“ชัจจ์”ไม่แจง"ปม“เงินให้กู้ 232 ล้าน-หย่าเมีย–โอนหุ้นให้ลูก”
“ชัจจ์” ไม่แจงข้อเท็จจริงปมแจ้งบัญชีทรัพย์สิน “เงินกู้ 232 ล้าน-หย่าเมีย –โอนหุ้นให้ลูก” เลขานุการส่วนตัวรับเรื่องไว้ระบุจะติดต่อกลับมา-แต่เงียบหาย
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isnews.org) ตรวจสอบพบข้อสังเกตเกี่ยวกับการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ในการเข้ารับตำแหน่งทางการเมืองหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการไม่แจ้งเงินปล่อยกู้ 232 ล้าน การโอนหุ้นให้บุตรชายและบุตรสาวรวมมูลค่า 34.5ล้านบาทก่อน เข้ารับตำแหน่ง ส.ส. และ กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม การแจ้งสถานภาพ “หย่า”แล้ว“สมรส”กับ นางวิมลรัตน์ กุลดิลก และข้อมูลการทำธุรกิจต่างๆ ของ นางวิมลรัตน์ กุลดิล
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2555 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ พล.ต.ท.ชัจจ์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องต่างๆ แต่ไม่สามารถติดต่อได้
โดยเบื้องต้น ได้ติดต่อไปทางโทรศัพท์ส่วนตัว พล.ต.ท.ชัจจ์ แต่ผู้รับสายแจ้งว่าเป็น ผู้ติดตาม พร้อมแจ้งให้ประสานไปยังเลขานุการส่วนตัว พล.ต.ท.ชัจจ์ เพื่อแจ้งเรื่องการขอสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเลขานุส่วนตัว พล.ต.ท.ชัจจ์ ได้รับแจ้งว่า จะเรียนข้อมูลให้ พล.ต.ท.ชัชจ์ ทราบก่อน จากนั้นจะติดต่อกลับมา เพื่อยืนยันผลการนัดสัมภาษณ์อีกครั้ง
ต่อมาในช่วงบ่ายผู้สื่อข่าว ได้ติดต่อกลับไปยังเลขานุการส่วนตัว พล.ต.ท.ชัจจ์ เพื่อฟังผลการนัดหมายอีกครั้ง ได้รับแจ้งว่า จะเช็คข้อมูลและติดต่อกลับมาอีกครั้ง
แต่รอจนถึงช่วงหัวค่ำวันที่ 13 ธันวาคม 2555 ผู้สื่อข่าวไม่ได้รับการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันกับสำนักข่าว www.isranews.org ว่า ได้รับเรื่องและได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สินตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยื่นเรื่องต่อประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ว่าถูกต้องหรือไม่แล้ว
ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้ยื่นเรื่องต่อประธานกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 ให้ตรวจสอบการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของ พล.ต.ท.ชัจจ์ ตอนรับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ปี 2551 ว่าจงใจปกปิดบัญชีฯหรือไม่ใน 3 กรณี
1.ไม่แจ้งว่ามีเงินกู้ให้ยืมแก่นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน จำนวน 232 ล้านบาท
2.แจ้งในบัญชีทรัพย์สินว่ามีสถานภาพ“หย่า” แต่ กลับเบิกความในศาลแพ่งว่าเป็นสามีนางวิมลรัตน์
3.ไม่แจ้งว่ามีรายได้ค่าที่ปรึกษาบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด