แจ้งให้ทราบ
Current Item Layout Template is 'default-thaireform' does not exist
- Please correct this in the URL or in Content Type configuration.
- Using Template Layout: 'default'
โลกจะแตก เพราะแตกแยก!! ‘นักวิชาการ’ โต้วันสิ้นโลก เตือนปชช.มีสติ
หมายเหตุ : เนื้อความจากงานเสวนา "โลกแตก 2012 !!! ในเชิงวิชาการ... จริงหรือหลอก?" จัดโดย คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้อง 308 อาคารมหามกุฎ
โดยมี ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ผศ.พงษ์ ทรงพงษ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ดร.ไพบูลย์ นวลนิล ภาควิชาฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ นักแผ่นดินไหววิทยา ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ
ผศ.พงษ์ เริ่มต้นกล่าวถึง 'วันโลกแตก' ว่า คนไทยมักจะตีความอิงไสยศาสตร์มากกว่าวิทยาศาสตร์ โดยลากพายุสุริยะ แผ่นดินไหวและโลกร้อนเข้ามาเกี่ยวข้อง กับการทำนายว่า พายุสุริยะเกิดในวันที่ 21 ธ.ค.นี้นั้น เมื่อค้นคว้าข้อมูลดูในอดีตที่เคยเกิดขึ้น พบว่า รอบการเกิดพายุสุริยะ จะเป็น 11 ปี ซึ่งล่าสุดเกิดเมื่อปี 2001 ทำให้ปีนี้ครบรอบพอดี จึงมีผู้พยายามเชื่อมโยง
สถิติที่เคยบันทึกได้ เกี่ยวกับพายุสุริยะเมื่อปี 1859 สามารถบันทึกแสงวาบได้ 2 จุด ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ระบบโทรเลขเสียหาย และมองเห็นท้องฟ้าเรืองแสง เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า พายุสนามแม่เหล็กโลก (Geomagnetic Storm) ในปี 2515 ทำลายวงจรโทรศัพท์ ของ AT&T ปี 2532 เกิดอีกครั้ง มีรัฐที่เกิดไฟดับ จากการที่หม้อแปลงระเบิด ปี 2543 ดาวเทียมสื่อสารหยุดทำงานบางดวง และการสื่อสารโดยวิทยุขัดข้องบางที่ ปี 2549 ระบบจีพีเอสพัง กระทบเครื่องบิน ทั้งหมดนี้ แม้บางปีจะมีสถานการณ์รุนแรง แต่ก็ไม่มีช่วงไหนที่เป็นโซลาร์แมกซิมัม
ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2555 เกิดการระเบิดระดับรุนแรงในรอบปีของดวงอาทิตย์ แต่ก็ไม่มีใครรับรู้ความรู้สึก ดังนั้น พายุสุริยะมีจริง แต่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ แม้ความเสียหายจะมีจริง แต่มนุษย์ก็มีการพัฒนาพร้อมรับมือ อย่างไรก็ตามหากเกิดการปะทุระเบิดบนผิวของดวงอาทิตย์จริง ต้องใช้เวลาถึง 4 วัน ความรุนแรงจึงจะส่งผลกระทบมายังโลก
หากทำนายว่า โลกแตกวันที่ 21 ธ.ค. 2555 หมายความว่าต้องเกิดการระเบิดตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2555 แต่ผ่านมาแล้ว ก็ยังไม่มีการระเบิดบนผิวของดวงอาทิตย์ จึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะเกิดโลกแตกอย่างที่มีการทำนาย...
ขณะที่ "ดร.บัญชา" นักวิชาการ สวทช. เปิดตำรา พร้อมเน้นย้ำว่า 'พายุสุริยะ' ไม่ใช่ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นคำที่มีความหมายกว้าง
ดังนั้น ใครก็ตามที่ออกมาพูดเรื่องพายุสุริยะ โดยที่ไม่จำแนกว่าเป็นลักษณะไหน ส่งผลกระทบอย่างไร จะเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการให้ข้อมูลมั่ว!! ส่วนผู้รับสาร คนฟังข่าว จะฟังแค่ว่าเกิดพายุสุริยะไม่เพียงพอ ต้องติดตามด้วยว่าลงลึกไปถึงระดับไหน จะส่งผลกระทบอย่างไร ถ้าผู้ให้ข้อมูลตอบไม่ได้ แสดงว่ามั่ว!!
การทำนายเกี่ยวกับโซลาร์แฟร์ ที่เป็นแสงวาบมาจากดวงอาทิตย์ กว่าจะมาถึงโลกในแต่ละชนิดใช้เวลา 24-90 ชั่วโมง ดังนั้น การออกมาทำนายล่วงหน้านานๆ จึงไม่มีทางเป็นไปได้ แม้ดวงอาทิตย์จะมีวันหมดอายุขัย กลายเป็นดาวแดงดวงใหญ่มาอมโลก หรือมีดาวเคราะห์น้อยมาชนโลก แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ก็มีอายุไม่เกิน 100 ปี
ด้านดร.สธน กล่าวว่า ความเชื่อเรื่องโลกแตก หรือวันสิ้นสลายของโลกนั้นมีทุกศาสนา ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่มาตามนัด จะมีผู้พยายามออกมาทำนายทุกปี แต่ในทางวิชาการยังไม่มีรายงานการเกิดพายุสุริยะ ส่วนข่าวลือเรื่องดาวเคราะห์นิบิรุที่จะมาชนโลกนั้น หากจะเกิดขึ้นจริงต้องสามารถมองเห็น แต่ขณะนี้ยังมองไม่เห็น
ผมมองว่า 'โลกจะแตก' ก็เพราะความแตกแยกของคน และปัญหาที่มีนักวิชาการ นักโหราศาสตร์และอาชีพอื่นๆ ที่พยายามหาประโยชน์จากการพยายามสร้างเหตุการณ์ ซึ่งร้ายแรงกว่าน้ำท่วม หรือดินโคลนถล่ม จึงอยากเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ และโปรดใช้วิจารณญาณก่อนจะเสียเงิน
สำหรับมุมมองที่มีการเชื่อมโยง 'โลกแตก' กับ 'แผ่นดินไหว' นั้น "ดร.ไพบูลย์" ในฐานะนักแผ่นดินไหววิทยา กล่าวว่า เรื่องแผ่นดินไหว เป็นเรื่องที่มีคนเข้าใจคลาดเคลื่อนมาก มองเป็นเรื่องมายาคติ แม้แต่เหล่านักวิชาการเองก็เช่นกัน ทั้งที่แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่มีฤดูกาล ทั่วโลกมีการไหวทุกวัน เป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาติ เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็เสียหายมากกว่าน้ำท่วม และเกิดขึ้นได้ทั้งจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก และจากการกระทำของมนุษย์ เช่น สร้างเขื่อน
อย่างไรก็ตาม มายาคติที่ว่าปัจจุบันนี้แผ่นดินไหวเกิดขึ้นมากกว่าปกติ แนวความคิดที่ว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยๆ จะช่วยไม่ไห้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และความคิดที่ว่าแผ่นดินไหว สามารถทำนายได้นั้น ล้วนเป็นความคิดที่ผิด เนื่องจากแผ่นดินไหวเกิดขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนขนาดเล็กๆ เกิดขึ้นทุกนาที ฉะนั้น ใครๆ ก็ทายถูก
ที่สำคัญ!! แผ่นดินไหวที่ท้องทะเลทุกครั้งไม่ได้ก่อให้เกิดสึนามิ ปัจจัยที่ทำให้เกิดประกอบด้วย 3 ประการ ได้แก่ 1.ต้องมีขนาดใหญ่เกิน 7 ริกเตอร์ 2.มีความลึก 30-50 กิโลเมตร 3.กลไกการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกต้องเป็นแนวดิ่ง
ในส่วนความพยายามเชื่อมโยงกับ 'พายุสุริยะ' นั้น จากการเก็บสถิติแผ่นดินไหว พบว่า เกิดขึ้นในที่ประจำ ซึ่งไม่สอดคล้องกับปฏิกิริยาของดวงอาทิตย์และขนาดของแผ่นดินไหว ทั้งนี้ หากพลังงานจากพายุสุริยะจะส่งผลอย่างหนักต่อโลกจริง ดวงจันทร์ที่มีขนาดเล็กกว่าโลกและอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าคงได้รับผลกระทบและแตกไปก่อนแล้ว เช่นเดียวกับความเชื่อเกี่ยวกับ 'ปรากฏการณ์ดาวเรียงตัว' ในปลายปีนี้ ที่มีผู้ให้ข้อมูลว่าจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่นั้น ได้ทำการตรวจสอบแล้วก็ไม่พบและเป็นไปไม่ได้
ส่วนใครที่ออกมาทำนายแผ่นดินไหว ทั้งประชาชนและสื่อมวลชนต้องติดตามถามให้ครบว่า สามารถบอกได้ครบองค์ประกอบ ที่ว่า "เกิดที่ไหน เกิดเมื่อไหร่และมีขนาดเท่าใด" เพราะหากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ถือว่าทำนายไม่ถูก!!
"ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการชาวอิตาลี 7 คน ถูกตัดสินจำคุกไป 6 ปี ด้วยข้อหาไม่แจ้งว่า เดือนเมษายน 2009 จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 6.3 ริกเตอร์ ทำให้คนเสียชีวิต 309 ราย และบาดเจ็บ 1,500 ราย ส่วนประเทศไทยการให้ข้อมูลค่อนข้างปล่อยเสรี บ้างให้ข้อมูลแล้ว ขึ้นว่า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและรับชม อย่างนี้น่าเป็นห่วง ให้ข่าวไปแล้วเกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจอย่างมาก โดยเฉพาะที่ 6 จังหวัดอันดามันภาคใต้"
ผมเห็นด้วยว่า 'การเตือนภัย' เป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะการซ้อมอพยพ ภาครัฐควรให้ความสำคัญอย่างจริงจัง กับการเตรียมรับมือของหน่วยงานต่างๆ ในสภาวะวิกฤติ ต้องซ้อมจำลองสถานการณ์อย่างน้อย 50% ของเหตุการณ์ จริง ทุกวันนี้ระบบเตือนภัยของไทยล่าช้า ทันทีที่ตรวจวัดเจอคลื่นที่จะเกิดแผ่นดินไหว ต้องผ่านการเซ็นอนุมัติ กว่าจะมีการเตือนภัยก็ไม่ทันการณ์ ทั้งที่แผ่นดินไหวเกิดข้ามประเทศโดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต
ปัญหาที่สำคัญที่สุดสำหรับประเทศไทย คือ คนไทยสนใจเรื่องภัยพิบัติน้อย และไม่อ่านหนังสือ ไม่ค้นคว้าข้อมูล พอมีข่าวลืออะไรก็หวั่นไหวกันไปทั้งประเทศ...
"เราไม่ได้สนใจตามในเรื่องวิชาการ ยกตัวอย่างง่ายๆ คลิปการบรรยายเรื่องแผ่นดินไหวของผม 2 ปีผ่านไปมีผู้เข้าชม 4,000 กว่าวิว แต่คลิปหลุดนักศึกษาเพียง 1 ชั่วโมง เป็นคนเข้าชมเป็นล้านวิว"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นักวิทยาศาสตร์ "นาซา" มีคำตอบ ทำไม 21-12-12 โลกไม่แตก !?!
วันสิ้นโลกในมุม ดร.ก้องภพ อยู่เย็น "สำคัญที่ จิต-สติ จะพาเราไปอยู่ในที่ ๆ เหมาะสม"
นักธรณีฯ ชี้หนังฟอร์มยักษ์ ทำมนุษย์จินตนาการเว่อร์ ถึงวันโลกแตก