ผู้ตรวจการฯ แฉมี "ใบสั่ง" หาพื้นที่ปลูกยาง ในภาคเหนือ
ผู้ตรวจการประมวลปัญหาประเทศ ทวงถามความจริงใจแก้น้ำท่วม-สั่งถางป่า ปลูกยาง ชี้สังคมต้องการคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม
เมื่อเร็วๆ นี้ ศ.ศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวในงาน "ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นคำเตือน" ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งจัดโดยมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ถึงเรื่องการจัดการภัยพิบัติว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินมีภารกิจดูแลทุกข์ร้อนของประชาชน และทุกข์ร้อนที่เห็นชัดที่สุดจากปีที่ผ่านมา คือ เรื่องภัยพิบัติ ที่ก่อความสูญเสียประมาณ 1.44 ล้านล้านบาท หรือเกือบครึ่งหนึ่งของงบประมาณแผ่นดิน
"เกิดความสูญเสียมหาศาลมาก แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปก็ไม่ได้ทำอะไรกันอย่างจริงจัง จึงเกิดคำถามตามมามากมายว่าภัยพิบัติจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราอยู่ภายใต้ธรรมชาติ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราบรรเทาความรุนแรงได้"
ศ.ศรีราชา กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินมองเห็นความเดือดร้อนที่ประชาชนได้รับจากเรื่องภัยพิบัติ และเข้ามาร้องเรียน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นทุกข์ส่วนตัว แต่รัฐธรรมนูญปี 2550 เปิดโอกาสให้ผู้ตรวจการแผ่นดินสามารถดำเนินการเรื่องที่เป็นทุกข์ใหญ่ของประชาชนหรือความเดือดร้อนที่กระทบต่อส่วนรวมได้ ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงได้ทำโครงการและลงพื้นที่ ท้ายที่สุดได้ข้อสรุปสั้นๆ ว่า "อย่าคิดสู้กับน้ำ และต้องหาที่ให้น้ำอยู่"
"การวางผังเมืองของไทยในทุกโครงการควรต้องมีพื้นที่รองรับน้ำ ทำการขุดลอกห้วย หนอง คลองและบึงต่างๆ ที่เคยถูกละเลยจนเป็นสาเหตุหนึ่งของน้ำท่วม ปัญหาและอุปสรรคอีกประการหนึ่ง คือ ด้านอุตุนิยมวิทยา พบว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่เพียงพอ ไม่มีหน่วยงานรัฐส่วนใดผลิตนักอุตุนิยมวิทยา ทั้งที่การเมืองก็กำลังมาแรง แทนที่จะให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านอุตุนิยมวิทยามารับหน้าที่ กลับให้คนไม่รู้เรื่องมาทำ ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน ไม่ได้ใส่เสื้อสีไหน แต่ประเทศจะอยู่รอดได้ ต้องเผชิญความจริง พูดความจริงและใช้คนรู้จริงมาทำงาน ไม่ใช่ทำงานด้วยปาก"
ศ.ศรีราชา กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศจะเป็นครัวของโลกนั้น ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงว่า พื้นที่สีเขียวของไทยกำลังหายไป เนื่องจากนำพื้นที่ไปปลูกยาง สนองนโยบายรัฐบาลเรื่องประกันราคายาง ฉะนั้น การปลูกยางจึงระบาดจากภาคใต้ไปภาคอีสาน และภาคเหนือ
"ล่าสุดเหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดในภาคเหนือก็เกิดจาก "ใบสั่ง" หาพื้นที่ปลูกยาง ทุกอย่างเชื่อมโยงกันหมดทั้งระบบเศรษฐกิจและนายทุน ถามว่า กรมป่าไม้ยินดีทำงานร่วมกับผู้ตรวจการหรือไม่ ผมอยากให้ลองสำรวจพื้นที่ป่าสีเขียวที่เหลืออยู่จริงๆ ถ้า สปก.จังหวัดไหนไม่ดำเนินการเวนคืนที่จะดำเนินคดีฟ้องมาตรา 157 กับเจ้าพนักงานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เอาป่าดีไปแจก ผมทราบมานานแล้วว่า พอตั้งกรมนี้ขึ้นมา ป่าดีๆ หายไปหมด เพราะเจ้าหน้าที่เอาหลักไปปักแล้วถางทิ้ง โดยอ้างว่า ป่าเสื่อมโทรม"
ศ.ศรีราชา กล่าวถึงปัญหาด้านอื่นๆ ในสังคมไทยด้วยว่า ยังไม่เคยเห็นว่า มีรัฐบาลไหนแก้ไขได้จริง จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจริงใจว่าจะเข้ามาแก้ปัญหา หรือเป็นเพียงระบบการเมืองเปลี่ยนผ่าน ไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม หากเป็นอย่างนั้นประชาชนไทยจะแย่ สิ่งที่คนไทยทุกคนต้องทำ คือ อย่ามองว่าเป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่งหรือของรัฐบาล เพราะรัฐบาลเปลี่ยนผ่านทุกช่วงเวลา และ 2 ขั้วรัฐบาลก็ทะเลาะกันเอง
"มารวมพลังคนละไม้ละมือ เพื่อให้ประเทศอยู่รอดได้ เริ่มจากเรื่องภัยพิบัติและการศึกษา ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนมีคุณธรรม จริยธรรม ที่ผ่านมาบ้านเมืองพังไปเยอะ เพราะมีแต่คนเก่งแต่ไม่มีคุณธรรม จึงควรเน้นคนดีก่อน เพราะคนดีไม่สร้างความเดือดร้อนแก่บ้านเมือง"