อานันท์ ฟันธงคอร์รัปชั่นไทยปีนี้รุนแรงสุด เข้าสู่ยุคกินเมือง !!
"อานันท์" มองปีนี้สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยน่าห่วงสุด เข้าสู่ยุคกินเมือง สร้างเครือข่ายครอบทุกวงการ หวั่นนโยบายปัจจุบันทำประเทศหายนะ หลังปล่อยคนมีอำนาจ โกหก หลอกปชช.ทุกวี่วัน
วันที่ 13 ธันวาคม ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปิดงาน โปร่งใสยามบ่าย คนไทยไม่โกง จัดโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ร่วมกับศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ตอนหนึ่งถึงการคอร์รัปชั่นในประเทศไทยว่า เป็นเนื้อร้ายที่เรื้อรัง และอาจนำไปสู่หายนะของประเทศได้ โดยเฉพาะในช่วงหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ระดับคอร์รัปชั่นของประเทศไทยเพิ่มขึ้นสูงมาก
“ปีนี้ผมมีอายุครบ 80 ปี และเป็นปีแรกที่ต้องขอสารภาพด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์และไม่มีอคติว่า ปีนี้ผมมีความห่วงใยเรื่องคอร์รัปชั่นในเมืองไทยมากที่สุด ตั้งแต่เกิดมา เพราะในอดีตการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องการให้ค่าน้ำชา ค่าสินบน การให้ของชำร่วย ช่วยเหลือในด้านต่างๆ ระหว่างบุคคลกับบุคคล หรือกลุ่มกับกลุ่มเท่านั้น แต่ปัจจุบันคอร์รัปชั่นมีความลึกลับมาก ไม่ใช่แค่ค่าน้ำชา สินบน แต่มีการวางยุทธศาสตร์ มีการวางแผนการณ์ สำคัญที่สุดก็คือ มีการบูรณาการกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่ใช่เรื่องของคนต่อคน หรือกลุ่มต่อกลุ่มอีกต่อไป ขณะนี้เป็นเครือข่ายกันหมด ครอบคลุมถึงนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ สื่อ องค์กรต่างๆ ทั้งรัฐวิสาหกิจ หรือแม้แต่องค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญสร้างขึ้น สุดท้ายสิ่งเหล่านี้นำไปสู่การยึดครองพื้นที่ของประเทศทั้งหมด ทุกพื้นที่ ทุกกิจกรรม ทุกส่วน สมัยนี้จึงไม่ใช่เรื่องการโกงกิน ทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่เป็นการ ‘กินเมือง’ อะไรขวางซื้อหมด อำนาจเงินกลายเป็นอำนาจสูงสุด คนไม่มีค่า”
นายอานันท์ กล่าวอีกว่า นโยบายปัจจุบันจะนำความหายนะมาสู่ประเทศ ซึ่งตนเศร้าว่าคนดีๆ ที่มีความรู้ ก็ตกหลุม ติดกับอยู่กับนโยบายเหล่านี้ ดังนั้น สิ่งที่อยากฝากก็คือ คอร์รัปชั่น มีความหมายมากกว่าทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง และคอร์รัปชั่นไม่ใช่ความหมายเฉพาะเรื่องเงิน แต่การโกหกประชาชนก็เป็นหนึ่งของการคอร์รัปชั่น
“ตราบใดที่เรายังเห็นคนที่มีอำนาจ มีความรับผิดชอบออกมาหลอกประชาชนทุกวัน วันละ 3 มื้อ อย่าหวังว่าจะแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทยได้” นายอานันท์ กล่าว และว่า ทั้งนี้ การที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวในประเทศไทยได้นั้น จะต้องทำให้คนไทยรู้สึกว่า เงินที่โกงกิน เป็นเงินของเรา เรามีส่วนเป็นเจ้าของ อีกทั้งกลุ่มที่ทำงานเรื่องการต่อต้านคอร์รัปชั่นต้องบูรณาการกระทำของคนทุกกลุ่มร่วมกัน จึงจะได้ประสิทธิภาพมากขึ้น