตาม เงื่อนไขที่สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกําหนดไว้ ตามหนังสือ ที่ พศ 0003/ 1503 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 เรื่องโอนเงินอุดหนุน และปฏิสังขรณ์วัดที่ประสบอุทกภัยให้สํานักงาน พระพุทธศาสนาจังหวัดเบิกจ่ายแล้ว ยังไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และแนวทางในการดําเนินงานการให้ความ ช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ที่ได้กําหนดหลักเกณฑ์ของโครงการที่เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จะต้องเป็นโครงการที่จําเป็นต้องดําเนินการทันที เพื่อเป็นการช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา และแก้ไขซ่อมแซมของเดิมที่ ชํารุดเสียหายอันเนื่องจากเหตุอุทกภัยโดยตรง เท่านั้น
สตง.ยังระบุด้วยว่า จากการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนบูรณะและปฏิสังขรณ์ของวัด พบว่า ยังขาดความรัดกุม โดยวัดไม่ได้นําเงินงบประมาณที่ได้รับและนําไปใช้จ่ายไปลงบัญชีรับจ่ายเงินของวัด และมีวัดหลายแห่งไม่ได้ มีการจัดทําบัญชีรับจ่ายเงินของวัดไว้เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบของเจ้าอาวาสวัดว่าการรับ - จ่ายเงินของวัดว่าเป็นไปโดยเรียบร้อยถูกต้องหรือไม่ ตามที่กําหนดไว้ตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2511) ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ข้อ 6
นอกจากนั้นยัง พบอีกว่าหลักฐานการจ่ายเงินของวัดบางแห่งที่นํามาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดูเป็นหลักฐานที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ ครบถ้วน เช่น
1. ใบเสร็จรับเงินของผู้ขาย/ผู้รับจ้าง ไม่ระบุชื่อ สถานที่อยู่ของผู้รับเงิน วัน เดือน ปี ที่รับเงิน และ รายละเอียดรายการที่ซื้อหรือจ้าง ได้แก่ วัดคลองเป็ดใต้ ตําบลวังพิกุล อําเภอวังทอง
2.ใช้ใบส่งของผู้รับจ้างเป็นหลักฐานการจ่ายเงินแทนใบเสร็จรับเงินของผู้รับจ้าง ได้แก่ วัดเสนาสน์ ตําบลท่า งาม อําเภอวัดโบสถ์
3. เอกสารหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายบางรายการไม่ตรงกับงานที่ดําเนินการจริง ได้แก่ วัดตระแบกงาม ตําบล ชุมแสงสงคราม อําเภอบางระกํา, วัดหนองอ้อ ตําบลชุมแสงสงคราม อําเภอบางระกํา
4. ไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินให้ตรวจสอบ ได้แก่ วัดโพธิ์ประสาท ตําบลบ่อทอง อําเภอบางระกํา
“จากการที่วัดขาดระบบการควบคุมเกี่ยวกับการรับจ่ายเงินที่ดี มีผลทําให้เจ้าอาวาสวัด ไม่สามารถทราบได้ว่าการรับจ่ายเงินของวัดเป็นไปโดยถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือไม่ รวมทั้งไม่มีหลักฐานแสดงฐานะการเงินของวัดเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบในการขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ การขอเป็นวัดพัฒนา และเมื่อมีชาวบ้านมาร้องเรียน เรื่องการเงินของวัดด้วย นอกจากนั้นอาจเป็นจุดอ่อนที่ทําเกิดการทุจริตในการรับ – จ่ายเงินของวัดได้ด้วย” สตง.ระบุ
(อ่านรายละเอียดผลสอบสตง. ในเรื่อง เปิดผลสอบ สตง. ชำแหละ “สารพัด” พิรุธงบฟื้นฟูน้ำท่วม 56 วัด จังหวัดพิษณุโลก http://www.isranews.org/index.php?option=com_flexicontent&view=items&cid=58:2012-08-12-13-59-01&id=18429:เปิดผลสอบ-พิรุธงบฟื้นฟูวัด&Itemid=36&preview=1&fcu=montree&fcp=2ee39bd843698d54c92407278a0478d0:kj1liBtevuBK8OfdHIJhrf0ozIspsELD)
