‘ข่าวสด ไทยพีบีเอส เนชั่นแชนแนล ประชาไท’ คว้ารางวัล สื่อเพื่อสิทธิมนุษยชน
รางวัลดีเด่น ข่าว “ทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี” หนังสือพิมพ์ข่าวสด
วันที่ 11 ธันวาคม แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้จัดพิธีมอบรางวัล “สื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน” ประจำปี 2555 หรือ (Press Award 2012) โดยมอบรางวัลผลงานสื่อมวลชนดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนให้สื่อ 4 ประเภท ได้แก่ สื่อหนังสือพิมพ์ระดับชาติ สื่อโทรทัศน์ระดับชาติ (ฟรีทีวี) สื่อโทรทัศน์ระดับท้องถิ่น (เคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียม) และสื่อออนไลน์ ส่วนสื่อหนังสือพิมพ์ระดับท้องถิ่นในปีนี้ไม่มีสื่อใดได้รับรางวัล ณ ห้องกมลทิพย์ ชั้น 2 โรงแรมเดอะสุโกศล (สยามซิตี้) พญาไท กรุงเทพมหานคร โดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล
สำหรับผลการตัดสินมี ดังนี้
- รางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อหนังสือพิมพ์ระดับชาติ รางวัลดีเด่น 1 รางวัลได้แก่ผลงานข่าว “ทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี” หนังสือพิมพ์ข่าวสด
- รางวัลข่าวหรือสารคดีและภาพยนตร์สารคดีสั้นประเภทสื่อโทรทัศน์ระดับชาติ (ฟรีทีวี) ประกอบด้วยรางวัลดีเด่น 1 รางวัลได้แก่ “รายการเปิดปม ตอนรุกรานชาติพันธุ์ชาวเล” จากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และรางวัลชมเชย 1 รางวัลได้แก่ “รายการคุยกับแพะ ตอนคุกหลุมดิน” จากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
- รางวัลข่าวหรือสารคดีและภาพยนตร์สารคดีสั้นประเภทสื่อโทรทัศน์ระดับท้องถิ่น (เคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียม) ประกอบด้วย รางวัลดีเด่น 1 รางวัลได้แก่ผลงานเรื่อง “My Rohingya/โรฮิงญาที่ฉันรู้จัก” จากสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล และรางวัลชมเชย 2 รางวัลได้แก่ผลงานเรื่อง “คุกไทยทำลายคน” จากสถานีโทรทัศน์ว๊อยซ์ทีวี และผลงานเรื่อง “เผาบ้าน-เผายุ้งข้าวชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจาน ปฏิบัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มชาติพันธุ์” จากสถานีโทรทัศน์เดลินิวส์ทีวี
- ส่วนรางวัลข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อออนไลน์ รางวัลดีเด่น 1 รางวัลได้แก่ ผลงานข่าว “คุกซ้อนคุก ชีวิต Transgender ในเรือนจำ สิ่งแปลกปลอมที่ถูกกันออกและล่วงละเมิด” จากหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท
ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลดีเด่นได้รับเงินรางวัล ๆ ละ 30,000 บาท และรางวัลชมเชยรางวัลละ 10,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ
นายอาทิตย์ โชติสัจจานนท์ ผู้สื่อข่าวรายการเปิดปม สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เจ้าของรางวัลดีเด่นจากรายการเปิดปม ตอนรุกรานชาติพันธุ์ชาวเล กล่าวว่า รางวัลที่ได้รับในวันนี้เป็นกำลังใจให้ทำข่าวเรื่องนี้ต่อไป เพราะสื่อโทรทัศน์มีพลังทำให้คนดูเกิดความรู้สึกร่วมมากกว่าสื่อประเภทอื่น อย่างไรก็ตามสื่อทุกประเภทในสังคมควรประสานพลังกันนำเสนอข่าวด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสเป็นสื่อสาธารณะที่เน้นเข้าถึงและนำเสนอปัญหาของคนทุกกลุ่มในสังคม และการที่ไทยพีบีเอสไม่มีโฆษณา จึงไม่ถูกจำกัดกรอบการเนื้อหาจากกลุ่มทุน ทำให้ผู้ผลิตรายการสามารถนำเสนอเรื่องราวของกลุ่มชาติพันธ์เล็ก ๆ อย่างชาวเลได้ ในขณะที่ฟรีทีวีช่องอื่นไม่สามารถทำได้
นายชูวัส ฤกษ์สิริสุข บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท ในฐานะผู้ได้รับรางวัลดีเด่นจากข่าวประเภทสื่อออนไลน์ กล่าวว่า การได้รับรางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชนไม่ได้เป็นการชื่นชมนักข่าว แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนว่าในสังคมยังมีคนที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่มาก รางวัลดังกล่าวเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าข่าวสิทธิมนุษยชนเป็นข่าวที่ทรงคุณค่าและควรจะเป็นจุดยืนหนึ่งของสื่อทุกสำนัก นอกจากนี้ ความคิดความเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยยังมีอยู่น้อย เห็นได้จากสังคมไทยยังให้ความสนใจต่อละครทีวีที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีการตบตี ผู้หญิงเป็นทาสรัก หรือคนใช้ถูกกดขี่ตลอดเวลา สื่อแต่ละประเภทมีจุดดีคนละด้าน ทีวีให้ความสะเทือนใจ เกิดแรงบันดาลใจ ส่วนหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์มีผลสะเทือนในวงกว้างมากกว่าเพราะอยู่นาน เป็นฐานข้อมูลให้สื่ออื่นนำไปทำต่อ
ด้านนายเทพชัย หย่อง ในฐานะองค์ปาฐกหัวข้อ “สื่อมวลชนในฐานะผู้ร่วมปกป้อง คุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในสังคม” ในพิธีมอบรางวัล กล่าวว่า สื่อมวลชนกระแสหลักแต่ละองค์กรควรกำหนดให้ประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นวาระที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง โดยต้องทำความเข้าใจกันเองในบุคลากรฝ่ายบริหาร รวมถึงการอบรมนักข่าว ว่าเรื่องราวด้านสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องไกลตัว และตนเองต้องมีหน้าที่สะท้อนเรื่องนี้ออกมา เพราะในหลาย ๆ ครั้งสื่อเองก็ถูกกล่าวหาจากสังคมว่าการทำหน้าที่ของตนไปละเมิดสิทธิมนุษยชน
รางวัลดีเด่น “รายการเปิดปม ตอนรุกรานชาติพันธุ์ชาวเล” จากสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
รางวัลดีเด่น ผลงานเรื่อง “My Rohingya/โรฮิงญาที่ฉันรู้จัก” จากสถานีโทรทัศน์เนชั่น แชนแนล
รางวัลดีเด่น ผลงานข่าว “คุกซ้อนคุก ชีวิต Transgender ในเรือนจำ สิ่งแปลกปลอมที่ถูกกันออกและล่วงละเมิด” จากหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท
(ภาพถ่ายโดย นายสถาพร ถาวรสุข)