เร่งจดทะเบียนลิขสิทธิ์ปัญญาหมอพื้นบ้านไทยกันต่างชาติฮุบ เริ่ม มิ.ย.นี้
สธ.เผยนโยบายพัฒนาแพทย์แผนไทย’56 ดันสมุนไพร 5ดาว-กวาวเครือขาว ไพล กระชายดำ บัวบก ว่านชักมดลูก ชวนหมอพื้นบ้าน 5 หมื่นคนเร่งจดลิขสิทธิ์คุ้มครองภูมิปัญญาป้องกันต่างชาติฮุบ เริ่ม มิ.ย.นี้
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) เปิดเผยในการประชุมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและนักวิชาการด้านการแพทย์แผนไทย ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ โดยกล่าวว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้นำการแพทย์แผนไทย ยาสมุนไพรไทยมาใช้ในระบบบริการสุขภาพ และเป็นหนึ่งในบริการต่างชาติตามนโยบายศูนย์กลางบริการการแพทย์นานาชาติ(เมดิคัลฮับ) ซึ่งประเทศไทย มีจุดเด่นเนื่องจากมีหมอพื้นบ้านมากถึงกว่า 50,000คนทั่วประเทศ มีองค์ความรู้ที่ได้จากการสืบทอดจากบรรพบุรุษ และยังมีหมอแผนไทยที่ผ่านการศึกษาจากสถาบันต่างๆอีกจำนวนมาก จึงมั่นใจว่าบริการด้านการแพทย์ของประเทศไทยจะไม่เป็นรองใคร
ทั้งนี้ในปีงบประมาณ 2556 นี้ สธ.มีนโยบายพัฒนาการแพทย์แผนไทย 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1.เปิดให้บริการผู้ป่วยนอกด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกให้ได้ร้อยละ 14 ของผู้ป่วยนอกทั้งหมด 2.พัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ทำจากสมุนไพรระดับ 5 ดาวต้นแบบ ขณะนี้คิดไว้ 5 รายการ ได้แก่ กวาวเครือขาว ไพล กระชายดำ บัวบก และว่านชักมดลูก 3.การจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ พ.ค.43 ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประคมเศรษฐกิจอาเซียน
รมช.สธ. กล่าวว่าการจดทะเบียนสิทธิ จะเป็นการคุ้มครองภูมิปัญญาหมอพื้นบ้านและผู้ครอบครองฯ หรือผู้ที่มีภูมิปัญญาฯของไทย ซึ่งผ่านกระบวนการทดสอบและทดลองการใช้ประโยชน์โดยประชาชนในท้องถิ่นมาแล้วจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาชนิดหนึ่ง จึงขอให้หมอพื้นบ้านนำตำรายาหรือตำราการแพทย์ที่มีอยู่ไปขึ้นทะเบียนเพื่อไม่ให้สูญหาย สามารถนำใช้ประโยชน์ได้ชั่วลูกหลาน ถือเป็นผู้ทรงสิทธิในตำรับยา ตำราแพทย์แผนไทย ป้องกันต่างชาตินำไปครอบครอง หรือหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ ซึ่งอาจทำให้คนไทยต้องเสียเงินซื้อหรือนำเข้าในราคาแพง
นพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่ามาตรา 16พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยฯ แบ่งประเภทภูมิปัญญากาเป็น 3ประเภท คือ 1.ตำรับยาแผนไทยของชาติหรือตำราการแพทย์แผนไทยของชาติ 2.ตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป 3.ตำรับยาแผนไทยส่วนบุคคลหรือตำราการแพทย์แผนไทยส่วนบุคคล ขณะนี้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯได้สำรวจรวบรวมเป็นทะเบียนภูมิปัญญาในแต่ละจังหวัด ซึ่งตำรับยาและตำราการแพทย์แผนไทยของหมอพื้นบ้านถือเป็นประเภทส่วนบุคคล สามารถขอจดทะเบียนสิทธิ
โดยจะเริ่มเปิดจดทะเบียนสิทธิตั้งแต่ มิ.ย.56 เป็นต้นไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ผู้ที่ยื่นขอจดทะเบียนจะต้องมีสัญชาติไทย และต้องเป็นผู้คิดค้น ผู้ปรับปรุงพัฒนาหรือผู้สืบทอดตำรับยาหรือตำราการแพทย์แผนไทย แต่จะต้องไม่เป็นตำรับยาหรือตำราการแพทย์แผนไทยที่เป็นของชาติ และขั้นตอนการปรุงจะต้องใช้หลักการแพทย์แผนไทยและสารดั้งเดิมตามธรรมชาติ เมื่อได้รับการจดทะเบียนสิทธิแล้วจะเป็นผู้ทรงสิทธิในภูมิปัญญาฯ ของตน ผู้อื่นจะมาจดทะเบียนสิทธิซ้ำไม่ได้ .
ที่มาภาพ : http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=5545