'อัมมาร' ปลุกคนไทยเปลี่ยนทัศนคติ หวงแหนเงินภาษี หวังเบรครบ.ใช้เงินมือเติบ
ดร.อัมมาร ชี้ คนไทยไม่แค้นคนโกง เหตุไม่รู้สึกว่าเงินที่รัฐบาลใช้-ทำให้สูญเสียเป็นภาษีประชาชน
เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)กล่าวปาฐกถาหัวข้อ “ใส่ใจภาษี: ทางเลือกในการหยุดคอร์รัปชั่น” ในงานสัมมนาโปร่งใสยามบ่าย คนไทยไม่โกง โดยระบุถึงการคอร์รัปชั่นในประเทศไทยว่า เป็นเรื่องที่มีความก่ำกึ่งอย่างมาก โดยในเชิงอุดมการณ์ คอร์รัปชั่นจัดเป็นเรื่องที่ไม่ดี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคอร์รัปชั่นก็ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นเบอร์หนึ่ง แต่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทยก็คือ ความแค้นต่อการคอร์รัปชั่นอย่างเป็นระบบ
“การต่อต้านคอร์รัปชั่นปัจจุบันแค่ไม่พอใจ ไม่พอ ต้องแค้น ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง เหมือนที่กำลังเกิดขึ้นในต่างประเทศ”
ทั้งนี้ ดร.อัมมาร กล่าวอีกว่า หากวิเคราะห์จากประสบการณ์ในฐานะนักวิชาการ นักวิจัย เพื่อตอบข้อสงสัยว่า การที่เราไม่แค้นต่อการคอร์รัปชั่นเช่นเดียวกับในต่างประเทศ เป็นเพราะประเทศไทยมีความอดทน ดื้อด้านต่อปัญหานี้สูงหรือไม่ อย่างไร พบว่า เกิดจากการที่เราไม่ได้รู้สึกหวงแหนต่อภาษีอากร ยังไม่มีความรู้สึกความเป็นเจ้าของเงินและทรัพย์สมบัติสาธารณะ ต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่มีปัญหาทะเลาะกันมากเรื่องการใช้เงินภาษีอากร การขึ้นภาษี การใช้ภาษีของรัฐบาล และคำตอบง่ายที่เขารู้สึกและเราไม่รู้สึก ก็คือ โครงการประชานิยมสร้างความพึ่งพอใจให้กับคนที่ได้ และความเป็นจริงก็ทุกกลุ่มได้ ไม่ใช่เฉพาะรากหญ้าอย่างที่เข้าใจ ค่าใช้จ่ายเรื่องจำนำข้าวเป็นเบอร์หนึ่ง รองลงมาคือ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ผู้ประกอบการ นายจ้างก็แฮปปี้
“ทั้งนี้ เนื่องจากเราไม่เชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลใช้ สิ่งที่รัฐบาลทำให้สูญเสียเป็นเงินของพวกเราทุกคน ดังน้ัน สิ่งที่ต้องทำคือการเปลี่ยนทัศนคติ มองว่าสิ่งต่างๆ ไม่ใช่เป็นของจากภายนอก ที่ประทานให้มา หรือเทวดาส่งมาให้ แต่เป็นของจากหลวง ที่สำคัญต้องปลี่ยนทัศนคติในเรื่องที่ว่า คนไทยที่เสียภาษีมีเพียงไม่กี่แสนคนด้วย” ดร.อัมมาร กล่าว